ขุดหลุมฝังเด็กทารกใต้ต้นหว้ากลางหมู่บ้าน !! ชาวบ้านเห็นหนุ่มสาววัยท่าทางพิรุธ ย่องตามไปดูถึงตะลึงพบกำลังขุดหลุมฝังหนูน้อย ก่อนจะเร่งรีบออกจากพื้นที่ โร่แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบร่างกายครบ 32 ร่างกายแข็งแรง แพทย์ระบุแม่เด็กคลอดเองตามปกติ ส่วนสาเหตุการตายต้องส่งพิสูจน์
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ส.ค. พ.ต.ต.นภดล ทาบึงกาฬ สารวัตรเวร สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบศพเด็กทารกแรกเกิดถูกฝังดินอยู่ในป่าละเมาะ
พื้นที่หมู่ 13 ต.คลองตะเคียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อม แพทย์เวร โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุท ไธสวรรค์อยุธยา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะห่างจากถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้านประมาณ 80 เมตร และห่างจากบ้านเรือนประชาชนประมาณ 30 เมตร พบหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต ใต้ต้นลูกหว้า ภายในพบศพเด็กทารกนอนคุดคู้คว่ำหน้าอยู่ โดยมีสายรกติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำขึ้นมาชันสูตรพบว่าศพเด็กทารกดังกล่าวเป็นเพศหญิง อายุเพียง 1 วัน ที่บริเวณลำตัวมีรอยเขียวช้ำ ใกล้กันพบผ้าเช็ดตัวสีขาวเปื้อนเลือด และ ผ้าถุงลายดอก เปื้อนเลือดตกอยู่อย่างละ 1 ผืน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายฮานาฟี นุชมะหมัด อายุ 60 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 13 ต.คลองตะเคียน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 13.00 น. เห็นชายหญิง 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปี จำได้เพียงสวมเสื้อคลุมสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์น้ำเงินทั้ง 2 คน เดินถือห่อผ้าขนาดใหญ่ เข้ามาบริเวณใต้ต้นหว้า แล้วลงมือใช้จอบขุดดิน ตนเห็นแล้วเกิด ความสงสัยเกรงว่าชายหญิงทั้ง 2 น่าจะนำสิ่งของผิดกฎหมายมาฝังเอาไว้ จึงแอบดูจนกระทั่งทั้ง 2 คนเดินออกไปอย่างรีบร้อน ตนจึงเดินเข้าไปใช้ไม้ขุดคุ้ยดูพบผ้าเปื้อนเลือด และเห็นศพเด็กทารกอยู่ใต้ผ้า จึงรีบแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทราบเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นฝีมือของวัยรุ่นใจแตกหรือไม่ก็เป็นเพราะแม่ของเด็กคลอดเองตามธรรมชาติแล้วเด็กเสียชีวิต จึงได้นำเด็กทารกมาฝังเพื่อกลบเกลื่อนความผิดก็เป็นได้
ด้าน น.พ.บัณฑูร บุญบำรุง แพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ที่ทำการชันสูตรศพเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เด็กทารกคนดังกล่าวเพิ่งจะเสียชีวิต
เนื่องจากยังมีสายรกติด อยู่และถูกคลอดออกมาเองโดยธรรมชาติ มีร่างกายครบ 32 และร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นจะต้องส่งไปทำการชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง.
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ส.ค. พ.ต.ต.นภดล ทาบึงกาฬ สารวัตรเวร สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบศพเด็กทารกแรกเกิดถูกฝังดินอยู่ในป่าละเมาะ
พื้นที่หมู่ 13 ต.คลองตะเคียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อม แพทย์เวร โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิพุท ไธสวรรค์อยุธยา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะห่างจากถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้านประมาณ 80 เมตร และห่างจากบ้านเรือนประชาชนประมาณ 30 เมตร พบหลุมลึก 1 ฟุต กว้าง 2 ฟุต ใต้ต้นลูกหว้า ภายในพบศพเด็กทารกนอนคุดคู้คว่ำหน้าอยู่ โดยมีสายรกติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงนำขึ้นมาชันสูตรพบว่าศพเด็กทารกดังกล่าวเป็นเพศหญิง อายุเพียง 1 วัน ที่บริเวณลำตัวมีรอยเขียวช้ำ ใกล้กันพบผ้าเช็ดตัวสีขาวเปื้อนเลือด และ ผ้าถุงลายดอก เปื้อนเลือดตกอยู่อย่างละ 1 ผืน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายฮานาฟี นุชมะหมัด อายุ 60 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 13 ต.คลองตะเคียน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 13.00 น. เห็นชายหญิง 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปี จำได้เพียงสวมเสื้อคลุมสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์น้ำเงินทั้ง 2 คน เดินถือห่อผ้าขนาดใหญ่ เข้ามาบริเวณใต้ต้นหว้า แล้วลงมือใช้จอบขุดดิน ตนเห็นแล้วเกิด ความสงสัยเกรงว่าชายหญิงทั้ง 2 น่าจะนำสิ่งของผิดกฎหมายมาฝังเอาไว้ จึงแอบดูจนกระทั่งทั้ง 2 คนเดินออกไปอย่างรีบร้อน ตนจึงเดินเข้าไปใช้ไม้ขุดคุ้ยดูพบผ้าเปื้อนเลือด และเห็นศพเด็กทารกอยู่ใต้ผ้า จึงรีบแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทราบเพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นฝีมือของวัยรุ่นใจแตกหรือไม่ก็เป็นเพราะแม่ของเด็กคลอดเองตามธรรมชาติแล้วเด็กเสียชีวิต จึงได้นำเด็กทารกมาฝังเพื่อกลบเกลื่อนความผิดก็เป็นได้
ด้าน น.พ.บัณฑูร บุญบำรุง แพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ที่ทำการชันสูตรศพเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า เด็กทารกคนดังกล่าวเพิ่งจะเสียชีวิต
เนื่องจากยังมีสายรกติด อยู่และถูกคลอดออกมาเองโดยธรรมชาติ มีร่างกายครบ 32 และร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นจะต้องส่งไปทำการชันสูตร ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
