รวบ 1 ใน 2 มือมีดโหดกระซวกเลือดเย็น 105 แผลโชเฟอร์แท็กซี่

รวบ 1 ใน 2 มือมีดโหดกระซวกเลือดเย็น 105 แผลโชเฟอร์แท็กซี่

โฉมหน้านายพีระศักดิ์ หรือตูน โตมา อายุ 29 ปี

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 10 ธันวาคม 2549 17:06 น.

สืบ 2 ตามรวบได้ 1 มือมีดกระหน่ำแทงโหด 105 แผล โชเฟอร์แท็กซี่ เป็นโจรโดยสันดาน สอบประวัติพบเคยก่อคดีมาเป็นหางว่าว เพิ่งประกันตัวออกจากคุก ไม่เข็ดก่อเหตุซ้ำซาก สารภาพร่วมลงมืออย่างโหดเหี้ยม แม้เหยื่อร้องขอชีวิตก็ไม่หยุด หลังแถลงข่าวญาติเหยื่อเห็นกรูจะเข้ารุมกระทืบ โชคดีตำรวจห้ามทัน พี่สาวสุดอั้นร้องตะโกนด่าสาปแช่งสารพัด

นายทนงศักดิ์ หรือเก่ง พรมรักษา อายุ 24 ปี ที่ยังหลบหนี

วันนี้ (10 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน บก.น.2 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายพีระศักดิ์ หรือ ตูน โตมา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 ม.3 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4772/2549 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2549 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่ร่วมกับ นายทนงศักดิ์ หรือ เก่ง พรมรักษา อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนี ร่วมกันใช้อาวุธมีดแทง นายจรัล แสงแก้ว อายุ 45 ปี โชเฟอร์แท็กซี่สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทย 8270 กทม.จนร่างพรุนจำนวน 105 แผล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากหลังเกิดเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.2 ลงพื้นที่หาข่าวและติดตามตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิด โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2549 เวลาประมาณ 00.30 น.มีโชเฟอร์แท็กซี่สีส้ม หมายเลขทะเบียน ทร 111 กรุงเทพมหานคร ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง ว่า ถูกคนร้ายจำนวน 3 คน ใช้อาวุธมีดปล้นเอาทรัพย์สินได้จำนวนหลายรายการ โดยเหตุเกิดบริเวณถนนสรณะคมณ์ ม.ปิ่นเจริญ 2 ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ที่เกิดเหตุนายจรัล ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต จึงเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน

โชเฟอร์แท็กซี่ ร่วมมือให้เบาะแส

กระทั่งวันที่ 8 ธ.ค.เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สืบทราบว่า นายพีระศักดิ์ ผู้ต้องหา ซึ่งเพิ่งประกันตัวออกจากศาลจังหวัดธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2549 ในข้อหา ปล้นทรัพย์ มีพฤติกรรมก่อเหตุปล้น และดักชิงทรัพย์รถยนต์รับจ้างสาธารณะ จึงประสานให้โชเฟอร์แท็กซี่ ทะเบียน ทร 111 กทม.เข้าดูภาพจากแฟ้มประวัติอาชญากร ทำให้ทราบว่าเป็น 1 ใน 3 คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายจับพร้อมติดตามจับกุม กระทั่งทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้ทำงานเป็นคนขับรถส่งของที่ บ.พรไทยมิตร จำกัด แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.เจ้าหน้าที่จึงสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่หน้าบริษัทดังกล่าว ผบช.น.กล่าว

ไอ้ชั่วไม่ทำงานทำการ ออกปล้นหาเงินเที่ยว

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า หลังจากประกันตัวออกมาจากศาลจังหวัดธัญบุรี ก็ไม่ได้มีงานทำ กระทั่งวันที่ 21 ต.ค.จึงได้ชักชวนนายทนงศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีและเพื่ออีกคนไม่ทราบชื่อ ร่วมกันปล้นทรัพย์รถแท็กซี่ทะเบียน ทร 111 กทม.โดยเรียกรถคันดังกล่าวจากหน้าโรงเรียนสีกัน ไปยัง ม.ปิ่นเจริญ 2 เมื่อสบโอกาส นายพีระศักดิ์ ได้เข้าล็อกคอโชเฟอร์ พร้อมบอกไม่ให้ขัดขืน ก่อนที่โชเฟอร์คันดังกล่าวจะแกล้งสลบ และดิ้นหลุดเปิดประตูรถวิ่งหนีได้ คนร้ายจึงทิ้งรถพร้อมกับแยกย้ายกันหลบหนี โดยได้ทรัพย์สินหลายรายการ โดยนำเงินที่ได้แบ่งกันเที่ยวเตร่

