ยิงอดีตตร.เยอรมันดับ-คาดคนใกล้ตัวหวังฮุบสมบัติหลายล้าน

ตร.มุ่งฉนวนคนใกล้ตัวหวัง ฮุบมรดกบ้านทรัพย์สินหลายล้านบาท คุมตัว เมียไทย ทั้งอดีตและปัจจุบัน สอบเครียดสางคดี พร้อมระดมสืบล่าตัวมือปืน

อดีตตำรวจเกษียณชาวเยอรมนี ถูกมือปืนซิ่งจยย.ปาดหน้าจ่อยิงหัวระหว่างเดินกระดกเบียร์กลับบ้านพักดับสยองกลางหมู่บ้าน

ครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 25 มิ.ย. 50 ร.ต.ต.นิติภูมิ บุตรวงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งว่าเกิดเหตุชาวต่างชาติถูกยิงเสียชีวิต ภายในซอย สุขสมบูรณ์ ( หนองเกตุใหญ่) ม.8 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศรายุทธ โภคัย ผกก.สภ.อ.บางละมุง พ.ต.ท.สมชาย ยศสมบัติ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.นิตย์ วิธินันทกิตติ์ สว.สส. ร่วมกับหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์พัทยาและ แพทย์เวรโรงพยาบาลบางละมุง เดินทางไปสอบสวน

พบชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงยืนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก ตำรวจจึงฝ่าวงล้อมเข้าไปตรวจสอบ พบมีศพชายต่างชาติทราบชื่อต่อมาคือ นายเฮนริช เฮอร์มัน เฟรชริช ( MR.HEINRICH HERMANN FRIEDRDCH )อายุ 63 ปี สัญชาติเยอรมัน ถือหนังสือเดินทางเลขที่ 8974042523 อดีตตำรวจปัจจุบันเกษียณราชการ สภาพถูกยิงนอนคว่ำหน้าตะแคงซ้ายจมกองเลือดอยู่ริมถนน ตรงข้ามกับหน้าบ้านเลขที่ 27 / 2 หมู่ 8 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สภาพศพผู้ตายสวมเสื้อเชิ้ตคอปกแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล สวมสร้อยคอทองคำ 1 เส้น ค้นภายในกระเป๋ากางเกงด้านขวามีนาฬิกาเรือนทอง 1 เรือน เงินเหรียญจำนวน 12 บาท และ กระดาษสลิปซื้อสินค้า 1 แผ่น ระบุซื้อเบียร์ช้าง 1 ขวด จากร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น โดยระบุเวลา 23.27 น. (วันเดียวกัน) โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมทั้งแว่นตาของผู้ตายตกอยู่อีก 1 อัน


ตรวจสอบอย่างละเอียดพบมีบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวา ทะลุขมับซ้าย 1 นัด

กลางหลัง 1 นัดกระสุนฝังใน หน้าอกเหนือไหล่ซ้ายทะลุหลัง 1 นัด และ ขาซ้ายบริเวณข้อพับหัวเข่า 1 นัด รวมทั้งหมด 4 นัด ภายในที่เกิดเหตุใกล้ศพผู้ตายพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ที่พื้นถน 4 ปลอก นอกจากนี้ยังพบถุงพลาสติกของร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นและเบียร์ช้างจำนวน 1 ขวดสภาพดื่มไปแล้วครึ่งขวดตกอยู่ใกล้กับศพผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ปัจจุบันอยู่ได้กินฉันท์สามีภรรยากับ นายเฮนริช (ผู้ตาย) มาได้นานร่วม 2 ปีเศษ โดยไม่ได้แต่งงานหรือจดทะเบียนสมรสกัน โดยพักอยู่ที่บ้านเลขที่ 40 / 1 หมู่ 8 ภายในซอย ห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร สำหรับบ้านหลังดังกล่าว นายเฮนริช เป็นผู้ซื้อไว้ในราคาร่วม 5 ล้านบาท ปลูกในเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ มีรั้วล้อมบ้าน แต่ชื่อผู้ครอบครองตกเป็นของอดีตภรรยาสาวไทยคนเก่า ที่จดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย แต่ปัจจุบันนั้นหย่าร้างกันและอดีตภรรยาสาวไทยคนดังกล่าวได้ ฟ้องร้องแบ่งทรัพย์สินภายในบ้าน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวและทรัพย์สินทั้งรถยนต์เก๋ง รถจักรยานยนต์ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท เป็นผู้ครอบครองทั้งหมด แต่เรื่องการฟ้องร้องยังไม่ยุติ ผู้ที่มีอำนาจและครอบครองทรัพย์สินยังเป็นของ นายเฮนริช อยู่อีกกว่า 30 ปี ตามสัญญาที่ระบุกันเอาไว้

