มหันตภัยใต้ธรณีกรุง ประปาแตก-ฟุตปาธทรุด ดูดร่างสาว-เกือบตาย

ว่ากันว่ากรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวงที่หาความปลอดภัยไม่ค่อยจะได้


นอกจากปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนแล้ว ยังมีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการขุดท่อจนเป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ทำให้คนกรุงเทพฯ ต้องระมัดระวังตัวเองมาตลอด

หากพลาดพลั้งไปอาจเจ็บตัวได้โดยไม่รู้ตัว!!

อย่างไรก็ตาม เรื่องคนตกท่อดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ ไปแล้วสำหรับคนกรุงเทพฯ แต่มาครั้งนี้เรื่องธรรมดาที่ว่าก็กลับกลายเป็นเรื่องไม่ธรรมดาจนได้ เมื่อมีเหยื่อสาวเคราะห์ร้ายเดินอยู่บนถนนดีๆ จู่ๆ ท่อประปาใต้พื้นเกิดแตก ทำให้ฟุตปาธด้านบนพังถล่มลงไปดูดกลืนร่างหญิงสาวรายนี้จมหาย เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีน้ำเอ่อท่วมร่างสูงถึงหน้าอกโชคดีที่มีชาวบ้านมาช่วยเอาไว้ได้

ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นแบบนี้!?!

อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นตอนเที่ยงวันที่ 10 ต.ค. พ.ต.ท.ทรงธรรม ศรีกาญจนา พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.บึงกุ่ม รับแจ้งเหตุมีคนตกท่อได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณฟุตปาธถนนช่วงระหว่างซอยเสรีไทย 20-20/1 หน้าหจก.ยูฟ่ามอเตอร์ไบค์ เลขที่ 60/45-46 ถ.เสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำผู้บาดเจ็บส่งร.พ.เวชธานีไปแล้ว

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหลุมขนาดใหญ่กว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตรครึ่ง ยาว 4 เมตร

ที่เกิดจากท่อประปาใต้พื้นแตก ทำให้น้ำเซาะดินทรายจนพื้นผิวถนนพังครืนลงมา ในหลุมมีตู้โทรศัพท์สาธารณะหล่นลงไป 1 ตู้ และอีก 2 ตู้ตั้งเอียงอยู่ริมปากหลุม ในสภาพพร้อมที่จะตกลงไปอย่างน่าเสียวไส้ ตำรวจจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินทางไปสอบสวนผู้บาดเจ็บที่ร.พ.เวชธานี


ทราบชื่อคือน.ส.นิตสุดา อักษรณรงค์ อายุ 29 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่เลขที่ 50 หมู่ 19 ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ปัจจุบันพักอยู่ที่บ้านเอื้ออาทร เลขที่ 828/36 ซ.เสรีไทย 43 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ทำงานเป็นพนักงานขายโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ร้านเจ มาร์ท ห้างบิ๊กซี สาขาบางนา ได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือซ้าย สะโพกขวา และแผ่นหลัง หลังทำแผลแล้วแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ แต่นัดให้มาดูอาการใหม่อีกครั้ง

"นิตสุดา"อยู่ในอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

น.ส.นิตสุดาย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตอน 10 โมงเช้าได้เดินออกจากบ้านเพื่อมาขึ้นรถประจำทางไปทำงานตามปกติ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุข้างๆ ฝาปิดท่อน้ำ ปรากฏว่าจู่ๆ พื้นปูนซีเมนต์ก็เกิดยุบตัวลงไป โดยไม่ทันตั้งตัวและตกลงไปในหลุมความลึกประมาณ 1 เมตรทันที ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ระหว่างนั้นก็มีน้ำไหลเข้ามาท่วมรอบตัวและเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ ตนพยายามตะเกียกตะกาย แต่ไม่สามารถขึ้นมาได้ ก่อนที่น้ำจะท่วมมิดหัวนั่นเองก็มีพลเมืองดีผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงเข้าช่วยเหลือดึงขึ้นมาจากหลุมได้ ทันทีที่ขึ้นมาตู้โทรศัพท์ที่อยู่ในที่เกิดเหตุก็ทรุดตัวตกตามลงไป

