พ่อศพหาย3ปีรุดแจ้งความพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ข้อหาฆ่าคนตาย

พ่อสามีภรรยา หายตัว 3 ปี ทำหนังสือ แจ้งความดำเนินคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ กับภรรยา ข้อหาฆ่าคนตาย พร้อมเผย มีพฤติกรรมชอบล่าสัตว์กับสจ.คนดัง ด้านทนายหมอรุดพบลูกความ ขณะญาติและเพื่อนผู้เสียหาย เขียนป้าย

พ่อศพหาย3ปีรุดแจ้งความพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ข้อหาฆ่าคนตาย


                  นายสว่าง นุ่มจ้ย เดินทางเข้ายื่นหนังสือขอแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ และนางวิลสา จันทรบัญชร ภรรยา ในข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและฆ่าคนตาย ที่ สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี โดยนายสว่าง ให้เหตุผลว่าเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2555 นายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชาย พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ พา น.ส.วิมล นุ่มจุ้ย บุตรสาว เป็นพี่สาวนายสามารถ ไปที่บ้านเลขที่ 125/53, 125/2 ชุมชนศิริโชติ ซอยกรุงเทพ-นนท์ 1 ต.บางเขน อ.เมือง จ. นนทบุรี และได้พบรถกระบะโตโยต้า ไทเกอร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ทะเบียน บฉ 5960 เพชรบุรี ซึ่งเป็นรถที่มีชื่อ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ บุตรสะใภ้เป็นเจ้าของ จอดอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว โดยนายสามารถ นุ่มจุ้ย กับ น.ส.อรษา ได้หายไปพร้อมรถคันดังกล่าวเมื่อกว่า 3 ปีที่ผ่านมา


             ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เอกสารดังกล่าวระบุว่า หลังจากพบรถกระบะในบ้านของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่ จ.นนทบุรี ตนได้โทรศัพท์ไปหา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถามว่าเมื่อปี 2552 ตอนที่นายสามารถ และ น.ส.อรษา หายไปพร้อมรถกระบะโตโยต้า ไทเกอร์ คันดังกล่าว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ทำไมจึงบอกว่าไม่รู้ว่าคนและรถหายไปไหน แต่ทำไมรถจึงมาปรากฏอยู่ที่บ้าน จ.นนทบุรี ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ปรากฏว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ข่มขู่ตนให้ระวังตัว จะอยู่ไม่ได้ ขอให้ยุติการเปิดโปงเรื่องนี้ และบอกตนว่าเขามีพวกมาก ตนไม่มีทางชนะเขาได้


            ต่อมาเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 21 ก.ย. เป็นวันที่ตำรวจขุดหาศพนายสามารถ กับ น.ส.อรษา ที่ไร่หลังบ้าน พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลขที่ 65 และเลขที่ 225 ที่หมู่ 2 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้พบโครงกระดูกของนายสามารถที่ถูกฝังอยู่ในพื้นไร่ ตนได้ตรวจสอบที่กะโหลกศีรษะศพมีรูกระสุนที่กกหูซ้าย พบเสื้อและกางเกงที่ซากศพ ตนจำได้ว่าเป็นของนายสามารถ และตรวจฟันที่กะโหลกศพยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นฟันของนายสามารถบุตรชายตน เป็นไปตามคำบอกกล่าวของนายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่บอกกับ น.ส.วิมล บุตรสาวตน ว่า นายสามารถและ น.ส.อรษา ถูก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ยิงตายและนำศพไปฝังที่ไร่ดังกล่าว ตนจึงเชื่อว่านายสามารถถูก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ฆ่าตายจริง โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางวิลสา ภรรยา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ร่วมลงมือช่วยเหลือกระทำความผิดกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ด้วย


            ด้วยเหตุผลดังกล่าวตนขอแจ้งความเพิ่มเติม กล่าวหา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ และ นางวิลสา จันทรบัญชร ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน จากนั้น ร.ต.อ.ชายชาญ กทุมชาติ พนักงานสอบสวนเป็นผู้ออกมารับหนังสือดังกล่าว

นายสว่าง กล่าวต่อว่า อยากจะพูดคุยกับหมอในวันนี้โดยจะขอถามว่า ทำกับลูกตนทำไม และเอาลูกชายกับลูกสะใภ้ ไปไว้ที่ไหนเท่านั้น ส่วนการประกันตัวนั้นตนขอคัดค้านจนถึงที่สุด


            พ่อที่ตามหาลูกชายและลูกสะใภ้ ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับหมอนั้นเป็นคนที่ชอบเที่ยวป่า เคยมาชวนตนไปด้วยแต่ตนไปแค่ครั้งเดียว และเมื่อไปแล้วเขากับเอาปืนไปล่าสัตว์ป่า ไปล่าเก้งกวาง เลียงผา แล้วเอามาแล่เนื้อ โดยชอบไปเที่ยวล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับกลุ่ม สจ.คนดังคนหนึ่ง ในพื้นที่ กุยบุรี ปราณบุรี อยู่เป็นประจำ

ต่อมาเวลา 11.20 น.ได้มีกลุ่มครอบครัวและญาติพี่น้องของนายสามารถและนางอรษา เดินทางมาประมาณ 20 คน ยืนถือป้ายขอคัดค้านการประกันตัว พ.ต.ท.นพ.สุพัฒน์ ที่ หน้า สภ.ท่าไม้รวก โดยกล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของญาติพี่น้องและชาวบ้าน และเพื่อขอให้เกิดความเป็นธรรมกับชาวบ้าน และคนอื่นๆที่ถูกฆ่าตายแล้วฝังในไร่ดังกล่าว และที่หมอออกมาบอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ทำนั้นพวกตนไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจได้นำตัวหมอสุพัฒน์ มายังสภ.ท่าไม้รวก เวลา02.00 น.เมื่อคืนนี้ และนำตัวเข้าห้องขังทันที โดยมีตำรวจ นปพ.ยืนคุ้มกันอย่างแน่นหนา ขณะที่ตำรวจรายหนึ่งกล่าวว่าหมอทานอาหารได้ปกติทั้ง2มื้อ ไม่เครียด


            ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. มีทีมทนายความ จากสำนักงานทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ประสงค์ กุลจิตติปราณี รอง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก และพนักงานสอบสวน เพื่อขอเข้าพบ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ผู้ต้องหา หลังเข้าไปพูดคุยกับพนักงานสอบสวนประมาณ 10 นาที เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก้าอี้ภายในห้องขังเพื่อให้ทนายความเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหา โดยไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาออกมาพบทนายที่ห้องพบทนายความแต่อย่างได

ต่อมาเวลา 15.50 น.พ.ต.ท.ชัยชาญ เงินมูล อดีตรอง ผกก.ภ.จว.เพชรบุรี เจ้าของโรงแรมปึกเตียน วิลล่า ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องหา โดยใช้เวลานานประมาณ 10 นาทีจึงเดินทางกลับไป





เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์