ม้าเหล็กชนเละกระบะ-ขยี้ดญ.8ขวบคาที่!

ไม่จอดรอ-ตัดหน้า พ่อกับแม่ปางตาย


ม้าเหล็กพุ่งขยี้รถกระบะเร่ขายกับข้าวพังยับ หนูน้อยวัย 8 ขวบดับสยองคาที่ ส่วนพ่อ-แม่บาดเจ็บสาหัสถึงขั้นโคม่า หลังเกิดเหตุรถไฟเสียหลักตกราง 2 โบกี้ ผู้โดยสารบาดเจ็บร่วม 60 คน ทั้งชาวไทย-ต่างชาติ พขร.รถไฟเผยออกจากหัวลำโพงมุ่งหน้าไปศรีสะเกษ ช่วงมาถึงโพธิ์กลาง โคราช เห็นรถกระบะโผล่หัวมาเลยบีบแตรส่งสัญญาณเตือน แต่รถกระบะหลบช้าเกินไปเลยพุ่งชนกลางคันจนกลายเป็นเศษเหล็ก เผยจุดเกิดเหตุไม่มีไม้กั้น รถไฟสายอีสานอัมพาตทันที

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ต.ค. ร.ต.อ.ปัญจนนท์ วิจิตรไท ร้อยเวรสภ.ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถไฟโดยสารชนกับรถยนต์กระบะที่บริเวณทางแยกตัดกับรางรถไฟที่ไม่มีที่กั้นก่อนถึงบ้านหนองเป็ดน้ำหมู่ที่ 9 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งรถไฟตกรางถึง 2 โบกี้ จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมพ.ต.อ.ถวาย บูรณรักษ์ ผกก.สภ.ต.โพธิ์กลาง และหน่วยกู้ภัยพุทธธรรมการกุศลฮุก 31 และหน่วยกู้ชีพของร.พ.มหาราช นครราชสีมา

"แหลกเละเป็นเศษเหล็ก"


ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีดำ มีหลังคา หมายเลขทะเบียน บต-1445 นครราชสีมา สภาพแหลกเหลวเป็นเศษเหล็ก ส่วนหัวและเครื่องยนต์หลุดหาย มีอาหารคาวหวานและผักผลไม้หล่นกระจายเกลื่อนริมรางรถไฟ และมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือด.ญ.ศิริพร บุญไทย อายุ 8 ปี นั่งมากับรถกระบะ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นโคม่าที่นั่งมากับรถกระบะ 2 คน ประกอบด้วย นายสมพงษ์ บุญไทย อายุ 43 ปี และนางเพียร บุญไทย อายุ 36 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 43/2 หมู่ 4 ต.เปาะ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ และเป็นบิดา-มารดาของด.ญ.ศิริพร

ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 400 เมตร พบขบวนรถไฟโดยสารดีเซลราง ขบวนที่ 71 สายกรุงเทพฯ-ศรีสะเกษ สภาพหัวรถจักรล้อหลุดและโบกี้ 2 โบกี้ ตกรางพลิกคว่ำตะแคงขวางกับรางรถไฟ มีผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่นั่งมากับรถขบวนดังกล่าวรวม 220 คน บาดเจ็บ 63 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารที่นั่งมาในโบกี้หัวรถจักรและโบกี้ที่สอง และในจำนวนนี้มีผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัสรวม 3 ราย เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันลำเลียงผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา และโรงพยาบาลราชสีมาธนบุรีและในที่เกิดเหตุยังพบรางรถไฟชำรุดสลักหลุดหาย รางบางช่วงคดงอและเนินดินข้างกับรางรถไฟมีรอยครูดจนหน้าดินเปิดเป็นทางยาว

"เด็กหญิงเสียชีวิตคาที่"


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถไฟโดยสารดีเซลรางคันดังกล่าวมีนายวีระศักดิ์ บุศยรัตน์ อายุ 43 ปี เป็นคนขับ รับผู้โดยสารรวม 220 คน ออกจากสถานีหัวลำโพงกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 10.45 น. มุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารปลายทางจ.ศรีสะเกษ เมื่อรถวิ่งก่อนถึงที่เกิดเหตุนายวีระศักดิ์บีบแตรและเปิดไฟหน้ารถส่งสัญญาณให้รถยนต์และจักรยานยนต์ที่จะข้ามถนนบริเวณทางตัดข้ามรางรถไฟซึ่งไม่มีที่กั้น

ทันใดนั้นได้มีรถกระบะของนายสมพงษ์ซึ่งเร่ขายกับข้าวตามหมู่บ้านต่างๆ กับนางเพียรและบุตรสาวที่มาช่วยพ่อ-แม่ขายกับข้าวในช่วงปิดเทอมนั่งมาได้แซงรถคันอื่นที่จอดรอให้รถไฟผ่านขึ้นมาและวิ่งตัดหน้าอย่างกะทันหันทำให้รถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงประมาณ 100 ก.ม.ต่อชั่วโมง พุ่งชนรถของนายสมพงษ์อย่างจังเป็นเหตุให้ด.ญ.สิริธรเสียชีวิตคาที่ สภาพศพกะโหลกศีรษะแตกแขนขาหัก ส่วนายสมพงษ์และนางเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการโคม่า และมีผู้โดยสารที่นั่งมากับรถไฟได้รับบาดเจ็บ 63 ราย ดังกล่าว

"ต้องปิดทางซ่อมก่อน"


จากการสอบถามนายวีระศักดิ์ พนักงานขับรถไฟ กล่าวว่า เมื่อขบวนรถมาถึงทางแยกที่เกิดเหตุ รถยนต์คันดังกล่าววิ่งโผล่หัวขึ้นมาขวางทางรถไฟแต่คนขับคงตกใจลังเลไม่ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลังเมื่อรถไฟมาจวนตัวจึงตัดสินใจเดินหน้าแต่ไม่พ้น ตนพยายามส่งสัญญาณทั้งบีบแตรและเปิดไฟหน้าแล้ว และเบรกไม่ทันจึงชนเข้าอย่างแรงและพยายามบังคับขบวนรถแต่ไม่สำเร็จทำให้ขบวนรถไฟพลิกคว่ำตกราง 2 โบกี้และมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ขบวนรถไฟจากกทม.มุ่งหน้าไปจ.อุบลราชธานีและขบวนรถไฟจากอุบลราชธานีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ไม่สามารถเปิดเดินรถได้ เพราะโบกี้ที่ตกรางพลิกตะแคงขวางรางรถไฟอยู่ และมีรางรถไฟบางช่วงชำรุด งอและสลักยึดรางรถไฟกับหมอนไม้หลุดหาย ต้องใช้รถปั้นจั่นจากชุมทางบางซื่อจำนวน 2 คัน มากู้ซากด้วยการยกโบกี้ออกจากรางและเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาซ่อมรางรถไฟไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง คาดว่าจะเปิดเดินรถได้ในสายดังกล่าวในช่วงเช้าวันที่ 30 ต.ค.นี้ ส่วนผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถไฟคันเกิดเหตุทางการรถไฟแห่งประเทศจัดขบวนรถมารับไปส่งถึงจุดหมายปลายทางแล้วหลังเกิดเหตุ 1 ชั่วโมง


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์