ม้าเหล็กชนกันเอง บาดเจ็บครึ่งร้อย!

"ไม่หยุดรอสัญญาณเลยพุ่งชน"


รถด่วนสปรินเตอร์เชียงใหม่เสยท้ายรถไฟนำเที่ยวงานราชพฤกษ์บาดเจ็บครึ่งร้อย ขบวนรถพังยับเยิน นายสถานีตะพานหินเผยพขร.สปรินเตอร์ไม่ยอมหยุดรถรอสัญญาณไฟจากทางสถานี จึงเสียหลักพุ่งเข้าชนรถด่วนขบวนพิเศษที่ 963 ที่ผู้โดยสารจะไปเที่ยวงานราชพฤกษ์อย่างจัง จนท.ต้องช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งร.พ.

ใกล้เคียงอย่างทุลักทุเล เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นทุ่งนาน้ำท่วมขัง ส่วนประชาสัมพันธ์การรถไฟฯ ยันมีผู้บาดเจ็บแค่ 13 คน ล่าสุดประธานบอร์ดการรถไฟฯ พร้อมคณะเดินทางตรวจสอบความเสียหาย พบหญิงท้อง 8 เดือนแท้งลูก การรถไฟฯ รับปากพร้อมชดใช้ความเสียหายทุกกรณี

"ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บลำบาก"


เมื่อเวลา 23.50 น. วันที่ 26 พ.ย. พ.ต.ต.วิรัตน์ เมฆอ่ำ สารวัตรเวร สภ.อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร รับแจ้งมีเหตุรถไฟชนกันก่อนถึงสถานีรถไฟห้วยเกตุ ต.ห้วยเกตุ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร และมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พบรถไฟขบวนพิเศษรับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ จะไปเที่ยวงานราชพฤกษ์ที่เชียงใหม่ โดยการรถไฟฯได้จัดเป็นขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 963 ถูกรถด่วนสปรินเตอร์ จากกรุงเทพฯมุ่งหน้าเชียงใหม่

ขบวนที่ 11 ซึ่งมีนายสมเกียรติ เส็งกิ่ง เป็นพนักงานขับรถ (พขร.) และ มีนายสโรทร สารีผล เป็นพนักงานช่างเครื่อง(ห้ามล้อ) ชนท้ายขบวนรถด่วนขบวนพิเศษที่ 963 อย่างจัง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 15 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 40 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยลำเลียงผู้บาดเจ็บออกจากที่เกิดเหตุอย่างทุลักทุเล เนื่องจากบริเวณที่เกิดเหตุ เป็นป่ารกและเป็นที่นา มีน้ำขัง ทำให้การลำเลียงผู้บาดเจ็บเป็นไปด้วยความยากลำบากเพื่อนำส่งร.พ.ยุพราช อ.ตะพานหิน ซึ่งต้องใช้เวลาลำเลียงผู้บาดเจ็บนานถึง 4 ชั่วโมง

"พังยับ 3 โบกี้"


นอกจากนี้ขบวนรถด่วนพิเศษสปรินเตอร์ ขบวนที่ 11 หลังจากที่ชนท้ายรถไฟขบวนพิเศษ ขบวนที่ 963 อย่างแรง เป็นเหตุให้รถด่วนสปรินเตอร์ ขบวนที่ 11 ตกรางทั้ง 3 โบกี้ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่การรถไฟได้ประสานไปยังสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ เพื่อขอรถปั้นจั่นมาทำการกู้ขบวนรถด่วนสปรินเตอร์ที่ตกรางทั้ง 3 โบกี้แล้ว ซึ่งสภาพรถสปรินเตอร์พังและยุบทั้ง 3 โบกี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดเส้นทางเดินรถไฟสายเหนือได้ประมาณวันที่ 28 พ.ย.

