มือยิงคนขับแท็กซี่-สาวหน้าเด้ง พยานยืนยันเป็นคนๆ เดียวกัน

กองปราบเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีเหยื่อหน้าเด้ง ประมวลหาหลักฐานเชื่อมโยงคดี คนขับแท๊กซี่-พยานปากสำคัญ


พยานยันภาพผู้ต้องสงสัยยิงคนขับแท๊กซี่-เหยื่อหน้าเด้งเป็นคนเดียวกัน ระบุ มีพยานปากสำคัญอีกรายกุมความลับแพทย์ดัง ตกอยู่ในอันตราย เคยแจ้งความถูกขู่ฆ่า
 

(15กย.) พ.ต.อ.วราวุธ สุขวัฒน์ ผกก.1 บก.ป. เรียกประชุมชุดสืบสวน

ประกอบด้วย พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ สว.กก.1 บก.ป. และพ.ต.ต.สุทธิเวท บุญยรัตกลิน สว.กก.1 บก.ป. เพื่อแบ่งชุดสืบสวนตามล่าคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงนางรวิวรรณ เสตะรัต หรือนางอภัสนันท์ ธิติโชติชัยปรีชา อายุ 53 ปี เสียชีวิตหน้าบ้านเลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.
 

ภายหลังประชุม พ.ต.อ.วรายุทธ เปิดเผยว่า

ได้รับคำสั่งจาก พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการ ผบก.บก.ป. ให้จัดกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 และกก.สส.บก.น.4 และทีมสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เข้าสืบสวนโดยในส่วนของ บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ประสานงานไปยัง พล.ต.ต.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น รองผบช.น. พร้อมกับเข้าร่วมประชุมเพื่อแลกข้อมูล และเดินทางไปจำลองภาพจุดเกิดเหตุหน้าบ้านนางรวิวรรณ อีกครั้ง ส่วนกำลังอีกชุดได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สุทธิเวท เดินทางไปพื้นที่ อ.โพธารา จ.ราชบุรี ที่ผู้ตายทำธุรกิจเกี่ยวกับงานก่อสร้างอยู่ เพื่อตรวจสอบประเด็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ทำอยู่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามเดินทางไปยังจังหวัดราชบุรี เนื่องจากก่อนที่นางรวิวรรณ ถูกยิงเสียชีวิต ได้ติดต่อมายังกองปราบปราม


เพื่อแจ้งเหตุผิดปกติ เนื่องจากพบผู้ต้องสงสัยมาป้วนเปี้ยนละแวกบ้านใน จ.ราชบุรี นอกจากนี้ยังมีการดำเนินการนำภาพผู้ต้องสงสัยที่บุกยิงนายวรรธนะหรือบุญลือ พยานปากสำคัญในคดีนางรวิวรรณ ยื่นฟ้องน.พ.กวีวัธน์ หรือไพศาล เฮงสวัสดิ์ เจ้าของไบโอคลินิก ข้อหาทำศัลยกรรมจนเสียโฉม ไปให้พยานที่พบเห็นหน้าคนร้ายที่ยิงนางรวิวรรณดู เบื้องต้นมีรายงานว่าพยานยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกัน

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากเหยื่อที่ถูกยิงเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำทั้ง 2 รายนี้แล้ว

ตามแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจากกองปราบปรามและตำรวจนครบาล พบว่า ยังมีพยานปากสำคัญอีกคนหนึ่งซึ่งขณะนี้เจ้าตัวกำลังคิดว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากเคยเป็นคนใกล้ชิดกับ น.พ.กวีวัธน์ โดยก่อนหน้าที่เหยื่อทั้งสองรายจะเสียชีวิต พยานผู้นี้ได้นำหลักฐานเรื่องความไม่ชอบมาพากลต่างๆภายในคลีนิคไปเปิดเผยให้นางรวิวรรณทราบจนทำให้ทางคลีนิคถูกตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน ซึ่งการกระทำของพยานรายนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ถูกกล่าวหาเป็นอย่างมาก ถึงขนาดมีโทรศัพท์ไปข่มขู่เอาชีวิตหลายครั้ง ล่าสุดพยานรายนี้ได้แอบบันทึกเสียงการสนทนาไว้และได้นำหลักฐานชิ้นนี้ไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง


สำหรับนายวรรธนะที่ถูกยิงเสียชีวิต และนายวิชัย ยอดสุวรรณ ซึ่งทั้งสองเคยถูกทางการจีนจับกุมและติดคุกอยู่ที่ประเทศจีนในข้อหามีสารเสพติดไว้ในครอบครองนั้นมีรายงานเพิ่มเติมว่า

หลังจากที่ทั้งสองพ้นโทษกลับมาประเทศไทยแล้วทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ.) เคยเชิญตัวทั้งสองมาสอบสวนกรณีถูกจับกุมดังกล่าวเพื่อขยายผลหาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง และในคดีดังกล่าวนั้นนายวรรธนะเคยติดต่อจะให้ข้อมูลนี้กับนางรวิวรรณด้วย


ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในคดีสังหารนางรวิวรรณ และนายวรรธนะซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นมือปืนกลุ่มเดียวกันนั้น

ชุดสืบสวนนครบาลและกองปราบปรามได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเสาะหาพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีผู้ต้องสงสัยนำภาพถ่ายนายวรรธนะไปถามชาวบ้านละแวกนั้นเพื่อหาตัวนายวรรธนะ โดยอ้างว่าเป็นการมาตามทวงหนี้ จำนวน 50,000 บาท หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 15-17 มี.ค. ช่วงกลางวันก็เห็นผู้ต้องสงสัยกลุ่มเดียวกันไปปรากฏตัวก่อนที่นายวรรธนะจะถูกยิงด้วย ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจได้สอบปากคำและให้ดูรูปผู้ต้องสงสัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในคดียิงนายวรรธนะนั้นมีพฤติการณ์คล้ายๆกับคดีสังหารนางรวิวรรณโดยก่อนเกิดเหตุก็จะมีโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้าไปหานางรวิวรรณ และมีกลุ่มผู้ต้องสงสัยไปสอบถามหานางรวิวรรณโดยอ้างว่าเป็นการทวงหนี้เช่นกัน


ขอขอบคุณภาพประกอบข่าวจาก

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์