ยิงถล่มแกนนำอนุรักษ์ปางตาย

"ลอบยิงแกนนำนักอนุรักษ์"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (22 มี.ค.) นายนิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว ผวจ.สุราษฎร์ธานี เดินทางเข้าเยี่ยม นายสอด สุดนาค ประธานเครือข่ายอนุรักษ์ป่าและต้นน้ำ จ.สุราษฎร์ธานี และที่ปรึกษาเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ คลองชะอุ่น อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โดยนายนิวัตน์ได้มอบเงินจำนวน 5,000 บาท ให้กับญาติ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างรักษาตัวด้วย

นายนิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว ผวจ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมานายสอดได้ช่วยเหลือทางราชการในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับผู้กระทำผิด และเป็นแกนนำในการอนุรักษ์ป่า รวมถึงต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.พนม อย่างเปิดเผย จึงคาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุหลักของการถูกลอบยิงในครั้งนี้ ตนได้ทำหนังสือไปถึงผู้บังคับการตำรวจ ภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เร่งรัดคลี่คลายคดีเป็นการเร่งด่วนและขอทราบความเคลื่อนไหวทางคดีทุกระยะ รวมทั้งสั่งให้จัดตำรวจคุ้มกันประจำที่โรงพยาบาลตลอดเวลา

"ขี่ จยย.ตามประกบยิง แต่พลาดเป้า กระสุนขัดลำกล้อง"


สำหรับเหตุอุกอาจดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สมศิลป์ เกิดผล ร้อยเวร สภ.อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บบนถนนซอยเข้าหมู่บ้าน หมู่ 8 ต.คลองชะอุ่น จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สำราญ มาเจริญ ผกก. พ.ต.ท.บัญชา อินทวงศ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สัญญา ประกอบผล รองผกก.ป. เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาพนม ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นที่เปลี่ยวห่างไกลชุมชน พบรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นดรีม สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน ล้มอยู่ข้างทาง ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีนำส่ง รพ.พนม แต่อาการสาหัสต้องนำส่งต่อ รพ.สุราษฎร์ธานี ทราบชื่อ นายสอด สุดนาค อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310 หมู่ 8 ต.คลองชะอุ่น อ.พนม จ.สุราษฎร์ธานี มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่สะบักหลังด้านซ้าย 1 นัด กระสุนทะลุปอด

สอบสวนทราบว่า นายสอด ผู้บาดเจ็บมีอาชีพทำสวนอยู่ในพื้นที่ และเป็นแกนนำชาวบ้านในการต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ อ.พนม ในนามกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าและต้นน้ำ ต.คลองชะอุ่น ก่อนเกิดเหตุได้ออกไปดูแลวัวที่เลี้ยงไว้ ระหว่างขับรถกลับบ้าน ถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้าย 3 คนใช้รถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง สภาพใหม่ป้ายแดง ขับไล่ตามหลังมาและเร่งเครื่องขึ้นประกบ 1 ในคนร้ายใช้ปืนยิงใส่ 2 นัด กระสุนนัดแรกพลาดเป้า ส่วนนัดที่สองถูกเข้าสะบักหลังนายสอดจนรถล้มลง จากนั้นคนร้ายลงจากรถมาจ่อยิงซ้ำเป็นนัดที่สาม แต่กระสุนขัดลำกล้อง คนร้ายจึงรีบขึ้นรถหลบหนีไป ขณะเดียวกันมีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนออกมาดู และช่วยนำนายสอดส่งโรงพยาบาล

"เชื่อ เป็นฝีมือกลุ่มเดียวกันที่ขัดผลประโยชน์"


พล.ต.ต.วรเวทย์ วินิตเนตยานนท์ รอง ผบช.ภ.8 กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่จากแนวทางการสืบสวน พบว่านายสอด ผู้บาดเจ็บ เป็นแกนนำเครือข่ายนักอนุรักษ์เคลื่อนไหวคนสำคัญในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ป่าต้นน้ำคลองชะอุ่น ที่นายสอดร่วมอยู่ด้วยนั้น มีการเคลื่อนไหวแจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดให้กับทางราชการทราบอยู่เสมอ จนนำไปสู่การจับกุมหลายครั้ง ซึ่งกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์ป่าต้นน้ำคลองชะอุ่น ยังได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว ประจำปี 2549 จากมูลนิธิลูกโลกสีเขียว ของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ล่าสุดได้เคลื่อนไหวต่อต้านเกี่ยวกับการบุกรุกป่าสงวนและอุทยานฯ ในพื้นที่ อ.พนม ของนายทุนรายหนึ่ง คดีนี้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเป็นการเร่งด่วนแล้ว อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้นายสอดอาการ ดีขึ้นจึงจะสามารถสอบปากคำรูปพรรณคนร้ายได้ พร้อมกันนี้ได้จัดกำลังตำรวจเข้ารักษาความปลอดภัยให้กับนายสอด เนื่องจากเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะลงมือก่อเหตุซ้ำอีก

ด้านนายสมเกียรติ ประชุมรัตน์ แกนนำเครือข่ายป่าทะเลเพื่อชีวิต จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้ทำหนังสือร้องทุกข์ไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ผ่านนางเตือนใจ ดีเทศน์ สมาชิก สนช. ให้เร่งตรวจสอบและให้ ความคุ้มครองความปลอดภัยกลุ่มนักอนุรักษ์ที่ถูกคุกคามเอาชีวิตจากกลุ่มนายทุนอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา ญาติของนายสมเกียรติ โกฎิกุล 1 ในกลุ่มนักเคลื่อนไหวได้ยืมรถกระบะไปขับ และถูกมือปืนใช้อาวุธปืนจะจ่อยิงในพื้นที่ อ.ปลายพระยา แต่ เมื่อเห็นไม่ใช่นายสมเกียรติจึงชักปืนกลับและขับรถหลบหนี นอกจากนี้ นายสมชาย สังข์ทอง นักอนุรักษ์ใน จ.สุราษฎร์ธานี ยังถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งขับรถกระบะไล่เบียดจนตกถนนสายเซาเทิร์นซีบอร์ด อ.เคียนซา โดยเชื่อว่ามือปืนที่ยิงนายสอดกลุ่มนี้มาจาก จ.กระบี่ และใช้ ทะเบียนป้ายแดงปลอมสวมอำพราง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์