ยิงโหด2ศพ เสี่ยคาร์แคร์-เมีย!

บุกยิงเสี่ยคาร์แคร์สุราษฎร์ธานีดับคาบ้าน คนร้ายขับกระบะมาหา กลางดึก เหยื่อเปิดประ ตูต้อนรับ พูดคุยกันนานนับชั่วโมงมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ก่อนที่มือปืนรีบขับรถหนี สักพักขับกลับมาอีกรอบ ฉุดเมียผู้ตายขึ้นรถไปด้วย นำไปยิงทิ้งในสวนยางที่นครศรีธรรมราช ตร.ชี้ปมหักธุรกิจ

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 7 ก.ค. พ.ต.ท.เสวี เวชพิทักษ์ สารวัตรเวร สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บ้านเลขที่ 226 หมู่ 11 ต.พ่วงพรหมนคร อ.เคียนซา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชินวัฒน์ เปรมสง่า ผกก. พ.ต.ท.ปฏิยุทธ ศรีประดิษฐ์ รองผกก.ป. พ.ต.ท.พยุงศักดิ์ เพชรรอบ รองผกก.สส. พ.ต.ท.กิติพงศ์ ไพเมือง สวป. พ.ต.ต.เจริญ รัตนประทีป สว.สส. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเคียนซา รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ในครัวหลังบ้าน พบศพนายเฉลิมรัตน์ สุขศรี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 1 ต.ควนศรี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี นอนจมกองเลือดไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีแดงดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าศีรษะ 1 นัด แขนซ้าย 1 นัด ลำคอ 1 นัด และหน้าอก 1 นัด ในที่เกิดเหตุพบกัญชาแห้งและยาบ้าจำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์เสพยาบ้าและกัญชาอย่างละชุด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ร.พ.เคียนซา

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายทำธุรกิจเปิดร้านคาร์แคร์อยู่ในพื้นที่ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี กระทั่งเมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา จึงย้ายมาอยู่กินกับนางสุภาวดี สุขศรี อายุ 29 ปี ภรรยา เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ

โดยนางสุภาวดีมีอาชีพทำสวนยางพาราอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ตายและนางสุภาวดีพักผ่อนอยู่ในบ้าน มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 3-4 คน ขับรถกระบะอีซูซุ ตอนครึ่งสีดำ ไม่ทราบทะเบียนมาหาที่บ้าน ก่อนที่นายเฉลิมรัตน์จะออกมาเปิดประตูรับคนทั้งหมดเข้าไปในบ้าน เวลาผ่านไปราว 2 ชั่วโมง มีเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด จากนั้นกลุ่มชายดังกล่าวเปิดประตูบ้านวิ่งขึ้นรถ และขับออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นประมาณ 5 นาที กลุ่มชายดังกล่าวขับรถย้อนกลับมาที่บ้านเกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมจับนางสุภาวดีขึ้นรถไปด้วย และขับออกจากไปอย่างรวดเร็ว เพื่อนบ้านจึงโทร.แจ้งตำรวจ

พ.ต.อ.ชินวัฒน์ กล่าวว่า จากการสืบประวัติเบื้องต้น พบว่าผู้ตายเป็นผู้ต้องหาของสภ.พระ แสง คดีปล้นทรัพย์หรือรับของโจร ถูกออกหมายจับและผู้ตายเพิ่งเดินทางไปมอบตัวที่สภ.พระแสง และประกันตัวเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา

