รถขนเงินอีกแล้ว ปล้น17ล. รวบพนง.แซมโก้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.15 น. วันที่ 14 ธ.ค. พ.ต.ท.ยงยุทธ ทองเต็ม พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.คันนายาว

รับแจ้งพบรถขนเงินของบริษัท สยามแอดมินนิสเทรทีฟเมนเนจเมนต์ จำกัด หรือแซมโก้ ที่ถูกคนร้ายปล้นนำมาทิ้งไว้ใกล้ทางเข้าหมู่บ้านปัญญา รามอินทรา โซนพี 5 ถนนปัญญา-รามอินทรา แขวงและเขตคลองสามวา กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หน.ศส.บช.น. พ.ต.อ.สรรค์หกิจ บำรุงสุขสวัสติ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.หาญ เลิศทวีวิทย์ ผกก.สน.คันนายาว พ.ต.อ.อาคม จันทลาช ผกก.สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
 

ที่เกิดเหตุพบรถขนเงินยี่ห้อนิสสัน รุ่นฟรอนเทียร์ สีขาวคาดเขียว ทะเบียน ตธ 5653 กรุงเทพมหานคร รหัสข้างรถ ซี 242 จอดอยู่ในลักษณะประตูทั้ง 2 ข้างเปิดทิ้งไว้

มีนายกราณชัย อุตมาตย์ อายุ 28 ปี พนักงานขับรถของบริษัท และนายถาวร มงคลนำ อายุ 30 ปี หัวหน้าประจำรถ ถูกคนร้ายใส่กุญแจมือไพล่หลังขังไว้ด้านแค็บเบาะหลังคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยเหลือและนำตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก ส่วนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐานได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงของคนร้าย ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ของบริษัทมาเปิดประตูตู้เก็บเงินบริเวณด้านหลังพบเงินเหลือเพียง 1 ล้านกว่าบาท หายไปจำนวน 17 ล้านบาทเศษ
 

สอบสวนนายกราณชัยให้การด้วยน้ำเสียงที่ยังไม่หายตื่นเต้นได้ความว่า

ขับรถขนเงินจำนวน 21.8 ล้านบาท ออกมาจากบริษัทในซอยรามคำแหง 21 เพื่อนำเงินไปใส่ในตู้เอทีเอ็มทั่วกรุง 8 จุด เริ่มจุดแรกบริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซอยพหลโยธิน 22 เป็นจำนวน 2.35 ล้านบาท เมื่อเสร็จเรียบร้อย และกำลังจะนำเงินไปใส่ตู้ เอทีเอ็มจุดที่ 2 เกิดปวดท้องกะทันหัน จึงแวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันปิโตรนาส สาขาเสนานิคม ซอยพหลโยธิน 32 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. พอกลับมาขึ้นรถปรากฏว่า มีคนร้ายสวมหมวกไหมพรม 2 คน ใช้ปืนจี้ให้ทั้งคู่ เข้าไปนั่งตรงแค็บหลังเบาะคนขับแล้วใส่กุญแจมือจับไพล่หลังบังคับให้ก้มหน้าหมอบ โดยคนร้ายได้ขับรถไปจอดย่านวังหิน ขู่นายกราณชัยให้ส่งกุญแจไขประตูตู้เก็บเงินมาให้ จากนั้นคนร้ายได้ลงไปไขประตูตู้เก็บเงิน แต่ ไม่สามารถเปิดได้ เพราะต้องใช้กุญแจของพนักงาน 2 คนไขพร้อมกันเลยมาบังคับเอากุญแจจากนายถาวรไปอีกดอกเปิดประตูขนกระเป๋าใส่กล่องเงินไปใส่รถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนที่ขับตามมา ก่อนที่คนร้ายทั้ง 2 คนจะกลับมาขึ้นรถบริษัทขับไปจอดทิ้งถนนปัญญา-รามอินทรา แล้วพากันวิ่งหลบหนีไปท่ามกลางความมืด
 

เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.คันนายาวได้กระจายกำลังออกค้นหา

กระทั่งพบชายต้องสงสัย 2 คน ท่าทางพิรุธกึ่งเดินกึ่งวิ่งอยู่หน้าหมู่บ้าน โซนพี 1 ห่างจากที่พบรถขนเงินประมาณ 3 กม. จึงเชิญตัวไปโรงพัก ทราบชื่อภายหลังนายบัณฑิต ถึงนอก อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ที่ 11 ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพนักงานของบริษัทแซมโก้ และ พลฯอุทิศ จันทร์สำเภา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 328/175 ถนนอำนวยสงคราม แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. นักกีฬาวอลเลย์บอลของทหารสังกัด มทบ.11 มี พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต. กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น.และชุดสืบสวนสอบสวนแยกกันสอบปากคำอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 5 ชั่วโมง
 



เบื้องต้นทั้งคู่ยอมรับสารภาพว่าร่วมกับนายวรรลพ สร้อยสงค์ อายุ 38 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 113/1 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการของบริษัทที่สมัครเข้าทำงาน พร้อมนายบัณฑิต เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 50 นายสุริยา ไพนริน อายุ 28 ปี อดีตพนักงานบริษัท แซมโก้ พลฯอานนท์ พ่วงอำไพ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 2 ต.ท่าช้าง อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นักวอลเลย์ บอล เพื่อนพลฯอุทิศ และชายไม่ทราบชื่ออีกคน วางแผนดักปล้นรถขนเงินนานกว่า 2 เดือน เมื่อสบโอกาสจึงลงมือ มีพลฯอุทิศรับหน้าที่ใช้ปืนปลอมจี้พนักงานให้นายบัณฑิตขึ้นไปขับรถ ส่วนที่เหลือขับรถเก๋งยี่ห้อฮุนไดตามประกบจนถึงถนนปัญญา-รามอินทรา ได้ขนกระเป๋าใส่รถเก๋งให้นายวรรลพกับ พลฯอานนท์ขับหนีไปเจอจุดนัดแบ่งเงินที่หมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 แต่นายบัณฑิตและพลฯอุทิศดันทะเล่อทะล่าถูกจับเสียก่อน
 

หลังจากได้ข้อมูล ทีมสืบสวนนครบาลเดินทางไปค้นห้องพักของนายวรรลพ สร้อยสงค์ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี

ที่อาคารเสรีอพาร์ตเมนต์ ซอยลาดพร้าว 107 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. พบรถเก๋งยี่ห้อฮุนได โซนาต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน สฮ 3304 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ แต่ไม่เจอพนักงานบริษัทรถขนเงินตัวแสบ จากการตรวจสอบภายในรถยึดหมวกไหมพรมสีดำที่ใช้ก่อเหตุ 2 ใบ ปืนปลอม 1 กระบอก และเอกสารระบุแผนที่ตั้งตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสำโรง บางปู และซอยอุดมเดช จ.สมุทรปราการ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ขณะที่กำลังอีกชุดไปค้นห้อง 204 ของนายสุริยา ไพนริน ที่ติฤษณาแมนชั่น ซอยอ่อนนุช 41 แขวงและเขตสวนหลวง กทม. ไม่พบตัวเช่นกัน แต่เจอเงินสดของกลางจำนวน 1,412,000 บาท
 

สายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้รับแจ้งจากนายวันชัย แซ่อึ้ง อายุ 43 ปี

คนขับรถสองแถวในหมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. ว่า พบกระเป๋าเงินของบริษัทแซมโก้ 2 ใบ อยู่ในพงหญ้าของโครงการหมู่บ้าน พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต. กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.น.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ของบริษัทแซมโก้ เดินทางไปตรวจสอบพบกระเป๋าทั้ง 2 ใบ มีกล่องเหล็กบรรจุเงินอยู่ 4 กล่อง ที่คนร้ายลืมทิ้งไว้ เมื่อเปิดออกพบเงินสด 2.6 ล้านบาท โดยนายวันชัยให้การว่า ช่วงตอน 6 โมงเช้า มีชาย 3 คนสวมชุดซาฟารี ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์เงิน จำได้แค่เลขทะเบียน 980 กรุงเทพมหานคร ว่าจ้างในราคา 500 บาท ให้ช่วยขน กระเป๋าที่วางอยู่ในพงหญ้า 4 ใบ ไปส่งที่ปั๊มน้ำมันเจ็ท ห้าแยกวัชรพล ก่อนขับรถนำหน้าให้ตนขับตาม พอถึงจุดหมาย ทั้งหมดได้ยกกระเป๋าใส่กระบะรถแล้วขับมุ่งหน้าทางซอยออเงิน ย่านสายไหม ตนจึงย้อนกลับมาที่หมู่บ้านแล้วเดินไปปัสสาวะที่พงหญ้า ถึงเจอกระเป๋าอีก 2 ใบซุกอยู่เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 

อย่างไรก็ตาม ทีมสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อว่าคดีที่เกิดขึ้น พนักงานประจำรถขนเงินในคืนเกิดเหตุจะไม่มี ส่วนรู้เห็นเป็นใจ

โดยเฉพาะนายถาวร มงคลนำ หัวหน้าคุมรถที่ส่อพิรุธกว่าเพื่อน ชุดสืบสวนจึงนำตัวไปเค้นปากคำอีกระลอกตลอดช่วงบ่าย นายถาวรถึงยอมรับว่า เป็นหนอนบ่อนไส้ร่วมรู้เห็นกับกลุ่มของนายบัณฑิตลงมือปล้นเงินนับสิบล้านบาทในครั้งนี้ด้วย หลังจากนายบัณฑิตกับนายวรรลพเป็นคนชักชวนหว่านล้อมจะแบ่งเงินให้ครึ่งหนึ่ง ตนเห็นว่าง่ายและเงินเป็นจำนวนมาก ประกอบกับบริษัทเคยโดนปล้นแล้วหลายครั้งแต่จับคนร้ายไม่ได้ น่าจะสวมรอยไปด้วย จึงรับปากทำหน้าที่แค่โทรศัพท์ ส่งซิกให้นายบัณฑิตตอนเวลาขับรถออกจากบริษัทเท่านั้น พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นผู้ต้องรายที่ 3 ที่ถูกจับกุม และเตรียมขยายผลเพิ่มเติมว่ามีใครในบริษัทร่วมวางแผนปล้นรถขนเงินของบริษัทแซมโก้อีกบ้าง
 


ต่อมาเวลา 18.00 น. พ.ต.ท.วันชัย แฉ่งอารี พนักงานสอบสวน (สบ2) สภ.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ. ปทุมธานี พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี และ พ.ต.ท.พัลลภ แอร่มหล้า สวญ.สภ.คลองห้า ไปตรวจสอบกระเป๋าต้องสงสัยเป็นของบริษัทแซมโก้ที่ถูกคนร้ายปล้นมาทิ้งในป่าหญ้า หมู่บ้านเอื้ออาทรรังสิต คลองห้า หมู่ 5 พบกระเป๋าขนาดใหญ่ 4 ใบของบริษัทแซมโก้ มีกล่องเหล็กบรรจุเงินที่ยังไม่ได้เปิดออกทิ้งอยู่ตามที่ชาวบ้านแจ้งข้อมูลไว้จริง จึงประสานนครบาลและบริษัทแซมโก้ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ  ในเวลาไล่เลี่ยกันกำลังตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผกก.1บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ สว.กก.1 บก.ป. กับพวกสามารถจับกุมนายสุริยา ไพนริน ผู้ต้องหารายที่ 4 ของคดีได้แล้ว ขณะย้อนกลับไปที่ห้องพักในซอยอ่อนนุชเพื่อเก็บข้าวของและเงินที่ปล้นได้จำนวนนับล้านบาทหลบหนีอยู่ระหว่างนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่กองปราบปราม 


พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น.ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสรุปได้ว่า

บริษัทรับพนักงานไม่ดีเข้ามาทำงาน ประกอบกับระบบการจัดการไม่ดีพอ เพราะเท่าที่สอบปากคำผู้ต้องหาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้บริหารของบริษัทเคยเรียกประชุมพนักงานวางนโยบายกำชับว่า  หากมีเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ อย่าให้พนักงานต่อสู้เพราะบริษัทมีประกันภัย เมื่อรับนโยบายมาเวลาเกิดเหตุจริง เคราะห์ก็ตกอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถามว่าตำรวจบอกพร่องหรือไม่ ก็ยอมรับว่าบกพร่อง แต่บริษัทต้องปกป้องทรัพย์สินของตัวเองด้วย ควรรับคนที่มีวุฒิภาวะดีมาทำงาน และมีมาตรการป้องกันที่ดีกว่านี้


ด้านนายอนุชัย อัมพะวัต ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนและพัฒนา บริษัทแซมโก้เปิดเผยว่า

การขนเงินในช่วงเวลากลางคืนเป็นการขนเงินไปใส่เครื่องบริการเงินสดตามตู้เอทีเอ็ม ส่วนกลางวันจะเป็นการขนเงินไปส่งให้กับธนาคารต่างๆ ที่ผ่านมาบริษัทจะให้พนักงานพกปืน แต่ ระยะหลังได้เปลี่ยนเป็นการติดระบบดาวเทียมติดตามที่ตัวรถแทน ระบบการป้องกันตู้เก็บเงินจะมีประตู 2 ชั้น ต้องใช้กุญแจ 2 ดอกไขพร้อมกัน พนักงานขนเงินของบริษัทก่อนที่จะรับเข้ามาทำงานต้องมีการส่งประวัติไปตรวจสอบที่ กองทะเบียนประวัติอาชญากร ห้ามพนักงานพกโทรศัพท์ส่วนตัว แต่บริษัทจะมีเบอร์โทรศัพท์ส่วนกลางให้ใช้ และเวลาพนักงานจะออกไปทำงานต้องมีการตรวจสอบเงินภายในตัวพนักงานด้วยว่า มีจำนวนเท่าไร เมื่อกลับมาต้องมีเท่าเดิม หากมีการใช้ไปก็ต้องนำใบเสร็จมายืนยัน
 

สำหรับรถขนเงินของบริษัทแซมโก้ จำกัด ในรอบปีนี้ได้ถูกแก๊งคนร้ายดักปล้นอย่างอุกอาจกลางวันแสกๆ แล้วถึง 2 ครั้ง

เริ่มตั้งแต่กลางเดือน ก.พ. คนร้ายใช้รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ปฏิบัติปล้นขณะนำเงินไปส่งธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาพระราม 9-ศรีนครินทร์ กวาดเงินไป 3 ล้านบาทเศษ และเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อเหตุปล้นบริเวณธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ถนนฉลองกรุง แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. ได้เงินไปเกือบ 23 ล้านบาท ทีมสืบสวนนครบาลระดมล่าตัวกันจ้าละหวั่นแต่ยังไร้วี่แวว ส่วนการปล้นครั้งล่าสุดนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวนกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ส่วนหนึ่งเป็นพนักงานของบริษัทแซมโก้ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุปล้นที่เกิดขึ้น 2 ครั้งก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่


ล่าสุด กองปราบปรามยังร่วมกับชุดสืบสวนบช.น. จับกุมนายประกิต ทองแตง พนักงานขนเงินของบริษัทแซมโก้ เป็นผู้ต้องหารายที่ 5 หลังจากกลุ่มคนร้ายซัดทอดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับการปล้นรถขนเงินในครั้งนี้ด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์