ยึดยา-ดินปืน 80 เขมรมุสลิม ทะลักปอยเปต ข้ามแดนลงใต้

"คนร้ายเตรียมลอบวางระเบิด"


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ร.ต.ท.ไพบูรณ์ ระตะวัน ร้อยเวร สภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พร้อมกำลังตำรวจ ทหาร ไปตรวจสอบเหตุคนร้ายซุ่มยิงคนงานของ หจก.เอส.โอ.เอ็น อินจิเนียริ่ง ซึ่งรับเหมาสร้างถนนตัดใหม่บริเวณบ้านกือรง หมู่ 3 ต.จวบ พบนายจิระศักดิ์ เอี่ยมแจ้งพันธุ์ อายุ 52 ปี ผู้จัดภาคสนามของ หจก.เอส.โอ.เอ็น อินจิเนียริ่ง กับกลุ่มคนงานยืนรอเจ้าหน้าที่ ให้การว่า ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มยิงจนกระสุนไปโดนกระจกหน้ารถแบ็กโฮแตกกระจาย

ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นหาร่องรอยของคนร้ายในป่าใกล้ที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าเกิดเสียงระเบิด ดังสนั่นหวั่นไหวที่พงหญ้าริมถนน และมีชาย 2 คนวิ่งเข้าป่าหายไป เจ้าหน้าที่จึงยิงสาดกระสุนยิงไล่หลังแต่ไม่ถูกใคร จึงประสาน พ.ต.ท.สุกิจ ขำมาก สว.นปพ.ภ. จ.นราธิวาส นำหน่วยเก็บกู้ระเบิดชุด เหยี่ยวดง และเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.นราธิวาส มาตรวจสอบ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 กก. จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ กระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายลอบวางระเบิดเอาไว้ก่อนแล้ววางแผนยิงรถแบ็กโฮเพื่อหลอกให้เจ้าหน้าที่มาตรวจที่เกิดเหตุ ก่อนจุดชนวนระเบิดถล่มหวังฆ่าหมู่ เจ้าหน้าที่ แต่โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย


"แจกใบปลิว อย่าหลงเชื่อโจร โยนความผิดให้ จนท."


ขณะเดียวกัน กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ได้นำ ฮ.ขึ้นบินโปรยแผ่นปลิวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในแผ่นปลิวมีข้อความทั้งภาษาไทยและภาษายาวี เตือนให้ระวังเล่ห์กลคนร้ายที่แต่งกายเลียนแบบเจ้าหน้าที่แล้วก่อเหตุร้ายแล้วโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ เพื่อหลอกลวงให้ประชาชนเผชิญ หน้ากับเจ้าหน้าที่ และใช้เป็นเครื่องมือก่อความไม่สงบ ขออย่าได้หลงเชื่อตกเป็นเครื่องมืออย่างเด็ดขาดพร้อมให้ระวังคนแปลกหน้าที่เข้ามาในชุมชน และขอให้ช่วยดูแลแนะนำบุตรหลานอย่าให้หลงผิดทำตามคำชักชวน หากมีข่าวสารขอให้แจ้งไปที่ โทร.11341, 1881, 0-7334-0361 และ 0-7334-0378 ตลอดเวลา

ส่วนที่ จ.สระแก้ว พ.อ.ไชยชัยยันห์ โสธรชัย ผบ. ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา สั่งการให้ พ.ท.กิตติพัฒน์ กาลปักษ์ รอง ผบ.ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 ร.อ.ศลิษฏพงษ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 1206 ร่วมกับ ร.ต.อ.วิชาญ จิตตยานันท์ รอง สว.สส.สภ.ต.คลองลึก นำกำลังตั้งจุดตรวจบริเวณหน้าด่านพรมแดนอรัญประเทศ หลังทราบว่าจะมีกลุ่มชาวกัมพูชามุสลิมเดินทางเข้ามาเพื่อจะไปพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย กระทั่งมีชาวเขมรมุสลิม 80 คน เป็นชาย 29 คน หญิง 51 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรอย่างถูกต้องจึงขอตรวจค้น ปรากฏว่าพบยา รักษาโรคจำนวนมากหลายร้อยรายการแยกกันซุกซ่อนมาในกระเป๋า จึงยึดไว้เนื่องจากผิด พ.ร.บ.อาหารและยา


"ข้องใจ ออกวีซ่า เข้าไทยง่ายเกิน"


นอกจากนี้ ยังตรวจพบดินประสิว 2 กก. ห่อหุ้มอย่างดีในกระเป๋าของนายยศ สกอเฮ็ต อายุ 24 ปี ชาวเขมรมุสลิม จึงนำตัวไปสอบสวน เนื่องจากดินประสิวสามารถนำไปประกอบระเบิดได้ อีกทั้งผู้ที่ครอบครองเป็น ชาวเขมรมุสลิมและจะเดินทางไปชายแดนภาคใต้ของไทย หวั่นอาจจะนำไปใช้เป็นส่วนประกอบวัตถุระเบิด โดยนายยศอ้างว่า มีเพื่อนชาวเขมรมุสลิมในกัมพูชาฝากไปให้ชาวเขมรมุสลิมที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย แต่ไม่ยอมบอกว่าจะนำไปทำอะไร จึงนำตัวส่ง สภ.ต.คลองลึกดำเนินคดีและขยายผลต่อไป

