พร้อมพงศ์ ร้องกองปราบสอบกรณีไซฟ่อนเงิน

พร้อมพงศ์ ร้องกองปราบสอบกรณีไซฟ่อนเงิน


เมื่อเวลา 13.15 น. วันนี้ (24 ต.ค.) ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบการการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศราวุต โชติสุวรรณ พงส.(สบ 2) กก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลจากพรรคการเมือง ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่นแห่งชาติ (ภตช.) และข้าราชการระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกล่าวหาว่ามีการไซฟ่อนเงิน จำนวน 1.6 หมื่นล้านบาทจากประเทศไทยไปยังเกาะฮ่องกง เนื่องจากเชื่อว่าบุคคลที่ออกมาให้ข่าวนั้นมีความสัมพันธ์กันและน่าจะมี เจตนาสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงและภาพลักษณ์ของประเทศไทย

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าบุคคลที่ออกมาให้ข้อมูลนั้นมีความสัมพันธ์กัน แต่ที่สำคัญคือยังไม่มีการนำข้อมูลที่กล่าวอ้างไปให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องตรวจสอบให้ชัดเจนเสียก่อน ซึ่งในการเข้าพบตำรวจในครั้งนี้ก็ได้นำเอกสาร รวมทั้งภาพถ่ายที่แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมามอบไว้เป็นหลักฐานด้วย และช่วงสายวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) จะเดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตเลขาธิการป.ป.ท. เป็นสมาชิก ภตช.ว่าเป็นการกระทำที่เหมาะสมหรือไม่

นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า หลังจากร้องทุกข์ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วทางกรรมาธิการป้องกันและปราบ การการทุจริต สภาผู้แทนราษฎรจะประสานขอเอกสารรวมทั้งเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพิ่มเติมด้วยเพราะที่ผ่านมามีการกล่าวอ้างถึงการนำเข้ารถยนต์หรูที่มี นักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมทั้งกรณีกล่าวหาว่ามีการทุจริตจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทั้งหมดยังเป็นเพียงการกล่าวอ้างเท่านั้น นอกจากนี้นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวว่าหากมีกำลังจะปฏิวัติว่า เป็นคำพูดที่หมิ่นเหม่ต่อความมั่นคงของรัฐและไม่สมควรที่จะกล่าวขึ้นในสังคม ประชาธิปไตย ซึ่งขณะนี้กำลังให้ทีมงานพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหากพบว่าเข้า ข่ายกระทำผิดตามกฎหมายก็จะดำเนินการทันที รวมทั้งจะตรวจสอบด้วยว่ามีนักการเมืองเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ด้วยหรือไม่เพราะหากพบว่ามีความเกี่ยวพันกันก็อาจทำให้พรรคการเมืองถึงขั้นถูกยุบพรรคได้.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์