ฟ้องหมิ่นเบื้องสูง พี่หนา บังอาจจาบจ้วงพระราชดำรัส

...ในเวลานี้ อาจจะไม่ควรจะพูด แต่อย่างเมื่อเช้านี้เอง ได้ยินเขาพูดเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะเรื่องเลือกตั้งของผู้ที่ได้คะแนน ได้แต้มไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เขาเลือกตั้งอยู่คนเดียวซึ่งมีความสำคัญ. เพราะว่าไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เขาคนเดียว ในที่สุดการเลือกตั้งไม่ครบสมบูรณ์.ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับท่านหรือเปล่า. แต่ความจริงน่าจะเกี่ยวข้องเหมือนกัน เพราะว่าถ้าไม่มีจำนวนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งพอ ก็กลายเป็นว่า การปกครองแบบประชาธิปไตยดำเนินการไม่ได้. แล้วถ้าดำเนินการไม่ได้ ที่ท่านได้ปฏิญาณเมื่อตะกี้นี้ ก็เป็นหมัน. ถึงบอกว่าจะต้องทำทุกอย่าง เพื่อให้การปกครองแบบประชาธิปไตยต้องดำเนินการไปได้.

...ไม่ได้ว่าบอกว่ารัฐบาลไม่ดี แต่ว่าเท่าที่ฟังดู มันเป็นไปไม่ได้. คือการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย เลือกตั้งพรรคเดียวคนเดียว ไม่ใช่ทั่วไป ทั่ว. แต่ในแห่งหนึ่งมีคนที่สมัครเลือกตั้งคนเดียว มันเป็นไปไม่ได้. ไม่ ไม่ใช่เรื่องของประชาธิปไตย.


พระราชดำรัส ฯ วันอังคาร ที่ 25 เมษายน 2549 พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล ในโอกาสที่พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ประธานศาลปกครองสูงสุด (นายอักขราทร จุฬารัตน) นำตุลาการศาลปกครองสูงสุดเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งหน้าที่

------------------------------------------------------------------------

...บอกว่าการเลือกตั้งลงคนเดียวไม่ใช่ประชาธิปไตย แล้วไปเขียนกฎหมายไว้ทำไมละครับในมาตรา 74 ให้สมัครคนเดียวได้ คนเดียวลงเลือกตั้งได้ถ้าไม่ถึง 20 % ต้องเลือกตั้งใหม่ เขียนไว้ทำไม ผมเขียนหรือใครเขียน ผมเขียนเหรอ และบอกว่าลงคนเดียวไม่ประชาธิปไตย นึกอยากจะพูดอะไรก็พูด น่าเสียดาย น่าเสียใจ...

พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ
ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤษภาคม 2549

ฟ้องหมิ่นเบื้องสูง พี่หนา บังอาจจาบจ้วงพระราชดำรัส

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 11 พฤษภาคม 2549 12:19 น.

เครือข่ายอีสานกู้ชาติ แจ้งความ วาสนา ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอีกคดี ระบุประธาน กกต.ทำตัวกร่างใช้โวหารจาบจ้วงพระราชดำรัส แถมไม่สำนึกผิด

วันนี้ (11 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายไทกร พลสุวรรณ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 139/2 ม.14 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายอีสานกู้ชาติ พร้อมด้วยทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ธัชชัย บุญเพ็ง สารวัตรสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

นายไทกร กล่าวว่า พล.ต.อ.วาสนา ได้กล่าววาจาหมิ่นองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยไม่แสดงความสำนึก หรือขอพระราชอภัยโทษ ในฐานะประชาชนในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงต้องดำเนินการแจ้งความตามเอกสารซึ่งได้เตรียมมา ซึ่งเป็นกระแสพระราชดำรัสที่ทรงตรัสต่อประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานศาลฎีกา เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้หยิบยกตัวอย่างคำพิพาพกษาศาลฎีกา เลขที่ 1294/2521 มายื่นต่อพนักงานสอบสวน และยังได้นำเอกสารอันเป็นข้อความซึ่งตีพิมพ์ลงใน นสพ. มติชน และไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 5 พ.ตค. ที่ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ประธาน กกต.มาแสดงด้วย

นายไทกร กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.วาสนาได้ใช้ถ้อยคำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในทำนองที่บอกว่าเลือกคนเดียวไม่ใช่ประชาธิปไตย พร้อมทั้งได้อ้างกฎหมายในมาตรา 74 ที่ระบุว่า ให้สมัครคนเดียวได้ คนเดียวลงเลือกตั้งได้ นึกอยากพูดอะไรก็พูด ซึ่งทุกคนในประเทศรู้แล้วว่าเป็นกระแสพระราชดำรัสตอนหนึ่งขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกับการดำเนินคดีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และจะต้องทำอย่างรีบด่วน เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนทั้งประเทศสงสัย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์