พ.ท.กิตติพัฒน์เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีชาวเขมรมุสลิมเดินทางไปชายแดนภาคใต้ของไทยเพิ่มมากขึ้น และทุกคนจะมีพาสปอร์ตกับวีซ่าเข้าประเทศอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากตรวจสอบการเดินทางเข้ามาเท่านั้น บางคนแทบไม่มีเงินติดตัว และบอกว่าเป็นคนยากจน แต่เป็นที่น่าสงสัยว่า ยากจนแต่ทำไมมีเงินทำพาสปอร์ตและขอวีซ่าได้ ซึ่งเป็นเงินกว่า 1 หมื่นบาท และยังมีเงินเช่ารถตู้ไปชายแดนภาคใต้ราคาเที่ยวละกว่า 1 หมื่นบาทด้วย แต่ที่น่าข้องใจคือ ทำไมสถานทูตไทยในพนมเปญถึงได้ออกวีซ่าให้ชาวเขมรมุสลิมเข้าประเทศไทยได้ง่ายเหลือเกิน


"ติง ให้เปลี่ยนตัว ชิดชัย ทำอะไรไม่เป็น"


พล.ท.พิรัช สวามิวัสดุ์ หรือ เสธ.หมึก อดีตนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำ รมว.กลาโหม (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ) กล่าวว่า พล.อ.ชวลิตมีความเป็นห่วงในเรื่องความมั่นคงของประเทศมาก โดยเฉพาะปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ที่ประชาชนเกิดความคับแค้นทางจิตใจ เพราะตำรวจใช้กฎหมายเข้าไปแก้ปัญหา จับกุมชาวบ้านแล้วเมื่อถึงศาลก็ปล่อยถือเป็นการสร้างศัตรู ปัญหาภาคใต้ ต้องใช้งานการเมืองนำการทหาร ขณะนี้เหมือนกับแก้ ไม่ถูกจุด

กินยาไม่ถูกโรค ควรฟื้นชุดบางระจันขึ้นมาเพื่อทำงานจิตวิทยามวลชนเข้าให้ถึงประชาชนจะเหมาะสมกว่า ถ้าเป็นไปได้ควรเปลี่ยนตัว พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯที่ดูแลด้านความมั่นคง กับ พล.อ.อ. คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย เพราะไม่รู้เรื่องอะไรทำอะไรไม่เป็น สัมภาษณ์มาแต่ละเรื่องเศร้าใจแทนคนไทย เหตุการณ์ภาคใต้เกิดระเบิดตูมๆไม่ไปแก้ไข ปล่อยให้ขี้เต็มกางเกงแล้วให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ไปตามล้างตามเช็ด เรื่องควรทำไม่ทำ แต่กลับมาสนใจเรื่องระเบิดที่ยังไม่ระเบิด พล.ท.พิรัชกล่าว


"ทรงเสด็จฯเยี่ยม พ่อแม่ครูจูหลิงตื้นตันใจ"


ในเย็นวันเดียวกัน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ไปทรงเยี่ยมอาการของครูจูหลิง ปงกันมูล เหยื่อโจรใต้ที่เข้ารักษาตัวที่ รพ.สงขลานครินทร์หาดใหญ่ จ.สงขลา ในวโรกาสนี้ได้พระราชทานเงินช่วยเหลือครอบครัวครูจูหลิงจำนวนหนึ่ง พร้อมรับสั่งให้กำลังใจแก่นายสูน นางคำมี ปงกันมูล พ่อแม่ของครูจูหลิงและทรงเข้าเยี่ยมครูสาวถึงเตียงผู้ป่วย

หลังเฝ้ารับเสด็จ นางคำมีเปิดเผยว่า รู้สึกตื้นตันใจที่ได้รับพระเมตตาจากพระองค์อย่างหาที่สุดไม่ได้ชีวิตนี้ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯถึงขนาดนี้ซึ่งสมเด็จพระบรมฯทรงให้กำลังใจให้ต่อสู้ต่อไป พร้อมรับสั่งด้วยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงและทรงให้กำลังใจแก่ครอบครัวครูจูหลิง เพราะครูจุ้ยเป็นผู้เสียสละ ส่วนพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาจะช่วยสวดมนต์ให้แก่ครูจูหลิง นอกจากนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงสอบถามอาการของครูจูหลิงอย่างใกล้ชิด นางคำมีกล่าวด้วยว่า ภาพที่จะจดจำไปตลอดชั่วชีวิตคือตอนที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ได้เอื้อมพระหัตถ์ไปจับแขนลูกสาวและตรัสว่า พี่จ๊ะๆๆ เป็นภาพที่ตื้นตันใจมาก


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์