ฟันคอแม่ค้าเหวอะหมกศพข้างถนน!

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 9 พ.ย.


ร.ต.ท.ชวรินทร์ วงศ์ชิตะภา ร้อยเวร สภ.อ.ปากพลี จ.นครนายก รับแจ้งพบศพคนถูกฆ่าที่ริมถนนสายปากพลี-คลองกล้าม หมู่ 7 ต.โคกกรวด จึงรายงานให้ พ.ต.อ.มานพ เกสร ผกก. พ.ต.ท. อภิชาติ โกมุติกานนท์ รอง ผกก.ป. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.ปากพลี และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างอริยะธรรมสถานนครนายก

พบศพนางสมจิตร งามอาการ อายุ 40 ปี แม่ค้าขายพันธุ์กิ่งไม้


อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ 9 ต.หนองแสง อ.ปากพลี จ.นครนายก

สภาพศพนอนหงายในป่าหญ้าริมถนน
สวมเสื้อเชิ้ตสีเหลือง
นุ่งกางเกงขาสั้นลายพรางทหาร
ซิปกางเกงถูกรูดลงจนมองเห็นกางเกงในสีม่วง
มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเข้ากกหูซ้ายกับท้ายทอยฉกรรจ์ 2 แผล
เลือดไหลทะลักจำนวนมาก
ข้างศพมีผ้าขนหนูกับเสื้อยืดคอกลมเปื้อนเลือดตกอยู่

ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ คาดว่าศพถูกฆ่าตายจากที่อื่นก่อนนำมาทิ้งที่ริมถนน

สอบสวนชาวบ้านผู้พบศพทราบว่า


ประมาณตี 3 สุนัขที่บ้านเห่ากระโชกแรง และมีเสียงรถยนต์ขับออกจากที่เกิดเหตุด้วยความเร็วอย่างผิดสังเกต แต่ชาวบ้านไม่กล้าออกมาดู รอกระทั่งเช้าด้วยความสงสัยเลยเดินออกมาดูที่ริมถนน จนพบศพคนถูกฆ่านำมาทิ้งดังกล่าว

ระหว่างตำรวจตรวจที่เกิดเหตุมีนายทองสุข โพธิ์ทอง อายุ 45 ปี สามีผู้ตาย ซึ่งเป็นสมาชิก อบต.หนองแสง อ.ปากพลี เดินทางมาดูศพและให้การมีพิรุธหลายอย่าง

โดยอ้างว่าไม่รู้ภรรยาหายออกจากบ้านตอนไหน


จึงนำตัวไปค้นบ้าน พบระเบียงหน้าบ้านมีรอยล้างทำความสะอาดพื้นปูนยังเปียกอยู่ แถมมีกลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ขณะที่รถปิกอัพนิสสัน สีขาว ทะเบียน บก 4189 นครนายก ก็มีรอยล้างทำความสะอาดเช่นกัน

ส่วนในบ้านพบมีดสำหรับเดินป่ามีรอยล้างแต่มีคราบเลือดติดอยู่เล็กน้อยจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากนั้นนำตัวนายทองสุข ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าภรรยา


ไปสอบเค้นที่โรงพักเพิ่มเติม ปรากฏว่านายทองสุขยังให้การปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีหลักฐานชัดเจนหลายอย่าง

อีกทั้งแนวทางการสืบสวนก็ทราบว่า ที่ผ่านมานายทองสุขหึงหวงระแวงว่าผู้ตายคิดนอกใจ เพราะมีความใกล้ชิดกับชายหนุ่มบางคน จนทำให้มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง

ล่าสุดเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 8 พ.ย


เพื่อนบ้านได้ยินเสียงผู้ตายทะเลาะกับนายทองสุขรุนแรงอีก กระทั่งเช้าพบศพถูกฆ่าตายสุดอำมหิต ในชั้นนี้มุ่งปมชู้สาวเป็นหลัก จึงคุมตัวนายทองสุขไว้สอบขยายผลเพิ่มอีกครั้ง


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์