มงกุฎวัฒนะ โต้ DSI ยัน ตับแตกต้องถูกกระแทกอย่างแรง!!

มงกุฎวัฒนะ โต้ DSI ยัน ตับแตกต้องถูกกระแทกอย่างแรง!!

1 ก.ย. 59 ที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ พร้อมทีมพยาบาลที่ทำการกู้ชีพนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาที่ผูกคอตัวเองเสียชีวิตระหว่างการคุมขังของดีเอสไอ เปิดให้สื่อมวลชนซักถามประเด็นข้อสงสัยกรณีการเสียชีวิต


โดยระบุว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ทำหน้าที่เพียงการกู้ชีพเท่านั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชันสูตร ดังนั้น หากจะสอบถามถึงสาเหตุการเสียชีวิตต้องไปสอบถามกับแพทย์นิติเวช เพราะผลชันสูตรเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ว่าอาการตับแตกเกิดขึ้นในแบบใด

อย่างไรก็ตาม ในทางการแพทย์อาการตับแตกจะไม่ทำให้เสียชีวิตโดยทันที แต่จะเสียชีวิตเมื่อมีเลือดออกจำนวนมากเป็นเวลานาน แต่ยืนยันว่าการปั๊มหัวใจไม่ส่งผลกระทบกับตับแน่นอน เพราะเนื่องจากจุดปั๊มหัวใจนั้นร่างกายส่วนลำตัวแบ่งออกเป็นตำแหน่งช่องทรวงอกกับช่องท้อง ซึ่งจะมีกระบังลมคั่นกลางและถ้ามีการปั๊มหัวใจพลาดอาจทำให้ซี่โครงหักได้ แต่โอกาสน้อยมากและผลจะทำให้ซี่โครงทิ่มปอดแต่ก็ไม่มีผลไปถึงตับได้ ทั้งนี้ อวัยวะตับจะแตกได้ต้องได้รับการกระทบกระแทกบาดเจ็บในระดับหนึ่งอาจจะปรากฏร่องรอยภายนอกร่างกายหรือไม่ก็ได้

ขณะที่การเสียชีวิตจากภาวะตับแตกนั้น เป็นผลมาจากเยื่อแคปซูลที่หุ้มเนื้อตับแตกจึงส่งผลให้เลือดออก จนกระทั่งเลือดออกมามากจนถึงภาวะช็อกเสียชีวิต ต่อข้อถามกรณีนายธวัชชัย ที่มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงจะมีผลหรือไม่นั้น ความเป็นไปได้คือภาวะมีเลือดออกในสมอง หรือมีผลต่อจุดเปราะบางตำแหน่งอื่นๆ ในร่างกายไม่ใช่ตับ

"การตอบข้อสงสัยของสื่อมวลชนในวันนี้ไม่ได้ต้องการชี้นำกรณีนายธวัชชัย เสียชีวิต แต่ต้องการให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ เท่านั้น โดยในช่วงวิกฤติเจ้าหน้าที่ที่ทำการกู้ชีพจะมุ่งไปที่การช่วยชีวิต จึงไม่ได้สังเกตบาดแผลหรือร่องรอยอื่น แต่หลังจากการเสียชีวิตมีบันทึกของแพทย์ระบุเฉพาะพบรอยแดงช้ำเป็นแนวยาวบริเวณคอ ส่วนการบอบช้ำภายในแพทย์ไม่สามารถระบุได้จนกว่าจะมีการผ่าพิสูจน์ศพ ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องส่งตัวไปชันสูตรที่นิติเวช" นพ.เหรียญทอง กล่าว


มงกุฎวัฒนะ โต้ DSI ยัน ตับแตกต้องถูกกระแทกอย่างแรง!!

นพ.เหรียญทอง กล่าวต่อว่า ระหว่างการกู้ชีพได้มีการพูดคุยกับญาติตลอด หลังพยายามกู้ชีพนาน 1 ชม. ทั้งการปั๊มหัวใจและให้ยากระตุ้น จึงได้แจ้งญาติถึงแนวทางรักษาสุดความสามารถ และสอบถามญาติว่าจะยังสู้ต่อหรือไม่ ซึ่งญาติคือน้องชายได้เซ็นเอกสารปฏิเสธ และต้องปล่อยให้คลื่นหัวใจและชีพจรหยุดไปเอง

ทั้งนี้ ยอมรับว่าดีเอสไอแจ้งอาการเบื้องต้นโดยไม่ได้ระบุว่าเป็นการผูกคอแต่แจ้งว่าผู้ป่วยหมดสติ ซึ่งมีผลต่อการเตรียมการรักษาของแพทย์ อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่าในช่วงวิกฤติไม่จำเป็นต้องมีการแจ้งหรือให้ข้อมูลใด เพราะเมื่อทีมแพทย์พบผู้หมดสติก็ต้องใช้วิธีปั๊มหัวใจช่วยชีวิตก่อนอยู่แล้ว

ส่วนกรณีตั้งข้อสงสัยว่า มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าผู้ตายก่อนมาโรงพยาบาลนั้น 

ทางทีมผู้ทำการกูชีพให้ข้อมูลว่าคนไข้ยังอยู่ในเสื้อชุดเดิมตั้งแต่อยู่ที่ดีเอสไอและจนกระทั่งนำตัวมาปั๊มหัวใจต่อที่รพ. แต่มาเปลี่ยนชุดให้คนไข้ขณะเข้าห้องไอซียูซึ่งเป็นตามกฏข้อปฏิบัติปกติทุกราย

ทางด้านทีมแพทย์ที่ทำการกู้ชีพ ระบุว่า
ขณะที่ได้รับแจ้งใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที เมื่อมาถึงก็พบว่ามีรปภ.ดีเอสไอ กำลังปั๊มหัวใจด้วยการกดที่หน้าอกของนายธวัชชัยอยู่ ซึ่งอยู่ในอาการใกล้เสียชีวิตแต่ยัง ทั้งนี้ ย้ำว่าทีมไม่ได้มีการสังเกตร่องรอยตามร่างกายของผู้ป่วย แต่ต้องเร่งประเมินความรู้สึกเพื่อให้การช่วยเหลือโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการชี้แจงได้มีการสาธิตการปั๊มหัวใจเพื่อให้ทราบตำแหน่งการกดจุดว่าระหว่างทรวงอกกับช่องท้องมีระยะห่างกัน ดังนั้น การปั๊มหัวใจจะไม่สามารถทำให้เกิดอาการตับแตกได้


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์