พิษรัก-พิษน้ำกรด สาดเมียสำลักตาย ผัวโหดไม่พ้นคุก


แล้วเหตุรักขมก็ทำให้คนฆ่ากันอีก!!?

คราวนี้เกิดเหตุร้ายกับ น.ส.เนื้อน้อง พิมพา ผู้จัดการสาวคลินิกเสริมความงามเมืองแปดริ้ว วัย 28 ซึ่งมีปัญหากับ นายสุรปัญญา จึงประเสริฐธิกุล สามีเก่า ที่คอยตามง้อขอคืนดี แต่เธอไม่เล่นด้วย เพราะอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี สุดท้ายจึงถูกอดีตสามีดักเอาน้ำกรดสาดหน้าขณะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปกับเพื่อน

ด้วยความที่น้ำกรดมีปริมาณมากและมีอานุภาพร้ายแรง เมื่อสาดใส่น.ส.เนื้อน้องเข้าเต็มหน้า จนเธอสำลักน้ำกรดเข้าไปในปาก จึงถูกฤทธิ์น้ำกรดกัดกร่อนอวัยวะ ภายในดิ้นทุรนทุรายให้เห็นทันตาก่อนจะสิ้นใจตายลงอย่างน่าเวทนา

สังเวยชีวิตให้พิษรักไปอีกราย!!?

ย้อนไปดูเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นตอนค่ำวันที่ 24 มิ.ย. ตำรวจสภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งมีเหตุผู้หญิงถูกสาดน้ำกรดที่บริเวณถนนมหาจักรพรรดิ หน้ามัสยิดกลางฉะเชิงเทรา ต.หน้าเมือง พ.ต.อ.สุเทพ บุญค้ำ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ร.ต.อ.สุรพงษ์ รอยเวียงคำ ร้อยเวรฯ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบเพียงรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีขาว-ดำ ทะเบียน กวข 383 ฉะเชิงเทรา จอดอยู่ ที่เบาะและตามตัวรถ มีรอยถูกน้ำกรดหลายแห่ง โดยเฉพาะที่เบาะนั่งถูกน้ำกรดกัดขาดเป็นรู

ลักษณะแบบนี้จัดเป็นน้ำกรดชนิดแรงเลยทีเดียว!!

ห้วงนั้นพลเมืองดีนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลฉะเชิงเทราไปก่อนหน้า ตำรวจจึงตามไปสอบปากคำ น.ส.นพภาพร ทองกัลยา อายุ 23 ปี เพื่อนร่วมงานน.ส.เนื้อน้อง ซึ่งทำหน้าที่ขับมอเตอร์ไซค์พาน.ส.เนื้อน้อง ซ้อนท้ายจนถูกน้ำกรดสาดหน้า ซึ่งงานนี้ "นพภาพร" ก็บาดเจ็บถูกน้ำกรดกระเด็นใส่เช่นกัน โดนเข้าที่ลำคอ แผ่นหลัง และต้นแขนขวา

ส่วนน.ส.เนื้อน้อง โดนน้ำกรดเข้าอย่างจังเข้าที่ใบหน้าและลำตัว แพทย์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพราะตอนโดนสาด "เนื้อน้อง" ได้กลืนน้ำกรดเข้าไปจนสำลัก ทำให้น้ำกรดไหลเข้าคอส่งผลให้ระบบการหายใจถูกทำลาย

จนในที่สุด "เนื้อน้อง" ก็ค่อยๆ หมดลมหายใจ...

หลังอาการทุเลา "นพภาพร" ย้อนเรื่องราวให้ฟังว่า หลังจากปิดร้านสถานเสริมความงาม "มหาจักรพรรดิคลินิก" ในเมืองแปดริ้ว ซึ่งตนและผู้ตายทำงานอยู่ ตนได้ขี่รถจักรยาน ยนต์เพื่อกลับห้องพัก โดยมีน.ส.เนื้อน้องซึ่งเป็นผู้จัดการร้าน นั่งซ้อนท้ายมาด้วยกัน ระหว่างนั้นได้มีคนร้าย 2 คน จำได้ว่าคนซ้อนท้าย คือ นายสุรปัญญา แฟนเก่าน.ส.เนื้อน้องขับมอเตอร์ไซค์มาเทียบด้านข้างและสาดน้ำกรดใส่พวกตนจนปวดแสบปวดร้อนไปตามๆ กัน

รู้สึกตัวอีกทีก็นอนซมอยู่ที่โรงพยาบาล!!