นางสาวนันทา ภรรยาสาวคนปัจจุบัน ให้การอีกว่า

โดยปกติแล้ว นายเฮนริช เป็นคนเฮฮาและชอบดื่มเบียร์กับเพื่อนบ้านจนเป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน และไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ก่อนเกิดเหตุ นายเฮนริช ได้แต่งตัวเดินออกจากบ้านโดยบอกกับตนว่าจะออกไป ซื้อเบียร์ จากนั้นก็เดินออกจากบ้านไป ตนก็ไม่ได้สังหรณ์ใจว่าจะเกิดเหตุร้ายใดๆเนื่องจาก นายเฮนริชมักจะเดินซื้อเบียร์ ที่เซเว่นอีเลฟเว่นซึ่งอยู่ติดถนนสุขุมวิทปากซอยห่างจากบ้านพักประมาณ 1 กิโลเมตรเกือบทุกๆอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อมีเพื่อนบ้านมาตะโกนบอกหน้าบ้านว่า นายเฮนริช ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตอยู่ภายในซอยระหว่างเดินกลับบ้าน ตนจึงรีบขับรถออกมาดูก็พบว่าสามีถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตโดยไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใครก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง

เนื่องจากให้การมีพิรุจ จึงนำตัวไปสอบสวนให้แน่ชัด พร้อมทั้งนำศพผู้ตายส่ง สถาบันติเวชเพื่อผ่าชันสูตรอีกครั้ง

สอบถาม นายสำรวย น้อยเจริญ อายุ 25 ปี เทศกิจเมืองพัทยา ให้การว่า

ขณะตนกำลังนอนอยู่ในบ้านซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัดซ้อน จึงรีบวิ่งออกมาดู พบคนร้าย 2 คน อายุประมาณ 25-30 ปี คน ขับนั่งค่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จอรอส่วนคนร้ายอีกคนหลังก่อเหตุได้ถืออาวุธปืนขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับหลบหนีมุ่งหน้าออกปากทางวัดหนองเกตุใหญ่หายไป ตนถึงได้เดินออกมาดูที่ถนนหน้าบ้าน พบว่ามีชาวต่างชาติถูกยิงนอนจมกองเลือด จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว


พ.ต.ท.สมชาย ยศสมบัติ รอง ผกก.สส. กล่าวว่า

จากการสอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุหลายคนให้การตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุเห็น นายเฮนริช ผู้ตาย เดินออกจากบ้านพักตามปกติซึ่งเชื่อว่าน่าจะออกไปซื้อเบียร์ดื่ม จนกระทั่งได้ยิงเหมือนคนทะเลาะกันและคนตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากจุดเกิดเหตุทั้งหมด 4 นัด

ชาวบ้านใกล้เคียงก็ได้ออกมาดูก็ได้เห็นคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีแดงไม่ทราบหมายเลขทะเบียน