"ถ้าตอนนั้นมีคนช่วยดิฉันขึ้นมาไม่ทันคงถูกตู้โทรศัพท์ทับตายแน่ๆ" น.ส.นิตสุดา กล่าวด้วยความตกใจ

เหตุการณ์ครั้งนี้ "นิตสุดา" ไม่ได้คาดหวังเรื่องการฟ้องร้องแต่อย่างใด

เพียงแต่ลงประจำวันไว้ที่โรงพักเพื่อเป็นหลักฐานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เธอก็ฝากถึงผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ ขอให้ดูแลท่อประปาให้ดีๆ ไม่ใช่ทำสะเพร่าแบบนี้ เพราะถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นกับเด็กๆ ก็คงแย่ เพราะขนาดผู้ใหญ่ยังแทบเอาชีวิตไม่รอด

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้มีเจ้าหน้าที่การประปานครหลวง สาขาลาดพร้าว ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบท่อประปาดังกล่าวได้ติดต่อแสดงความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมแสดงความรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทุกอย่าง


หลังเกิดเหตุ 1 วัน เจ้าหน้าที่การประปาได้มาทำการซ่อมแซมท่อประปาที่แตกรั่วเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะนำทรายมาถมที่บริเวณหลุมที่เกิดจากการทรุดตัวและซ่อมแซมส่วนที่เหลือ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเชือกมาปิดกั้นไว้ห้ามประชาชนเดินผ่าน เพราะเป็นเขตอันตราย

นายณรงค์ กิ่งโพยม อายุ 51 ปี นายช่างฝีมือ 3 การประปานครหลวง สาขาลาดพร้าว ออกมาชี้แจงเหตุที่เกิดขึ้นว่า

สาเหตุเป็นเพราะท่อประปาส่งน้ำขนาด 200 มิลลิเมตร ซึ่งฝังอยู่ใต้ดินลึกประมาณ 1 เมตร ได้เกิดระเบิดขึ้นเนื่องจากแรงดันน้ำประปาสูง จนทำให้เกิดระเบิด ท่อประปาแตก แรงดันน้ำไปกัดเซาะใต้พื้นดินซึ่งส่วนใหญ่เป็นทราย เมื่อทรายโดนน้ำกัดเซาะจึงยุบตัวลง เหลือแผ่นปูพื้นซึ่งเป็นทางเดินมีปูนเชื่อมต่อเพียงนิดเดียว เมื่อมีคนเดินผ่านพื้นจึงไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้ จึงยุบตัวลงทันทีทำให้มีผู้ตกลงไป

"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การประปานครหลวงยินดีรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าทำขวัญ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ท่อประปาแตก เพราะช่วงนี้ประชาชนใช้น้ำเยอะขึ้น จึงต้องเพิ่มแรงดันน้ำทำให้ท่อแตก" นายณรงค์ กล่าว

ทั้งนี้ ก็ยังมีคำถามตามมามากมายว่าแล้วอย่างนี้จะหาความปลอดภัยได้ที่ไหน

เพราะลำพังเดินหลบท่อที่ขุดไว้ก็เหนื่อยพอตัวอยู่แล้ว ไหนจะต้องมาคอยระวังท่อใต้ดินที่ไม่รู้ว่าจะแตกขึ้นมาเมื่อไหร่ ที่สำคัญ ท่อประปาลักษณะนี้ก็มีฝังอยู่ใต้ดินทั่วไป แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าการประปาจะเพิ่มแรงดันน้ำวันไหน ตรงไหนรั่ว ตรงไหนแตก และตรงไหนไม่ปลอดภัยกำลังจะถล่มลงมา หรือจะต้องให้เดินไปสวดมนต์ไปตามยถา

หาความปลอดภัยไม่ได้เลยจริงๆ!!

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์