พายุถล่ม ป้ายสนามกอล์ฟ ทับแคดดี้

เหตุการณ์พายุฤดูร้อนซัดถล่มป้ายโฆษณาขนาดใหญ่โค่นทับแคดดี้สาวชะตาขาดตายสยองรายนี้ เปิดเผยเมื่อตอนค่ำ วันที่ 31 มี.ค. พ.ต.ท.สนั่น กงสิทธิ์ สารวัตรเวร สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่า มีป้ายโฆษณา ขนาดใหญ่ล้มทับรถ จยย. มีผู้เสียชีวิตที่ปากทางเข้าสนาม กอล์ฟนอร์ทเทิร์น ริมถนนสายพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพฯ กม.ที่ 55 หมู่ 3 ต.ลำไทร จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิ ป่อเต็กตึ๊งไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุพบป้ายโฆษณาของสนามกอล์ฟนอร์ทเทิร์น ขนาดความสูง 30 เมตร กว้าง 5 เมตร ยาว 20 เมตร

โค่นล้มลงมาทับรถ จยย.ยามาฮ่ามีโอ สีดำ ทะเบียน ขขม พระนครศรีอยุธยา  177  สภาพพังยับ  และมีไฟลุกท่วม โดยมีศพ น.ส.ปิยะนันท์ คำแสง อายุ 15 ปี คนขี่รถ จยย. คันดังกล่าว บ้านอยู่หมู่บ้านระพีพัฒน์ 1 หมู่ 16 ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สภาพศพถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูง จากสายไฟฟ้าช็อตจนร่างไหม้เกรียม ถูกทับอยู่ใต้โครงเหล็ก ป้ายโฆษณาที่ล้มลงมา นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบเสาไฟฟ้า ล้มระเนนระนาดอีก 7 ต้น ไฟฟ้าดับสนิททั่วบริเวณ


สอบสวนนายนิพนธ์ แก้วธรรม ตัวแทนสนามกอล์ฟ นอร์ทเทิร์น ให้การว่า

น.ส.ปิยะนันท์ ผู้ตาย เป็นนักเรียนชั้น ม.3 ช่วงนี้ปิดเทอม จึงมาทำงานพิเศษเป็นแคดดี้ ของสนามกอล์ฟ ขณะเกิดเหตุมีพายุฝนทั้งลมและลูกเห็บตกหนัก ผู้ตายเป็นห่วงบ้าน จึงขี่รถ จยย.ฝ่าพายุฝนออกจากสนามกอล์ฟมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่เมื่อไปถึงปากทาง ป้ายโฆษณาของสนามกอล์ฟขนาดใหญ่ก็ถูกพายุพัดจนหัก โค่นลงมาทับอย่างจังเสียชีวิตดังกล่าว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสนามกอล์ฟจะดูแลรับผิดชอบจัดงานศพและเงินช่วย เหลือให้อย่างเต็มที่


ต่อมาเวลา  22.00  น.  นายเชิดพันธ์  ณ  สงขลา ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมตรวจ

เยี่ยมชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อนพัด ถล่ม ตรวจสอบพบว่า มีเสาไฟฟ้าหักโค่นหลายสิบต้นทั้งที่ อ.วังน้อย และ อ.บางปะอิน ทำให้ไฟฟ้าดับนานกว่า 3 ชม. การจราจรบนถนนพหลโยธินติดขัดยาวเหยียดกว่า 5 กม. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯเร่งซ่อมแซมแก้ไขให้ ระบบไฟฟ้ากลับมาใช้การได้โดยเร็ว ส่วนเจ้าหน้าที่อำเภอ เร่งตรวจสอบความเสียหายและรายงานด่วน เพื่อเข้าช่วย เหลือและเยียวยาให้ชาวบ้านผู้ประสบภัย



คืนวันเดียวกัน นายณัฐ คงธนะ นายอำเภอบางปะอิน พร้อมคณะ ออกตรวจความเสียหายที่หมู่ 9 ต.เชียงรากน้อย บริเวณทางต่างระดับบางปะอิน

พบป้ายโฆษณา ขนาดความสูง 80 เมตร ยาว 100 เมตร ตั้งอยู่บนเสาเหล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เมตร จำนวน 6 ต้น ถูกพายุพัด หักโค่น 3 ต้น ทับต้นไม้ยืนต้นหักราบเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ เสาไฟฟ้าขนาดใหญ่สูง 20 เมตร ริมถนนเชื่อมระหว่างสายเอเชียกับถนนพหลโยธิน โค่นล้มระเนนระนาดเป็นแถวยาว รวมทั้งหมด 29 ต้น ในจำนวนนี้มี 6 ต้น ล้มทับ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 30 หลัง โดย เฉพาะบ้านเลขที่ 32 หมู่ 9 ต.เชียงรากน้อย ได้รับความ เสียหายมากที่สุด ถูกเสาไฟฟ้าโค่นล้มทับตัวบ้าน ทำให้ นางสายหยุด แย้มยวล อายุ 73 ปี เจ้าของบ้าน ได้รับบาดเจ็บ สาหัส มีเศษไม้ทิ่มลำคอทะลุ และ น.ส.สมปอง ตลับทอง อายุ 15 ปี หลานสาว ได้รับบาดเจ็บที่ลำคอ ถูกนำส่ง รพ. บางปะอิน


นางมาลีนา ศรีบุญชร อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.เชียงรากน้อย อยู่บ้านเลขที่ 44 เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่บ้านตัวเอง ว่า

ช่วงหัวค่ำเกิดพายุลมแรงพัดกระหน่ำและ มีลูกเห็บขนาดใหญ่ตกใส่หลังคาบ้าน จากนั้นกระแสไฟฟ้า ในบ้านกระตุกและดับ ไม่นานนักทุกคนต้องตกใจสุดขีดเมื่อได้ยินเสียงสิ่งของขนาดใหญ่ล้มทับใส่หลังคาบ้าน ต่าง ส่งเสียงร้องด้วยความหวาดกลัว พร้อมวิ่งหนีตายไปคน ละทิศละทาง ท่ามกลางความมืดสนิท พอตั้งสติได้ตรวจ สอบพบว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงหน้าบ้านถูกลมพายุพัดโค่นล้มลงมาทับบ้าน แต่ยังโชคดีที่คนในบ้านไม่ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำรายงานให้ทางอำเภอ รับทราบเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป


ด้านนายณัฐ คงธนะ นายอำเภอบางปะอิน กล่าวว่า

จากการตรวจสอบพบว่า พายุลูกเห็บพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนเสียหายกว่า 30 หลังคาเรือน มีบ้านที่พังเสียหายทั้งหลัง 6 หลังคาเรือน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 คน ส่วนใหญ่ถูกเศษไม้ปลิวเข้าใส่ อาการสาหัสนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางปะอิน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย และตำรวจ คอยเฝ้าระวังทรัพย์สินของชาวบ้านที่บ้านเรือนได้รับความเสียหาย และจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเร่งติดแสงสว่างชั่วคราวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น 



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์