ซึ่งคนขับสวมเสื้อสีดำส่วนคนนั่งซ้อนท้ายสวมเสื้อสีขาวอย่างรีบร้อนขับออกจากจุดเกิดเหตุหลบหนีมุ่งหน้าออกไปยังปากซอย และพบว่า นายเฮนริช ถูกยิงนอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนพื้นถนน ก่อนที่จะรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและพากันไปบอก นางสาวนันทา ที่บ้านพักให้ออกมาดูศพสามี แต่ก่อนที่ตำรวจจะมาถึง ชาวบ้านได้พบกับชายวัยรุ่น 2 คนขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาที่จุดเกิดเหตุทั้งคู่มองมาที่ศพผู้ตายก่อนจะรีบขับหนีไปซึ่งเชื่อว่าชายทั้ง 2 คนอาจจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุขับรถย้อนกลับมาดูว่า นายเฮนริช ตายหรือไม่

ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นแรก เรื่องชู้สาว ประเด็นที่สอง เรื่องภรรยาเก่าที่ฟ้องร้องเรื่องแบ่งแยกมรดก บ้านและทรัพย์สินอื่นๆที่มีมูลค่าหลายล้านบาท อาจจะเกิดความแค้นถึงขั้นจ้างมือปืนมาฆ่า นายเฮนริชให้ตายเพื่อหวังเอามรดกมูลค่ามหาศาล และประเด็นคนร้ายหวังชิงทรัพย์ ซึ่งประเด็นคนร้ายหวังฆ่าชิงทรัพย์นั้น คงให้น้ำหนักน้อยเนื่องจากวิเคราะห์แล้ว คนร้ายไม่มีเจตนาที่จะเอาทรัพย์สินของผู้ตายเนื่องจากทรัพย์สินอยู่ครบทุกอย่าง คนร้ายที่ก่อเหตุมีเจตนายิงฆ่าให้ตายเพียงอย่างเดียว เชื่อว่า สองประเด็นแรก จะมีน้ำหนักมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่ตัดประเด็นคนร้ายฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ทิ้งไป

พ.ต.ท.สมชาย กล่าวอีกว่า คดีนี้เป็นคดีที่อุจอาจมากเนื่องจากคนร้ายก่อเหตุกลางชุมชน

และผู้ตายเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ คดีนี้ต้องเร่งทำการสืบสวนสอบสวนจับกุมตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนสอบสวนตั้งแต่คนใกล้ชิด ไว้ว่าจะเป็น นางสาวนันทา ภรรยาคนปัจจุบัน และ อดีตภรรยาสาวไทยคนเก่าที่หย่าร้างกันมาร่วม 2 ปีเศษและฟ้องร้องเอาทรัพย์สินของผู้ตายที่มีมูลค่ามหาศาล ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายของ นายเฮนริช หรือไม่ จึงจะนำตัวมาสอบสวนเพื่อเค้นความจริงให้กระจ่างขึ้น

ทั้งยังจะทำการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นชาวบ้านที่พอเห็นใบหน้าคนร้ายเพื่อทำการสเก็ตภาพมือปืน

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการลงมือฆ่า นายเฮนริช ในครั้งนี้น่าจะมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี และคนร้ายที่ก่อเหตุต้องมีความชำนาญในการยิงปืนเป็นอย่างดี ระหว่างมาก่อเหตุ มีการขับรถวนเวียนรอเหยื่อออกมาจากบ้านพักเพื่อรอจังหวะผู้ตายออกมาซื้อเบียร์ดื่ม จนกระทั่งผู้ตายออกจากบ้านไปซื้อเบียร์เดินกลับเข้าบ้านพัก คนร้ายเลือกลงมือขับรถจักรยานยนต์ปาดหน้าแล้วชักปืนยิงอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งผู้ตายพยายามวิ่งหนีแต่และตะโกนร้องให้ชาวบ้านช่วยแต่ก็ไปไม่รอดคมกระสุนเข้าจุดสำคัญขาดใจตายคาที่บนพื้นถนนดังกล่าว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก