ยิง ไฮโซ สะท้านกรุง ดับ1เจ็บ1

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 24 ม.ค.


พ.ต.ท. วิบูลย์ ถิ่นวัฒนกุล พงส. (สบ. 3) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 22 ซอยพร้อมมิตร ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรุดไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.ท.เศกสิทธิ์ สุภาอ้วน สว.สส.สน.ทองหล่อ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น


เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด จุดเกิดเหตุอยู่ที่สนามปูนหน้าบ้าน ข้างโรงจอดรถ พบศพนายวิชัยประกาศ สุกุล คนไทยเชื้อสายอินเดีย อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 522/756 ถนนอโศก-ดินแดง แขวงและเขตดินแดง กทม.

เป็นผู้จัดการร้านอาหารรูฟสกาย อยู่ภายในตึกใบหยก 2 สภาพศพนอนหงาย ถูกยิงด้วยปืน .38 ที่ขมับขวาทะลุซ้าย ทั้งเลือดทั้งสมองไหลปะปนนองพื้น

ส่วนบริเวณปลายเท้าพบ


ปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ตกอยู่
ในลูกโม่มีกระสุน 2 นัด
ปลอกกระสุน 4 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ยังมีคนเจ็บอีก 1 คน

ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมิติเวช ชื่อนายนภดนัย ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อายุ 41 ปี ไฮโซชื่อดัง ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเจ้าของบ้าน เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่หน้าท้อง 2 แห่ง อาการสาหัส แต่ยังพอให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ก่อนเข้าห้องผ่าตัด

นายนภดนัยให้การว่า


ตนกับนายวิชัยประกาศเป็นเพื่อนรักกัน คบหามานานกว่า 20 ปี โดยก่อนหน้านี้ ผู้ตายมายืมเงินนางพิณทิพา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา อายุ 42 ปี ภรรยาตน เป็นเงิน 5 ล้านบาท มีการทยอยใช้

แต่ก็กลับไปยืมกันใหม่ เบ็ดเสร็จรวมแล้วยังค้างเงินอยู่ 5 ล้านบาทเท่าเดิม ก่อนเกิดเหตุได้นัดผู้ตายมาเจรจาเรื่องการชดใช้หนี้สินที่ร้านอาหาร เจ วี นิว. ในซอยทองหล่อ 15

ระหว่างพูดคุยเห็นนายวิชัยประกาศมีอาการเครียดๆ และบ่นปวดศีรษะ

ภาพประกอบ จากอินเตอร์เน็ต .. !!


จึงอาสาพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลพร้อมมิตร อยู่ตรงข้ามกับบ้านของตน โดยขับรถมาจอดไว้ที่บ้าน ก่อนลงจากรถเดินนำผู้ตายไปโรงพยาบาล แต่ จู่ๆผู้ตายกลับใช้ปืนที่เตรียมมายิงใส่ตน 3 นัด

ตนจึงแข็งใจชักปืนขนาดเดียวกัน

ที่พกติดตัวไปด้วยยิงสวนผู้ตายไป 1 นัด ก่อนหมดแรงล้มลงกับพื้น แต่ยังพอเห็นคนตายถอยหลังใช้ปืนจ่อขมับตัวเองระเบิดสมองตายต่อ หน้าต่อตา ก่อนที่คนในบ้านจะวิ่งมาช่วยเหลือ และแจ้งตำรวจมาสอบสวน

ขณะที่นายนรินทร สุกุล อายุ 50 ปี เจ้าของร้านอาหารอินเดีย


ชื่อเดอะเคอรี่พอร์ต อยู่ในตึกใบหยก 2 และเป็นพี่ชายผู้ตายเผยว่า วันนี้น้องชายได้ออกไปทวงหนี้นายนภดนัยที่เป็นหนี้อยู่ประมาณ 10 ล้านบาท มีการทวงหนี้กันหลายครั้ง แต่ไม่ได้

พอทราบจากตำรวจว่า

น้องชายไปก่อเหตุ และยิงตัวตาย ทางบ้านรู้สึกงง ไม่เชื่อ และขอยืนยันว่าน้องชายเป็นฝ่ายทวงหนี้ ไม่ได้เป็นลูกหนี้ ส่วนการพกปืน น้องชายตนไม่มีปืนใช้ สงสัยว่ามีปืนตั้งแต่เมื่อไหร่

ด้านพนักงานสอบสวนตรวจสอบหลักฐานเบื้องต้นเชื่อว่า


การยิงกันครั้งนี้มีมูลเหตุมาจากเรื่องหนี้สินอย่างแน่นอน แต่ต้องสอบให้รายละเอียดว่าใครเป็นหนี้ใคร รวมทั้งยังไม่สรุปว่า ใครยิงใครก่อน หรือผู้ตายจะยิงตัวตายเองหรือไม่ ต้องรอผลจากการตรวจวิถีกระสุน

เขม่าดินปืนจากกองพิสูจน์หลักฐาน และสถาบันนิติเวชวิทยา รวมถึงประวัติการพกอาวุธปืนของคนทั้งคู่ด้วย


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์