นายศักดิ์ ใจเขียนดี นายสถานีรถไฟตะพานหิน เปิดเผยว่า ขบวนรถด่วนพิเศษ ที่ 963 ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดนำเที่ยวไปเชียงใหม่ เพื่อชมงานราชพฤกษ์ ชมไม้ดอกไม้ประดับนั้น ได้วิ่งเข้าสู่สถานีตะพานหิน เพื่อมุ่งหน้าไปเชียงใหม่ โดยทางสถานีได้ให้สัญญาณผ่านไปได้ ซึ่งขณะเดียวกันหลังจากที่ขบวนรถไฟ ขบวนที่ 963 ผ่านไปแล้ว ทางสถานีตะพานหิน ได้เปิดสัญญาณไฟแดงเพื่อให้ขบวนรถด่วนสปรินเตอร์ ขบวนที่ 11 ซึ่งวิ่งตามหลังมาให้หยุดรถรอสัญญาณไฟจากทางสถานีตะพานหิน แต่ปรากฏว่าพขร.ขบวนที่ 11 ไม่ยอมหยุดรถและฝ่าสัญญาณไฟแดงจากทางสถานีตะพานหิน จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

"ตู้หน้าบาดเจ็บกันระนาว"


ทางด้านนายรัชตะ พูลซ้าย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 295 ถนนศรีมาลา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นผู้โดยสารที่มากับขบวนรถด่วนพิเศษสปรินเตอร์ ขบวนที่ 11 เปิดเผยว่า ตนเองนั่งอยู่ในรถคันที่ 2 ซึ่งก่อนเกิดเหตุเตรียมตัวลงที่สถานีพิจิตร ระหว่างที่รถวิ่งผ่านสถานีตะพานหินมาได้สัก 2 นาที ตนเห็นคนขับรถไฟทั้ง 2 คน วิ่งออกมาจากรถคันที่ 1 และวิ่งมาที่ท้ายตู้ จากนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนรถไฟไปชนอะไรสักอย่างดังสนั่นไปหมด ซึ่งตนเองก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งภายหลังทราบว่ารถไฟชนกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพขร.และช่างเครื่องเหมือนเอาตัวรอด เพราะวิ่งมาจากหัวขบวน โดยที่ผู้โดยสารที่อยู่ตู้หน้าได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า

ต่อมาเมื่อเวลา 03.00 น. นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าฯพิจิตร เดินทางมาดูยังที่เกิดเหตุและเดินทางไปเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ร.พ.ยุพราช และสั่งการให้ทางร.พ.รักษาผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างดี อีกทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลทรัพย์สินของผู้โดยสารรถไฟ ที่ติดค้างตามสถานีรถไฟอำเภอตะพานหินให้เป็นอย่างดีหวั่นพวกมิจฉาชีพแอบแฝง

"เตรียมรถบัสรองรับส่งผู้โดยสารแทน"


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุ จึงบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำตัวนายสมเกียรติ เส็งกิ่ง พขร.และ นายสโรทร สารีผล ช่างเครื่อง ขบวนที่ 11 มาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์รถไฟชนท้ายกันในครั้งนี้รวม 55 ราย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งร.พ.สมเด็จพระยุพราชตะพานหิน ซึ่งมีผู้บาดเจ็บสาหัสรวม 15 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 40 ราย

ส่วนผู้โดยสารที่จะเดินทางต่อไปที่เชียงใหม่ ขณะนี้ทางการรถไฟฯได้จัดรถบัสขนาดใหญ่มารับผู้โดยสารที่สถานีรถไฟตะพานหิน เพื่อมุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ต่อไป ส่วนผู้โดยสารที่ต้องการจะกลับกรุงเทพฯ ทางการรถไฟได้เตรียมรถบัสรองรับเอาไว้แล้วที่สถานีรถไฟตะพานหิน

"เชื่อคนขับประมาท"


อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของพขร.สปรินเตอร์ ขบวนที่ 11 ที่ไม่ยอมหยุดรถรอสัญญาณไฟจากทางสถานีตะพานหิน จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

