พลทหารโหดรับสารภาพ เผาแม่ต่อหน้าลูกแค่สั่งสอน

„ปวีณาสอบปากคำพลทหารโหด เผาแฟนสาวทั้งเป็น อ้างอีกฝ่ายคบกิ๊กเลยต้องการสั่งสอน ยันไม่ได้เสพยาหรือเมาเหล้าแต่อย่างใด"

 


„จากกรณีญาติของ น.ส.สินิทรา คุ้มไม้ อายุ 34 ปี ได้เข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ช่วยเหลือเรื่องคดีหลังจาก น.ส.สินิทรา ถูกแฟนหนุ่มที่เป็นพลทหาร สังกัดค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หึงโหดคว้าน้ำมันราดหัวก่อนจุดไฟเผาทั้งเป็นจนอาการสาหัส ก่อนจะหลบหนีเข้าค่ายทหารไป โดยภายหลังทางนางปวีณาส่งเรื่องไปให้ พ.ต.อ.ณรงค์ ถัดทะพงษ์ ผกก สน.หนองค้างพลู เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. นางปวีณา เดินทางมาพบ พ.ต.อ.ณรงค์ หลังทราบข่าวว่า ทหารจากค่ายธนะรัชต์ได้ควบคุมตัว พลทหารสุนัย ตันลิ้มสูน อายุ 22 ปี แฟนสาวของ น.ส.สินิทรา ผู้ก่อเหตุในคดีดังกล่าวมามอบให้พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว พร้อมร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหาดังกล่าว"

 


พลทหารสุนัย ให้การรับสารภาพอ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจฆ่า น.ส.สินิทรา แฟนสาวแต่อย่างใด เพียงแต่จะสั่งสอนแฟนสาวที่แอบตีห่างไปมีคนอื่นจนตนจับได้ ไม่คาดคิดว่าไฟจะลุกลามไปไหม้ทั้งตัวจนอาการสาหัสขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ตนลาราชการตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อพักผ่อนและกลับมาหาแฟนสาวหวังปรับความเข้าใจกันหลังจากทางแฟนสาวขอเลิกรา กระทั่งคืนวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนและแฟนสาวได้พูดคุยกันจนตกลงจะเลิกรากัน แต่จะขอนอนด้วยเป็นคืนสุดท้าย ก่อนที่จะแยกทางกันไป อย่างไรก็ตามระหว่างที่พักผ่อนนั้น ตนเกิดนอนไม่หลับคิดฟุ้งซ่านทั้งคืน กระทั่งเช้ามืดวันที่ 8 พ.ค. จึงคิดสั่งสอนแฟนสาวให้หลาบจํา และเสียโฉม จึงได้ไปหยิบขวดน้ำมันที่ไว้ใช้เติมจักรยานยนต์นำไปราดหัวของแฟนสาว ก่อนจะจุดไฟเผา และหลบหนีไป ปล่อยทิ้งให้แฟนสาวที่มีไฟท่วมตัวนอนอยู่กับลูกติด 2 คนอยู่ภายในห้องดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะความหึงหวง ไม่ได้ทำไปเพราะเมาสุราหรือเสพยาเสพติดแต่อย่างใด เบื้องตนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พยามฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้าย และ พรบ.ครอบครัวก่อนขออำนาจศาลศาลทหารกรุงเทพเพื่อฝากขังและดำเนินคดีตามกฎหมาย"

 


ด้าน นางปวีณา กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้เสียหาย ในคดีนี้ว่า น.ส.สินิทรา อาการยังโคม่า ต้องนอนพักในห้องไอซียูอย่างต่อเนื่อง เพราะแผลจากการถูกจุดเผาไฟที่ศีรษะ ใบหน้า แขนทั้ง 2 ข้าง บริเวณหน้าอก ได้รับความสูญเสียถึงระดับ 3 เรียกว่า เสียหาย 45 % ทางแพทย์ต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกลัวแผลติดเชื้อ หากผู้เสียหายอาการดีขึ้นตามลำดับ หรือออกจากห้องไอซียูแล้ว ทางมูลนิธิประสานไปยังโรงพยาบาลยันฮี เพื่อทำศัลยกรรมตกแต่งแผล โดยค่าใช้จ่ายมูลนิธิฯยินดีออกให้ทั้งหมด ส่วนลูกสาวของผู้เสียหายทั้ง 2 คน ตอนนี้ยังอยู่กับญาติ โดยทางมูลนิธิจะเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจกับเด็กทั้งสอง โดยให้นักสังคมสงเคราะห์มาดูแล เนื่องจากเด็กยังคงหวัดกลัวไม่กล้ากลับบ้าน เพราะยังมีภาพติดตาที่มารดาของเด็กถูกจุดไฟเผาทั้งเป็นนั่นเอง."

 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์