ภาพวงจรปิด-ล่าตัว ฆ่าในร้านเสริมสวย

ใช้เบาะแสจากภาพวงจรปิดล่ามือมีดโหดบุกร้านเสริมสวยกลางกรุงฆ่าเศรษฐินีที่มาทำผม และยังแทงเจ้าของร้านกับลูกสาววัย 7 ขวบบาดเจ็บอีกด้วย

ตร.ยังมึนสาเหตุมาจากเรื่องอะไรแน่ เพราะไม่ได้แตะต้องทรัพย์สิน และไม่ได้ลงมือแทงเศรษฐินีก่อน แถมก่อนเกิดเหตุยังวนเวียนอยู่นานนับชั่วโมงและเข้าไปนั่งในร้านเสริมสวยอีกพักใหญ่ก่อนลงมือ ไม่คล้ายกับจะมาชิงทรัพย์หรือมีการจ้างวานฆ่า กังวลหวั่นเป็นพวกโรคจิต พยานยันไม่เคยเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน น่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ ยธ.พร้อมจ่ายค่าทดแทนให้ทั้งคนตายและผู้บาดเจ็บ

จากเหตุการณ์ระทึกกลางกรุงคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธมีดแทงนางอรทัย หรือเจ๊ไนท์ เรืองศรีนุกูลกิจ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.เรืองชัยโลหะกิจ

เสียชีวิตขณะทำผมในร้านเสริมสวยเมย์ แฮร์ ดีไซน์ ชั้นล่างอาคารแฮปปี้ อพาร์ตเมนต์ ซอยศรีนครินทร์ 42 (สุภาพงษ์ 1) ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. เสียชีวิต และยังทำร้ายนางเมธาวี หมื่นเงิน เจ้าของร้านเสริมสวย และด.ญ.พุทธรักษา หรือน้องเอเซีย หมื่นเงิน อายุ 7 ขวบ ลูกสาวนางเมธาวี ได้รับบาดเจ็บ ก่อนหลบหนีไป เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจพบของกลางหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีฟ้า มีสติ๊กเกอร์เบอร์หมายเลข 10 ของคนร้ายในที่เกิดเหตุ ตำรวจได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของ อพาร์ตเมนต์ พบคนร้ายมาวนเวียนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุนานราวๆ ครึ่งชั่วโมง ก่อนเข้าไปนั่งในร้านอีกพักใหญ่ ก่อนลงมือก่อเหตุ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 พ.ค. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.5 เข้าพบพล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. เพื่อรายงานความคืบหน้า

จากนั้นพล.ต.ท.อัศวินกล่าวว่า ยังไม่รู้ตัวบุคคลที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงเจ้าของร้านเสริมสวยจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ 2 คนว่าเป็นใคร ขณะนี้มีเพียงภาพจากภาพวงจรปิดที่จับเอาไว้ได้ขณะเดินเข้า-ออก ยังออกหมายจับไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ให้ บก.น.5 เผยแพร่ภาพบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนที่อาจจะรู้จักบุคคลคนนี้จะได้ช่วยแจ้งเบาะแสมาทางตำรวจ เพื่อสืบสวนสอบสวนติดตามหาตัวมาดำเนินคดี บุคคลตามภาพวงจรปิดเป็นคนที่ลงมือแน่นอน แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการกระทำได้ เพราะมานั่งรอเกือบ 1 ชั่วโมงจึงก่อเหตุ กับคนตายก็ไม่รู้จักกัน ถ้าเป็นการจ้างวานมากระทำก็ยังไม่สมเหตุผล เพราะลงมือสังหารที่อื่นน่าจะสะดวกกว่ามานั่งรอแบบนี้ หรือจ้างมือปืนมายิงจะง่ายกว่า ส่วนที่มีการระบุว่าอาจจะเป็นเรื่องชู้สาวในส่วนคนตายก็ยังไม่มี

ด้านพล.ต.ต.สาโรจน์ ผบก.น.5 กล่าวว่า ฝากประชาสัมพันธ์ภาพคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้ด้วย เป็นชายไทย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 25-30 ปี

สูงประมาณ 165-170 ซ.ม.ผิวคล้ำ พูดสำเนียงคนภาคกลาง ภาพดังกล่าวกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเมนต์จับได้ขณะเดินเข้าและออก ได้ทิ้งหมวกกันน็อกสีฟ้า ด้านหลังติดหมายเลข 10 เอาไว้ ส่งให้ พฐ.ดำเนินการเก็บลายนิ้วมือแฝงเพื่อตรวจสอบทะเบียนประวัติ รอผลตรวจอยู่ ใครพบเจอหรือรู้จักว่าเป็นใครขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ บก.น.5, กก.สส.น.5 สน.พระโขนง หรือโทร.191 จะเป็นประโยชน์ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างมาก


ผบก.น.5 กล่าวต่อว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเดินอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ตั้งแต่เวลาบ่ายสามโมง

