มรสุมซัด เตือน 13 จังหวัด อันตราย

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายจารุพงศ์ พลเดช ผวจ.ลพบุรี ได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ

ล่าสุดน้ำยังท่วม 3 อำเภอคือ อ.เมืองลพบุรี อ.บ้านหมี่ และ อ.โคกสำโรง โดยเฉพาะที่ ต.ถลุงเหล็ก อ.โคกสำโรง น้ำเพิ่มขึ้นอีก 10-15 ซม. เพราะเมื่อคืนมีฝนตกลงมาอีก ส่วนทางวิทยาลัยเทคนิคลพบุรีได้ทำส้วมลอยน้ำ 40 ห้องเตรียมมอบให้กับ ผวจ.ลพบุรี เพื่อนำไปตั้งไว้ตามจุดต่างๆที่ถูกน้ำท่วม เนื่องจากขณะนี้ชาวบ้านมีปัญหาที่ขับถ่าย

บ่ายวันเดียวกัน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และพระเมธีรัตโนดม เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี

ไปเยี่ยมชาวบ้านใน ต.พุคา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี พร้อมนำถุงยังชีพจำนวน 1,500 ถุง และผ้าไตรจีวร 150 ชุดไปถวายพระสงฆ์ตามวัดต่างๆที่ถูกน้ำท่วม ส่วนชาวบ้านบ้านไผ่ขวาง ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี กว่า 200 ครัวเรือนที่ถูกน้ำท่วมมากว่า 1 สัปดาห์ ได้ร้องเรียนนายธวัชชัย โสตเนียน นายอำเภอเมืองลพบุรี ว่าตั้งแต่น้ำท่วมไม่มีหน่วยงานราชการมาแจกจ่ายสิ่งของ มีเพียงมูลนิธิเอกชนเข้ามาแค่ 2 ครั้ง

ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี น้ำในลำคลองมวกเหล็กยังล้นตลิ่งและไหลแรงเนื่องจากยังมีฝนตกลงมาเป็นระยะๆ


บริเวณสองฝั่
งคลองถูกกระแสน้ำเซาะดินจนต้นไม้โค่นล้ม ไม่ว่าจะเป็นบริเวณจุดที่พักริมทางบริเวณแก่งมะนาว หมู่ 4 ต.มวกเหล็ก ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อยก็ได้สั่งปิดบริการชั่วคราวแล้ว เนื่องจากเกรงจะเกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยว อีกทั้งทางอุทยานฯต้องระดมเจ้าหน้าที่เคลียร์ต้นไม้ใหญ่ที่ล้มลงมาขวางทางน้ำ

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี


ล่าสุดแม่น้ำปราจีน
บุรียังไหลท่วมตลาด ระดับอยู่ที่ 50-60 ซม. ร้านค้าต่างๆยังคงปิดกิจการ ขณะที่ อ.ศรีมหาโพธิ ต่างได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน สถานีอนามัยบ้านท่าตูม ต.ท่าตูม มีน้ำสูงประมาณ 60 ซม. นายสันติ มาลากุล อายุ 27 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ท่าตูม กล่าวว่า ตนทำไร่มันสำปะหลัง 4 ไร่ ปรากฏว่าถูกน้ำท่วมจนหมด ต้องจำใจขุดมันก่อนกำหนด สร้างความเสียหายหลายแสนบาท


ส่วนที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำนครนายกและคลองบ้านนาไหลท่วมพื้นที่ ต.บางอ้อ และ ต.บ้านนา โดยน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 3,000 ไร่


ชาวบ้านเดือดร้อน กว่า 911 ครอบครัว ต้องขนของหนีน้ำไปไว้ที่สูงที่น้ำท่วมไม่ถึง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้นำข้าวสารอาหารแห้งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
ภาคอีสานที่ จ.นครราชสีมา ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาได้มีน้ำจากลำตะคองไหลท่วมชุมชนมิตรภาพ ซอย 4 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 50 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำสูงเฉลี่ย 30-80 ซม. ขณะเดียวกัน นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมนายสุธี มากบุญ ผวจ.นครราชสีมา เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยที่ ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา ที่ถูกน้ำท่วมหนัก 15 หมู่บ้าน โดยได้มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาทุกข์เบื้องต้น