น.ส.มณฑากาญจน์ ศรีวิลาศ หน.กองประชาสัมพันธ์การรถไฟฯ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลมีจำนวน 13 ราย โดยนำส่งยังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ตะพานหิน ประกอบด้วย 1.นายเจริญชัย ตรีวัฒนาวงศ์ นายอภิวัฒน์ ยาประเสริฐ 3.นายทาคาฮารา 4.นายจุมพล ตั้งสติ 5.นายจอมภัต ธิติธรกุล 6.นายโชคชัย จิตตะเสวี 7.น.ส.เกษศิรินทร์ โชคกิจชัย 8.นางสุดาพร ไฟเฟอ 9.นายทองปลิว อินิจา 10.นายอภิวัฒน์ โลมพิพัฒน์ 11.นางสุมารี เทพารักษ์ และที่โรงพยาบาลพิจิตร ประกอบด้วย ด.ต.มานพ กสิทิพย์ และนางอภิญญา คอร์

"พังเสียหายไม่สามารถใช้การได้เลย"


เวลา 18.00 น. วันเดียวกันนี้ นายศิวะ แสงมณี ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายถวิล สามนคร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และนายยุทธนา ทัพเจริญ รองประธานการรถไฟ เดินทางตรวจสอบความเสียหาย ปรากฏว่าขบวนรถด่วนสปรินเตอร์ได้รับความเสียหายทั้งขบวน ไม่สามารถใช้การได้ ซึ่งนายศิวะสั่งให้เจ้าหน้าที่ของการรถไฟดูแลผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ว่าความผิดอยู่ที่นายสถานีรถไฟ หรือที่พนักงานขับรถ

ภายหลังการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุนายศิวะ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นว่า ทางการรถไฟจะดูแลให้เป็นกรณีพิเศษ และออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งเวลานี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนรักษาตัวที่ร.พ.ยุพราชตะพานหิน จำนวน 10 คน ซึ่งเหลือเพียง 5 คน มีผู้ป่วยหลายรายได้เดินทางไปรักษาที่ร.พ.เอกชน ซึ่งการดูแลในเบื้องต้นนั้น ทางการรถไฟจะดูแลและรับผิดชอบให้ทั้งหมด

"สลด สาวท้อง 8 เดือนตกเก้าอี้แท้ง"


นายศิวะ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะรายของนางอภิญญา คอร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 2 ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่อุ้มท้องได้ 8 เดือน และเกิดการแท้งลูกนั้น สาเหตุเพราะตกเก้าอี้ระหว่างรถไฟสปรินเตอร์ชนกัน ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเรากำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเหตุเกิดได้อย่างไร เพราะมันไม่น่าจะเกิดขึ้น หากเจ้าหน้าที่ของการรถไฟปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง

นายศิวะ กล่าวอีกว่า เท่าที่สอบถามทางผู้ว่าการการรถไฟ หากพบว่าเจ้าหน้าที่กระทำผิด หรือเลินเล่อ ก็จะดำเนินการตามระเบียบของการรถไฟ ซึ่งต้องถึงขั้นไล่ออก ส่วนเรื่องการเก็บกู้ขบวนรถนั้น ต้องยอมรับว่าเรามีเครื่องไม้เครื่องมือไม่เพียงพอ และจุดที่เกิดเหตุนั้น เป็นจุดที่อยู่ห่างสถานีมาก ซึ่งคงต้องใช้เวลาในการกู้พอสมควร

นายศิวะ กล่าวอีกว่า ความเสียหายในเบื้องต้น เรายังไม่ได้คำนวณเป็นตัวเลข แต่เมื่อเทียบกับความเสียหายของพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนนั้นก็เทียบไม่ได้ เพราะชีวิตผู้โดยสารมีค่ามากกว่า ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน นายศิวะ พร้อมคณะได้เดินทางไปที่ร.พ.พิจิตร เพื่อตรวจเยี่ยมนางอภิญญา คอร์ ซึ่งขณะนี้ทางแพทย์-พยาบาล ร.พ.พิจิตร ได้ผ่าตัดนำเด็กที่แท้งออก และอยู่ในความดูแลของแพทย์ โดยนายศิวะสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลนางอภิญญาอย่างใกล้ชิด พร้อมกับพูดคุยกับนางอภิญญาในส่วนของการให้ความช่วยเหลือต่อไป



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์