เดินวนไปวนมาจนกระทั่ง 4 โมงเย็นจึงเข้าไปในร้านด้วยท่าทีปกติ ถอดรองเท้าแตะไว้หน้าร้านและวางหมวกกันน็อกเอาไว้ พูดกับเจ้าของร้านว่าจะให้ทำผม แต่เนื่องจากผมสั้นอยู่แล้วจึงไม่สามารถตัดได้ คนร้ายก็อ้างว่าขอนั่งรอเพราะนัดแฟนเอาไว้ กระทั่งเวลาประมาณ 16.40 น. นางอรทัย ผู้เสียชีวิตก็เข้ามาทำผม กระทั่งเวลาประมาณ 16.59 น. คนร้ายก็ก่อเหตุใช้มีดแทงนางเมธาวี เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ จนวิ่งหนีเข้าไปหลบในห้องน้ำ จากนั้นก็แทงนางอรทัยจนเสียชีวิต ก่อนทำร้ายด.ญ.พุทธรักษา ลูกสาวนางเมธาวี ที่นอนอยู่บนโซฟาได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีไป

"สาเหตุยังไม่สามารถระบุลงได้ ส่วนเรื่องชิงทรัพย์น่าจะตัดออกไป เพราะกระเป๋าสะพายของผู้ตายตกอยู่มีทรัพย์สินจำนวนมาก คนร้ายเห็นอยู่แต่กลับไม่เอาไป และไม่มีทรัพย์สินอื่นหาย ส่วนเรื่องประสงค์ที่จะมาทำร้ายหรือเอาชีวิต เมื่อเจอหน้าผู้ตายก็น่าจะลงมือได้ทันที แต่กลับนั่งรออยู่เกือบชั่วโมง เป้าหมายก็ยังไม่อาจจะระบุว่าเป็นผู้ตาย เพราะคนแรกที่แทงเป็นช่างเสริมสวย ครั้งแรกจากการสอบสวนในที่เกิดเหตุยังคิดว่าเป้าหมายน่าจะเป็นคนตาย แต่เมื่อสอบ ถามเจ้าของร้านเสริมสวยกลับเป็นคนแรกที่ถูกแทงก่อน เราจึงยังไม่ระบุว่าใครเป็นเป้าหมายได้แน่นอน แถมยังแทงเด็กที่นอนอีกด้วย ตำรวจสอบพบว่าทั้งคนร้ายและคนตายต่างก็เพิ่งเคยมาที่ร้ายเสริมสวยที่เกิดเหตุเป็นครั้งแรก"
พล.ต.ต.สาโรจน์กล่าว

พ.ต.อ.สิทธิภาพ ใบประเสริฐ ผกก.สน.พระโขนง กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้วทั้งหมด 4-5 ปากแล้ว

จากผลการตรวจของแพทย์นิติเวชลักษณะบาดแผลที่คนร้ายแทง เป็นการกระหน่ำแทงอย่างโหดเหี้ยม คล้ายกับว่ามีความโกรธแค้นกันมาก่อน จากแนวทางการสืบสวนหากเป็นเรื่องความแค้นส่วนตัวซึ่งคนร้ายน่าจะแทงผู้ตายก่อนเป็นรายแรก แต่กลับแทงเจ้าของร้านก่อน และทำร้ายลูกเจ้าของร้านซึ่งเป็นเด็กด้วย เป็นไปได้ว่าคนร้ายอาจจะมีอาการทางจิต ทำให้ประเด็นเรื่องความแค้นส่วนตัวยังมีความคลุมเครือ ส่วนประเด็นเรื่องการชิงทรัพย์คงไม่เกี่ยวข้องเนื่องจากคนร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินในร้านเลย ในวันนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดไปขยายเพื่อให้เห็นใบหน้าของคนร้ายอย่างชัดเจน และเรียกพยานที่เห็นใบหน้าของคนร้ายมาออกภาพสเกตช์คาดว่าจะได้ภายในวันนี้

"จากการสอบถามพยานแวดล้อมที่ดูภาพคนร้าย จากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ไม่มีใครเคยเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ภาพสเกตช์ของคนร้ายแล้วจะเรียกผู้จัดการ หจก.ช.เรืองชัยโลหะกิจ ของนางอรทัย ผู้ตาย มาสอบปากคำด้วยว่าคนร้ายเคยทำงานอยู่ที่โรงงานมาก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งรอผลการตรวจพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐานอย่างละเอียด ก่อนที่จะขออนุมัติออกหมายจับคนร้าย เพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป เพราะถ้าหากคนร้ายมีอาการทางจิตจริงเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อคนอื่น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ, พกพาอาวุธมีด และบุกรุกเคหสถาน แต่ถ้าหากพบว่าคนร้ายมีอาการทางจิตก็จะต้องให้แพทย์เป็นผู้ตรวจว่าคนร้ายมีอาการทางจิตอยู่ในขั้นไหน เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป" ผกก.สน.พระ โขนง กล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์