ที่ผ่านมาผู้ตายเคยถูกตำรวจสภ.พระแสงเข้าตรวจค้นบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากการประมวลเหตุการณ์เบื้องต้นเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายซึ่งมีมากกว่า 2 คน เป็นบุคคลที่รู้จักสนิทกับผู้ตายอย่างดี มาหาผู้ตายที่บ้าน ระหว่างนั้นกลุ่มคนร้ายอาจจะพูดคุยตกลงปัญหาบางอย่างกับผู้ตาย แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงใช้ปืนยิง จนเสียชีวิต หลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีไป ก่อนจะย้อนกลับมาอุ้มนางสุภาวดีไปด้วย เพราะคาดว่านางสุภาวดีน่าจะรู้จักกลุ่มคนร้ายอย่างดี หากปล่อยทิ้งไว้ เกรงว่านางสุภาวดีจะเป็นพยานปากเอกที่อยู่ในเหตุการณ์และรู้เรื่องราวทั้งหมด

ต่อมาเวลา 06.30 น. พ.ต.ท.จิตรณรงค์ หนูนาค สารวัตรเวรสภ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งพบศพในสวนยางพารา หมู่ 5 ต.กะเปียด อ.ฉวาง จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพ.ต.อ. สมชาย บุญครบ ผกก.สภ.ฉวาง แพทย์และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉวางรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบศพนางสุภาวดีอยู่ในชุดนอนสีครีม ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ลำคอ 3 นัด กลางหลัง 1 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ช.ม. สอบสวนทราบว่า วันเดียวกัน เวลาประมาณ 03.00 น. ชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด แต่ไม่มีใครออกไปดู กระทั่งมีคนไปพบศพนางสุภาวดีถูกยิงเสียชีวิตในช่วงเช้าตรู่ ทั้งนี้ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายน่าจะไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้รถยนต์เป็นพาหนะ นำนางสุภาวดีมาจากบ้านไปยังที่เกิดเหตุก่อนจะยิงทิ้ง แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงติดต่อญาติของนางสุภาวดีที่อ.เคียนซา

ต่อมา นางวรวรรณ อภิชาตระกูล มารดาของนางสุภาวดี เดินทางมาติดต่อขอดูศพ และยืนยันว่าคือนางสุภาวดี ตำรวจจึงสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน ทราบว่านางสุภาวดีอยู่กินกับนายเฉลิมรัตน์ และเปิดร้านคาร์แคร์ที่ต.บ้านส้อง

เมื่อคืนที่ผ่านมา มีคนร้าย 2 คน ใช้รถกระบะอีซูซุ สีดำ ไม่ทราบทะเบียน เป็นพาหนะขับไปหานายเฉลิมรัตน์และนางสุภาวดีที่บ้าน ก่อนจะทะเลาะกันอย่างรุนแรง จากนั้นคนร้ายใช้ปืนยิงนายเฉลิมรัตน์จนเสียชีวิตที่บ้านพัก จากนั้นฉุดนางสุภาวดีขึ้นรถยนต์ขับหนีไป กระทั่งมาทราบภายหลังว่าลูกสาวถูกนำไปฆ่าทิ้งในสวนยางพารา อ.ฉวาง จึงมารับศพพ.ต.อ.สมชาย เปิดเผยว่า เบื้องต้นสอบสวนพยานและประสานไปยังตำรวจสภ.เคียนซา ทราบว่าคนร้ายเป็นคนรู้จักกับผู้ตายทั้งสามีและภรรยาเป็นอย่างดี โดยไปหาที่บ้านแล้วมีการเลี้ยงข้าวปลาอาหาร พูดคุยกันตามประสาคนรู้จัก แล้วมีการพูดคุยตกลงอะไรบางอย่าง แต่ตกลงกันไม่ได้ คนร้ายจึงใช้ปืนยิงนายเฉลิมรัตน์จนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะฉุดนางสุภาวดีขึ้นรถแล้วยิงจนตายอีกคน จากนั้นจึงนำศพมาทิ้งไว้ในเขตอ.ฉวาง คดีนี้ไม่ได้เกิดในพื้นที่อ.ฉวาง แต่นำศพมาทิ้งไว้ในเขตฉวาง เป็นคดีต่อเนื่องมาจากอ.เคียนซา จึงสรุปสำนวนโอนคดีไปให้พนักงานสอบสวนสภ.เคียนซา สืบสวนสอบสวนต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์