พ่อ-แม่อุ้มศพลูก ประท้วงคลินิกฯ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 ส.ค. นายกิตตินันท์ อินาวัง อายุ 52 ปี และนางสุรีย์ แก้วทิพย์ไชย อายุ 40 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยา อาชีพเร่ขายผลไม้

อยู่บ้านเลขที่ 221/41 หมู่ 1 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ร้องทุกข์ไปยังสื่อต่างๆให้ไปพบที่คลินิกเปรมประชาการแพทย์ ซอยวิภาวดี 33 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. เพื่อหาผู้รับผิดชอบ กรณี ด.ช.ทวินันท์ อินาวัง หรือน้องโฟร์โมสต์ วัย 1 ขวบ 8 เดือน ลูกชายเสียชีวิต หลังเป็นไข้พามารักษาที่คลินิกแห่งนี้ โดยแพทย์ให้ยาชนิดต่างๆ แต่อาการไม่ทุเลา และเสียชีวิตในวันเดียวกันที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ
 

เมื่อถึงเวลานัดหมาย ปรากฏร่างนายกิตตินันท์อุ้มร่างไร้วิญญาณของน้องโฟร์โมสต์ ในชุดเสื้อผ้าเด็กลายพราง ทหาร มีสำลีอุดปากอุดจมูก สวมรองเท้ายางสีชมพู ที่แขนขวามีผ้าก๊อซแปะอยู่

สังเกตเห็นบริเวณฝ่ามือขวาบวม โดยมีนางสุรีย์ผู้เป็นแม่เดินตามมาติดๆ แสดงเจตจำนงขอพบแพทย์ที่ให้การรักษาเพื่อขอคำชี้แจง แต่นายวิชาญ ศิริพัฒน์พรชัย เจ้าหน้าที่คลินิกไม่อนุญาต พร้อมกล่าวว่า ต้องรอผลการเสียชีวิตของเด็กจากโรงพยาบาลภูมิพลฯว่าสาเหตุมาจากอะไร จากนั้นคลินิกจะชี้แจงไปยังสื่อมวลชนให้ทราบอีกครั้ง สร้างความไม่พอใจให้ 2 ผัวเมียที่ต้องสูญเสียลูกชายเป็นอย่างมาก


นางสุรีย์สะอึกสะอื้นร้องไห้กล่าวว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ส.ค. น้องโฟร์โมสต์ ลูกชายคนเดียวมีอาการ เป็นไข้ ตัวร้อน หายใจติดขัด จึงรีบพามาที่คลินิกดังกล่าว

เพราะเป็นคลินิกเบื้องต้นของโรงพยาบาลภูมิพลฯ และรักษาผู้ป่วยที่ใช้บัตรทองตามโครงการ 30 บาท แต่หากผู้ป่วยมีอาการหนัก จะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลภูมิพลฯทันที สำหรับแพทย์ที่รักษาลูกชาย จำชื่อไม่ได้ ลักษณะตุ้งติ้ง ตัวสูง ผิวขาว ใส่เสื้อเชิ้ตผูกเนกไทเรียบร้อย บอกว่าตรวจเด็กแล้วไม่เป็นอะไรกลับบ้านได้ พร้อมให้ยาลดไข้ ลดน้ำมูก ยาแก้อักเสบ และยาขับเสมหะไปกิน แต่ลูกชายไม่ดีขึ้นจึงพากลับมาใหม่ในช่วงสาย เพื่อขอหนังสือส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ แต่แพทย์คนเดิมบอกไม่ต้องกังวล กินยาที่ให้ไป เดี๋ยวหาย
 


แม่ผู้ใจสลายร่ำไห้กล่าวต่อว่า กระทั่ง 4 ทุ่มวันเดียวกัน ลูกชายอาการหนักมากขึ้น หายใจไม่ออก ดิ้นทุรนทุราย ตัดสินใจพาไปโรงพยาบาลภูมิพลฯ

แพทย์เห็น อาการเด็กถึงตกใจ ถามว่าทำไมมาตอนนี้ จากนั้นนำเข้าไปตรวจโดยการเช็กปอด และนำเข้าห้องไอซียู ในช่วงตี 2 ก่อนเสียชีวิตในที่สุด แพทย์ระบุสาเหตุมาจากปอดบวม ระบบหายใจล้มเหลว และติดเชื้อ ส่วนสาเหตุที่พามาโรงพยาบาลภูมิพลฯช้า เพราะต้องการให้ทางคลินิกทำหนังสือส่งตัวไป จะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการรักษา เพราะมีบัตรทองรองรับ แต่ถ้าไปเองจะเสียค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ส่วนการที่ตนและสามีต้องอุ้มร่างไร้วิญญาณลูกชายมาที่นี่ เพื่อร้องเรียน และขอคำชี้แจงว่าถ้าแพทย์วินิจฉัยอาการเบื้องต้นถูกต้อง ลูกชายก็ไม่เสียชีวิต หรือถ้าไม่รู้ข้อเท็จจริง ทำไมไม่ส่งไปโรงพยาบาลภูมิพลฯ 


หลังจากนั้นนายกิตตนันท์ และนางสุรีย์เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง มี พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง ลงมารับเรื่องด้วยตัวเอง

โดยบอกพ่อแม่เด็กว่า ตามขั้นตอนพนักงานสอบสวนต้องนำศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ แต่ทั้งคู่ขอให้ไปชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งมีทีมงานของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักนิติวิทยาศาสตร์ ประจำอยู่ โดยตำรวจจะอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ 
ขณะที่ พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์กล่าวว่า หลังรับเรื่องแล้ว ต้องสอบปากคำแพทย์ผู้ให้การรักษาทั้งที่คลินิก และโรง พยาบาลภูมิพลฯ รวมทั้งรอผลชันสูตรว่าเป็นอย่างไร ตำรวจถึงจะดำเนินการต่อได้ โดยระหว่างที่ทั้งคู่ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในห้องพนักงานสอบสวน นายกิตติ นันท์อุ้มศพลูกชายนัยน์ตาแดงก่ำตลอดเวลา สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์