จ.บุรีรัมย์ น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไหลลงลำน้ำสาขาต่างๆ โดยเฉพาะลำน้ำปะเทียเข้าท่วมถนนสายลำปลายมาศ-ห้วยแถลง

ช่วงสะพานเชื่อมระหว่าง อ.ลำปลายมาศ กับ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา บ้านไผ่น้อย  ต.หนองคู อ.ลำปลายมาศ เป็นระยะทางประมาณ 1 กม. รถไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ต้องปิดเส้นทางโดยสิ้นเชิง ทำให้ผู้ใช้รถต้องเลี่ยงไปใช้ถนนสายโชคชัย-เดชอุดมแทน ด้านนายสถาพร ชุมอุปการ นายอำเภอลำปลายมาศ กล่าวว่า ขณะนี้น้ำท่วมสวนสัตว์บนอุทยานลำน้ำมาศ ต.หนองคู ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดจนต้องย้ายสัตว์กว่า 20 ชนิดจำนวนกว่า 100 ตัวไปไว้ที่ อบต.และวัด


วันเดียวกัน นายถาวร พรหมมีชัย ผวจ.ชัยภูมิ นำข้าวกล่องและน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้ราษฎรชุมชนหนองบ่อ และชุมชนกุดแคน เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิที่ถูกน้ำท่วม

หลังมีฝนตกหนักประกอบกับเขื่อนลำปะทาวได้ปล่อยน้ำลงมา ล่าสุดระดับน้ำยังทรงตัว ส่วนที่ จ.ขอนแก่น แม่น้ำชีไหลท่วมพื้นที่บ้านโนนเขวา หมู่ 3 และบ้านเหล่านกชุม หมู่ 4 ต.ดอนหัน อ.เมืองขอนแก่น ถนนระหว่างหมู่บ้านมีน้ำสูงเกือบ 1 เมตร สะพานถูกน้ำเซาะชำรุด ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

นายจรัน เจาลา ผอ.โครงการชลประทาน จ.สุรินทร์ สำนักชลประทานที่ 6 กล่าวว่า ขณะนี้อ่างเก็บน้ำเสนง และอ่างเก็บน้ำอำปึล

ที่รองรับน้ำจากเทือกเขาพนมดงรักไหลสู่ลำห้วยเสนงมีปริมาณสูงกว่าสันอ่างถึง 40 ซม. จนต้องระบายน้ำออกอย่างเร่งด่วนจำนวน 12 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ทำให้นาข้าวที่อยู่ด้านล่างใน ต.เฉนียง ต.คอโค ต.ตะแสง และ ต.แกใหญ่ อ.เมืองสุรินทร์ ได้รับความเสียหาย แต่บ้านเรือนยังไม่ได้รับผลประทบ คาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาอีก ภายใน 5 วัน ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ส่วนที่ จ.พิษณุโลก หลายพื้นที่เริ่มกลับเข้าสู่ ภาวะปกติแล้ว จากการสำรวจความเสียหายทั้ง 6 อำเภอประกอบด้วย


อ.เมือง วังทอง เนินมะปราง บางกระทุ่ม พรหมพิราม และชาติตระการ รวม 37 ตำบล 232 หมู่บ้าน พื้นที่เกษตรเสียหาย 143,147 ไร่ โดยเป็นนาข้าวประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ชาวนาบ้านซำเตย หมู่ 10 ต.วังทอง อ.วังทอง ก็ได้ประกาศขายที่นากันหลายราย เนื่องจากเบื่อน้ำที่ท่วมหนักทุกปี

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศวันที่ 21 ก.ย. ว่า ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศยังคงมีฝนตกต่อไปอีก และมีฝนตกหนักเกิดขึ้นบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อยู่พื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี ลพบุรี และปราจีนบุรี ยังคงต้องระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือในช่วงวันที่ 21-24 ก.ย.นี้

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์