นอกจากน.ส.นพภาพรแล้วตำรวจยังตามไปสอบปากคำ น.ส.สุนันทา ปัญจมา แคชเชียร์ของสถานเสริมความงามมหาจักรพรรดิคลินิก ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย ได้ความว่า ก่อนหน้านี้น.ส.เนื้อน้องเคยเล่าให้ฟังถึงปัญหาครอบครัวที่ต้องเลิกรากับนายสุรปัญญา เพราะจับได้ว่าสามีแอบไปมีภรรยาน้อย และทนต่อการถูกทำร้ายทุบตีไม่ไหว ทั้งๆ ที่อยู่กินกันมาหลายปีจนมีลูกชายวัย 2 ขวบด้วยกัน ซึ่งหลังจากทั้งคู่แยกทางกันไม่นาน นายสุรปัญญาพยายามตามง้อขอคืนดี แต่ผู้ตายปฏิเสธ ทำให้นายสุรปัญญาเข้าใจว่าผู้ตายกำลังจะคบผู้ชายคนใหม่ จึงข่มขู่ต่างๆ นานา ทั้งขู่ยิงทิ้งและสาดน้ำกรดใส่หน้า

สุดท้ายก็โดนสาดน้ำกรดจริงๆ!!?

หลังรวบรวมพยานหลักฐาน ผู้กำกับฯ สุเทพ สั่งพนักงานสอบ สวน ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ 385/2552 ลงวันที่ 25 มิ.ย. ออกหมายจับนายสุรปัญญา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ ตรองไว้ก่อน และร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมขยายผลหาตัวเพื่อนร่วมแก๊งทำหน้าที่ขับมอเตอร์ไซค์ทันที

วันรุ่งขึ้นได้มีญาติของนายสุรปัญญา ติดต่อตำรวจว่าจะพานายสุรปัญญาเข้ามอบตัวเพื่อรับโทษ แต่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จัดทีมตามล่ามือสาดน้ำกรดรายนี้ทันที เนื่องจากญาติผู้ตายเกิดความหวาดกลัวว่านายสุรปัญญา จะอาละวาดล้างแค้นไปทั่ว

แต่ต่อมาตอนบ่ายของวันที่ 27 มิ.ย. นางอรวรรณ กิตติกุลสวัสดิ์ กำนันตำบลโคกขี้หนอน อ.พานทอง จ.ชลบุรี คนที่นายสุรปัญญาให้ความเคารพไว้วางใจที่สุด ได้พานายสุรปัญญา เข้ามอบตัวกับพ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รอง ผบก.ภ.จว. ฉะเชิงเทรา เพื่อขอรับทราบข้อกล่าวหา

โดยนายสุรปัญญา รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือใช้น้ำกรดสาดแฟนสาวจนเสียชีวิต โดยในคืนเกิดเหตุได้ชักชวน นายวิเชษฐ์ แสงเลิศล้ำ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 3 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ขับรถมอเตอร์ไซค์มานั่งกินเบียร์ที่บ้านพัก พอใกล้เวลาแฟนสาวเลิกงาน จึงชวนกันขี่รถมาดักรอ โดยตนเองได้นำน้ำกรดสำหรับกัดพลอย ซึ่งเป็นน้ำกรดชนิดเข้มข้นที่เก็บเอาไว้เมื่อสมัยทำงานเป็นช่างทำทองที่ร้านทองแห่งหนึ่ง นำใส่ในแก้วแบบมีฝาปิดอย่างดี เตรียมไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ

"เมื่อเห็นแฟนซ้อนมอเตอร์ไซค์ออกจากร้าน จึงให้นายวิเชษฐ์ขับรถตามมาทันตรงที่เกิดเหตุ พอได้จังหวะจึงใช้น้ำกรดสาดเข้าเต็มหน้าแล้วขับรถหนี ซึ่งต่อมาญาติได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าแฟนสาวเสียชีวิตแล้ว รู้สึกเสียใจและตกใจมาก เพราะเพียงแค่อยากทำให้หายเจ็บแค้น และทำให้เสียโฉมเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจทำให้ถึงตาย ส่วนสาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้นั้น ก็เพราะแฟนสาวพยายาม ตีตัวออกห่างทั้งๆ ที่มีลูกด้วยกัน ผมพยายามง้อ แต่ก็ถูกปฏิเสธตลอด สุดท้ายจึงตัดสินใจบุกสาดน้ำกรดเพื่อล้างแค้น" นายสุรปัญญา กล่าว


เมื่อก่อกรรมไว้ย่อมหนีความผิดไปไม่พ้น!!

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์