ฟ้องแล้วอดีตผช.พยาบาลเปิดคลินิกทำแท้งโยงศพทารกวัดไผ่เงิน


เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 ( ตลิ่งชัน) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.รัญฉกร หรือ รัญชกร หรือ “ โกะ ” จันทมนัส อายุ 34 ปี
 
อดีตผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเปิดคลินิกทำแท้งเถื่อน ย่านหนองแขม เป็นจำเลย ในความผิดฐานประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้หญิงอื่นแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 , พ.ร.บ.ประกอบวิชาเวชกรรม พ.ศ.2525 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 302 สืบเนื่องจากกรณีพบซากศพทารกที่ถูกทำแท้ง นำมาซุกซ่อนที่วัดไผ่เงินโชตนารามจำนวน 2,0002 ศพ


โดยศาลประทับรับคำฟ้องไว้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.25/2554 พร้อมมีคำสั่งให้เบิกตัว น.ส.รัญฉกร จำเลย จากทัณฑสถานหญิงธนบุรี เพื่อสอบคำให้การจำเลยว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ในวันที่ 6 ม.ค.นี้ต่อไป


ด้านนายสาวิตร บุญประสิทธิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 ( ตลิ่งชัน) กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ได้มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง น.ส.รัญฉกร ไว้ 4 ข้อหา

1.ประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.ประกอบวิชาเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต

3.ทำให้หญิงอื่นแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม
 
และ 4.ร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นไม่ต้องได้รับโทษทางอาญา

แต่อัยการได้พิจารณาสำนวนพยานหลักฐานตามที่ปรากฏและองค์ประกอบความผิดแล้ว เห็นว่าในข้อหาช่วยเหลือทำลาย ซ่อนเร้น นั้นยังไม่ปรากฏชัดเจนช่วยเหลือใคร อัยการจึงสั่งไม่ฟ้อง น.ส.รัญฉกร แต่อีก 3 ข้อหานั้นมีพยานหลักฐานชัดเจนจึงยื่นฟ้องเป็นจำเลยในวันนี้ที่ครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายพอดี ซึ่งการพิจารณาสั่งคดีได้ผ่านการกลั่นกรองตามสายบังคับบัญชาตามขั้นตอนที่มีการเสนออธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาธนบุรีแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้อัยการจะรายงานความเห็นการสั่งไม่ฟ้อง น.ส.รัญฉกร ในข้อหาร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิด ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ให้ ผบ.ตร. ทราบตามขั้นตอนเพื่อพิจารณาว่าจะทำความเห็นแย้งหรือไม่ หาก ผบ.ตร.ยืนยันจะให้ฟ้อง ก็จะส่งความเห็นแย้งดังกล่าวมาให้อัยการสูงสุด พิจารณาชี้ขาดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และถ้าอัยการสูงสุดจะชี้ขาดให้ฟ้อง ก็จะยื่นฟ้อง น.ส.รัญฉกร เพิ่มเติมต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสำนวน พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ที่มีการกล่าวหานายสุเทพ ชะบาง บอน อายุ 47 ปี และนายสุชาติ ภูมี อายุ 39 ปี 2 เจ้าหน้าที่สัปเหร่อ วัดไผ่เงิน ฯ ในข้อหาร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิด ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ที่อยู่ระหว่างการสั่งคดีของอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 นั้น จะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีรายงานข่าวอัยการ แจ้งว่าจะดำเนินการฟ้องคดีได้ทัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอสำนวนให้อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาตามขั้นตอน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์