พี่สาวล่ามโซ่น้องวัย70ป่วยเป็นโรคไข้สันนิบาต

คมชัดลึก : สลดพบแม่เฒ่าวัย 70 ป่วยเป็นโรคไข้สันนิบาต อาการไม่สมประกอบ พี่สาวต้องล่ามโซ่ติดเสาบ้านกลัวเดือดร้อนชาวบ้าน อาศัยเงินสงเคราะห์คนชรากินอยู่เท่านั้น


 เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 7 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่าพบหญิงชราถูกล่ามโซ่ติดอยู่กับเสาภายในบ้านอย่างน่าเวทนาแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก บริเวณบ้านเลขที่ 61 หมู่ 7 ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง หลังจากรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบบริเวณดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว สภาพทรุดโทรม ภายในบ้านเป็นห้องว่าง สภาพสกปรก พบหญิงชราทราบชื่อต่อมาคือ นางสำเนียง กุลอำพน อายุ 70 ปี ถูกล่ามโซ่ขาซ้ายติดอยู่กับเสากลางบ้าน รอบๆ ตัวพบเศษผ้ากับเศษกล้วย

 นอกจากนั้นยังพบนางสนอง กุลอำพน อายุ 72 ปี พี่สาวคอยปรนนิบัติดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด นางสนอง กล่าวว่า นางสำเนียงป่วยเป็นโรคไข้สันนิบาตตั้งแต่เริ่มคลาน หลังจากพ่อแม่เสียก็เลี้ยงดูน้องมาตลอด แต่น้องมีอาการไม่สมประกอบ ชอบเดินหนีออกจากบ้านไปเก็บขยะเข้ามาไว้ในบ้าน บางครั้งก็ชอบถอดเสื้อผ้า จึงต้องนำน้องสาวมาล่ามโซ่ โดยล่ามโซ่มาหลายปีแล้ว เพราะกลัวน้องจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ทุกวันนี้คอยดูแลน้องมาตลอด ใครจะว่าอย่างไรก็ไม่สนใจ เพราะมีน้องสาวเพียงคนเดียว และที่อยู่ได้ทุกวันนี้ก็อาศัยเงินเบี้ยยังชีพจาก อบต.ป่างิ้ว เดือนละ 500 บาท และได้จากลูกชายบ้าง ใช้จุนเจือชีวิตไปวันๆ

 นางสนอง กล่าวต่อว่า ชีวิตนางสำเนียงสุดรันทดมาก เมื่อตอนวัยรุ่นถูกผู้ชายบุกเข้าข่มขืนจนตั้งท้อง ทั้งๆ ที่มีอาการไม่สมประกอบและคลอดลูกเป็นลูกผู้ชาย ตอนนี้ก็ได้ออกไปอยู่ที่อื่น โดยพ่อแม่ตนได้มอบบ้านและที่ดิน 3 ไร่ ให้นางสำเนียง แต่ลูกชายก็ขายไปให้หลาน แต่หลานที่ซื้อไว้ก็สงสารให้อาศัยอยู่ไปจนกว่าจะเสียชีวิต ตอนนี้ชีวิตลำบากมาก จะไปไหนก็ไม่ได้ต้องดูแลน้องสาวตลอดเวลา

 ด้านนายธนบดี ใจอ่อน กำนันตำบลป่างิ้ว กล่าวว่า ครอบครัวนี้น่าสงสารมาก ผู้ที่พบเห็นส่วนมากจะเข้าไปช่วยเหลือ คอยให้ข้าวให้น้ำกินอยู่ตลอดเวลา แต่ที่น่าหดหู่มากก็คือพวกที่ชอบมาขโมยตัดสายไฟภายในบ้าน ตนจึงช่วยหาช่างมาต่อสายไฟให้ และหาเครื่องอุปโภคบริโภคไปให้อยู่เป็นประจำ

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามนางสนองถึงเรื่องที่อยากจะให้หน่วยงานราชการเข้ามาดูแลหรือไม่ นางสนองก็บอกว่าตนลำบากและเดือดร้อนมาก แต่ก็ไม่อยากไปรบกวนทางหน่วยงานราชการ เนื่องจากเกรงใจ ที่น้องสาวมีสภาพเป็นแบบนี้ และถ้าหากหน่วยงานราชการจะมารับน้องสาวของตนไปดูแล ก็คงไม่ให้ไป เพราะว่าสงสารน้อง และทิ้งน้องไม่ได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์