จิตใจอำมหิต จ้วงแทงทั้งที่ ร้องขอชีวิต

ผู้ต้องหายังรับสารภาพต่อว่า หลังจากนั้น ในวันที่ 12 พ.ย.2549 เวลาประมาณ 01.00 น.จึงได้ชักชวนนายทนงศักดิ์ ร่วมกันปล้นแท็กซี่อีกครั้ง โดยได้เรียกรถจากบริเวณตรงข้ามโรงเรียนสีกัน ถ.สรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยให้คนขับไปส่งที่ ม.ปิ่นเจริญ 1 เมื่อสบโอกาสตนจะเข้าล็อกคอไม่ให้ผู้ตายขัดขืน ก่อนที่ นายทนงศักดิ์ ได้ชักอาวุธมีดออกมาขู่ แต่ผู้ตายขัดขืนพร้อมร้องบอกว่า อย่าทำผม นายทนงศักดิ์ จึงใช้มีดแทงผู้ตายจำนวน 1 แผล พร้อมลากมานั่งคุกเข่าที่พื้นเบาะหลังเพื่อที่จะได้ค้นตัวได้ง่ายๆ โดยให้ตนเป็นผู้ขับรถแทน โดยตนขับรถวนอยู่ในละแวกดังกล่าวบังคับให้ผู้ตายมอบกระเป๋าเงินออกมา แต่ผู้ตายขัดขืนนายทนงศักดิ์ จึงกระหน่ำแทงลงไปอีกหลายแผล จนผู้ตายยอมบอกว่าเงินอยู่ในกระเป๋าเสื้อ เมื่อได้เงินมา นายทนงศักดิ์ จึงลงมือกระหน่ำแทงผู้ตายอีกหลายครั้งจนเสียชีวิต ก่อนที่พวกตนจะนำรถมาจอดทิ้งไว้ภายในวงเวียนหมู่บ้านปิ่นเจริญ 1 ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี กระทั่งรุ่งเช้านายทนงศักดิ์ได้มาหาตนที่บ้าน ตนจึงให้เงินนายทนงศักดิ์ ไปจำนวน 200 บาท โดยบอกว่าเป็นเงินที่ได้จากผู้ตาย หลังเกิดเหตุตนได้มาช่วยน้องชายขายของตามตลาดนัด จนวันที่ 4 ธ.ค.ได้ไปทำงานเป็นคนขับรถส่งของที่ บ.พรไทยมิตร ได้เพียง 4 วัน ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

ญาติเหยื่อมอบกระเช้าขอบคุณตำรวจ ที่ช่วยจับไอ้ชั่ว

ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว นางสำรวย แสงแก้ว อายุ 41 ปี ญาติผู้พี่ของผู้ตายและเพื่อนโชเฟอร์แท็กซี่ ได้เดินทางมามอบกระเช้าของขวัญแสดงความขอบคุณแก่ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมได้โดยเร็ว หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่อยู่ในรถตู้เพื่อเปลี่ยนมาขึ้นรถยนต์ของชุดสืบสวน ทันทีที่ญาติของผู้ตายและเพื่อนๆ โชเฟอร์แท็กซี่เห็น จึงได้กรูกันเข้าไปเพื่อรุมประชาทัณฑ์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกันตัวขึ้นรถโดยทันที เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุชุลมุนขึ้น โดยนางสำรวยได้ร้องด่าทอ สาปแช่ง ในสิ่งที่ผู้ต้องหาได้ทำลงไป โดยบอกว่าหากเหตุการณ์เช่นนี้เกิดกับครอบครัวใคร ก็ต้องรู้สึกอย่างนี้เช่นกัน

ชั่วในสันดาน คดีเก่าเพียบ

จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหารายนี้ ทราบว่า ก่อนหน้านี้ เคยถูกดำเนินคดีมาแล้วหลายคดีคือ คดีอาญาที่ 1188/2538 ข้อหาลักทรัพย์ ท้องที่ สน.ดอนเมือง ถูกจับกุมเมื่อ 17 มิ.ย. 2538 คดีอาญาที่ 1600/2541 ข้อหาลักทรัพย์ ท้องที่ สน.ดอนเมือง ถูกจับกุมเมื่อ 30 พ.ย. 2541 คดีอาญาที่ 2696/2544 ข้อหาลักทรัพย์ ท้องที่ สน.ดอนเมือง ถูกจับกุมเมื่อ 24 ธ.ค. 2544 คดีอาญาที่ 299/2546 ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) ถูกจับกุมเมื่อ 5 ก.พ.2546 คดีอาญาที่ 515/2548 ข้อหาชิงทรัพย์ ท้องที่ สภ.ต.ปากคลองรังสิต ถูกจับกุมเมื่อ 9 ก.ย. 2548 และคดีอาญาที่ 365/2549 ข้อหาปล้นทรัพย์ ท้องที่ สภ.อ.ธัญบุรี ถูกจับกุมเมื่อ 21 ก.ค.2549 ส่วนนายทนงศักดิ์ ผู้ต้องหาอีกรายที่กำลังหลบหนีเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์