มือปืนรุมแทง-ยิงเศรษฐินีกล้าปาล์ม

"ลงมืออุกอาจต่อหน้าคนจำนวนมาก"


มือปืนฆ่าโหด "เจ้จิ่ม" เศรษฐินีคนดังท่าแซะ ลงมืออุกอาจต่อหน้าคนจำนวนมาก แทงด้วยเหล็กขูดชาฟต์ผ่านหน้าต่างรถก่อน พอเหยื่อกระเสือกกระสนเปิดประตูอีกฝั่งวิ่งหนี ก็ตามยิงกลางหลังจนสิ้นใจ แล้วซิ่งจยย.หลบหนีไป สอบพบผู้ตายร่ำรวยจากกิจการเพาะพันธุ์กล้าปาล์ม "จินตนาพันธุ์ไม้" ส่งขายทั่วประเทศ แต่มีปัญหาขัดแย้งกับหุ้นส่วน ถูกมือปืนตามล่าชีวิตหลายหนแต่ยังรอดมาได้ ก่อนพบจุดจบ มือปืนทำทีจอดรถคุยกันแล้วลงมือไม่ให้ตั้งตัว

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 1 ธ.ค. พ.ต.ท.อุดม เลิศเพชรไพศาล สารวัตรเวร สภ.อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุฆ่ากันที่ริมถนนสายเอเชีย 41 พื้นที่หมู่ที่ 7 ต.นาขา อ.หลังสวน หน้าโรงแรมชุมทอง จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.ดาวลอย เหมือนเดช ผกก. พ.ต.ท.สุชาติ นวลปาน รองผกก.สส. พ.ต.ท.ปรีชา ศิขราชู รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ประพันธ์ ดิษฐ์ประชา สว.สส. พ.ต.ท.ประทีป จันทร์อ่อน สวป. ร.ต.อ.สมควร มีเดช รอง สว.สส. ร.ต.อ.สมพงษ์ ลิ้มอิ้ม สว.หน.สภ.ต.บ้านในหูต หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน กำลังสายตรวจและสายสืบจำนวนหนึ่งรุดไปตรวจสอบ

"นอนคว่ำจมกองเลือด"


ที่เกิดเหตุเป็นย่านแผงรับซื้อทุเรียน รับซื้อผลไม้ หลายร้อยแผงติดๆ กัน ชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์ บริเวณหน้าศาลาที่พักริมทาง พบร่างของน.ส.จินตนา พูลสวัสดิ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 379 หมู่ที่ 5 ต.หินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดกองใหญ่ ส่งกลิ่นเหม็นคาวคลุ้งไปทั่วบริเวณ มีบาดแผลถูกแทงด้วยของแหลมมีคมเข้าที่ไหปลาร้าด้านขวา ลึกเข้าไปถึงปอด 1 แผล และที่ชายโครงด้านขวาอีก 1 แผล ที่ด้านหลังบริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .22 จำนวน 2 นัด สภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าส้นสูงสีดำ ภายในตัวผู้ตายพบเงินจำนวนหนึ่ง

ห่างไปในทางเข้าโรงแรมอีก 50 เมตร พบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ ทะเบียน กจ.8411 สุราษฎร์ธานี สภาพใหม่เอี่ยม จอดในลักษณะหันหัวออกมาด้านถนนสายเอเซีย 41 ในสภาพเครื่องยนต์ยังติดอยู่ ภายในรถเปิดแอร์และวิทยุเสียงดัง ประตูด้านหน้าซ้ายเปิดอ้า ที่เบาะผู้โดยสารเปื้อนไปด้วยเลือด ที่พื้นถนนเต็มไปด้วยกองเลือดเป็นรอยไปตามทางจนถึงศพของน.ส.จินตนา ส่วนที่ประตูหน้าด้านขวา กระจกประตูแตกละเอียด มีรอยเลือดติดที่ตัวถังรถ และรอยเลือดกองใหญ่ในที่นั่งคนขับ ภายในรถพบทรัพย์สินมีค่าจำนวนหนึ่ง เอกสารต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

"แทงแล้วยังไม่ตาย วิ่งหนี ขี่จยย.ไล่ยิงตามหลัง"


จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ให้การเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.จินตนา ผู้ตาย ขับรถคันดังกล่าวมาจากจ.ชุมพร เลี้ยวมาจอดในถนนเข้าโรงแรม มีชายวัยฉกรรจ์ 2 คน ซ้อนรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมาจอดคุย โดยน.ส.จินตนาเปิดกระจกรถเพียงครึ่งเดียว เข้าเกียร์ว่าง ดึงเบรกมือขึ้นไว้ หลังจากคุยได้สักครู่ใหญ่ ชายคนซ้อนท้ายได้ชักเหล็กขูดชาฟต์ปลายแหลม แทงผ่านกระจกที่เปิดไว้เข้าไปยังไหปลาร้าของน.ส.จินตนา แรงกระแทกทำให้กระจกแตกละเอียด นางจินตนาตกใจสุดขีด

กระโดดออกจากที่นั่งคนขับมายังที่นั่งผู้โดยสารเพื่อเปิดประตูรถวิ่งหนี เป็นจังหวะที่คนร้ายจ้วงแทงอีก 1 ครั้ง เข้าที่ชายโครงด้านขวา เลือดไหลทะลัก แต่น.ส.จินตนายังแข็งใจเปิดประตูรถวิ่งหนีลงมาพร้อมกับร้องให้คนช่วย คนร้ายยังขับรถจักรยานยนต์ไล่ตามหลังมา ใช้อาวุธปืนขนาด .22 ยิงเข้าที่ด้านหลัง อีก 3-4 นัด กระสุนพุ่งเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย 2 นัด จนทรุดลงกับพื้นหน้าศาลาที่พักริมทาง กระตุกอีก 2-3 ครั้ง คนร้ายขับรถจักรยานยนต์มาจอดดูผลงานให้แน่ใจว่าเหยื่อตายแล้ว จึงขับรถย้อนกลับไปในเส้นทางจ.ชุมพร ระหว่างเกิดเหตุ ชาวบ้านที่กำลังซื้อขายทุเรียน พากันหาที่หลบกระสุนกันพัลวัน

"ขัดแย้งค้าพันธุ์ปาล์ม หลายร้อยล้าน"


ส่วนสาเหตุสังหาร ในทางสืบสวนทราบว่า น.ส.จินตนามีอาชีพเพาะพันธุ์ต้นกล้าปาล์มน้ำมันขายทั่วประเทศ มีสถานที่ขายพันธุ์ปาล์มอยู่ที่ อ.ท่าแซะ ห่างจากที่เกิดเหตุร่วม 100 ก.ม. มีฐานะร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐินีคนหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "เจ้จิ่ม" มีตำแหน่งเป็นประธานอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ในพื้นที่อ.ท่าแซะ บุคลิกคล่องแคล่ว โดยมีสามีและลูกแล้ว แต่ยังใช้สรรพนามนางสาวเหมือนเดิม นอกจากพันธุ์ปาล์มแล้ว ยังมีกิจการรถทัวร์โดยสารระหว่างเกาะสมุย-กทม. หลายสิบคัน เนื่องจากน.ส.จินตนาพื้นเพอยู่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีที่ดินหลายร้อยไร่บนเกาะสมุย

หลังจากขายที่ดินจำนวนหนึ่งได้เงินมาหลายสิบล้าน จึงมาเปิดขายพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่อ.ท่าแซะ ชื่อ "จินตนาพันธุ์ไม้" มีเงินหมุนเวียนจากการค้าขายพันธุ์ปาล์มหลายร้อยล้านบาท และยังส่งพันธุ์ปาล์มไปขายทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน มีแปลงอนุบาลพันธุ์ปาล์มทั่วทั้งจ.ชุมพร ก่อนหน้านี้ไม่นานนักได้เกิดข้อขัดแย้งกับหุ้นส่วนที่ค้าพันธุ์ปาล์ม จนแยกออกมาตั้งแปลงค้าของตัวเอง แต่ยังมีข้อขัดแย้งเรื่องเงินนับร้อยล้าน เคยถูกหุ้นส่วนเก่าจ้างมือปืนตามยิงมาหลายครั้ง แต่ก็รอดมาได้

ก่อนเกิดเหตุไม่นาน น.ส.จินตนาได้ติดค้างค่าจ้างในการดูแลอนุบาลต้นกล้าปาล์ม ในพื้นที่อ.หลังสวน อ.ทุ่งตะโก เป็นเงินจำนวนมาก ผู้ที่รับจ้างดูแลต้นกล้าปาล์ม ได้โทรศัพท์ติดต่อให้น.ส.จินตนามาเจรจากันเรื่องหนี้สินดังกล่าวด้วย จนกระทั่งมาถูกมือปืนตามปลิดชีพ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์