พบรถคนร้ายยิงถล่มนายกเล็กสงขลาแล้ว

พบรถคนร้ายยิงถล่มนายกเล็กสงขลาแล้ว


พบรถยนต์กระบะของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุยิงถล่ม "นายพีระ" นายกเทศมนตรีนครสงขลาแล้ว โดยจอดอยู่ในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ ของอดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครสงขลาคู่แข่งของนายพีระ



วันที่ 8 พ.ย.55  ความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามทั้งเอ็ม16 และคาร์บินยิงถล่ม นายพีระ ตันติเศรณี อายุ 54 ปีนายกเทศมนตรีนครสงขลา เสียชีวิตอย่างอุกอาจเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา บริเวณหน้าร้านสงขลาฟอรั่ม ถนนนครในเขตเทศบาลนครสงขลาขณะเดินทางไปร่วมประชุมติดตามปัญหาเรื่องการย้ายที่ตั้งสารกัมมันตรังสีออกจากตัวเมืองสงขลา
 

ล่าสุดเมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ ที่ 8 พ.ย.55 เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุแล้ว โดย พ.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พร้อมด้วย พ.ต.ต.ธเนศ พงษ์รอด สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองสงขลา ได้ติดตามแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่บริเวณจุดเกิดเหตุไปตามเส้นทางที่คนร้ายขับรถหลบหนี และพบรถยนต์กระบะของคนร้ายไปจอดอยู่ภายในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ เลขที่497/22 ถนนสงขลาพลาซ่า เขตเทศบาลนครสงขลา
 

โดยเป็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลัก สี่ประตู สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฌณ 6900 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการตรวจค้นพบหลักฐานสำคัญเป็นปลอกกระสุนปืนคาร์บินตกอยู่ที่กระชังหน้ารถ 1 ปลอก รวมทั้งหมวกไหมพรมสีเทาอีก 1ใ บและถุงมืออีก 1 ข้าง ตกอยู่ในบริเวณโรงรถ เจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่ารถยนต์กระบะคันนี้เป็นรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุอย่างแน่นอน และขับมาจอดไว้ภายในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอ เพื่อเปลี่ยนรถคันใหม่ขับหลบหนีไป โดยคนร้ายคาดว่ามี3-4คน
 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่วิทยาการจ.สงขลาได้เก็บลายนิ้วมือแฝงทั้งภายในและภายนอกตัวรถไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปสู่การหาเบาะแสของคนร้าย พร้อมกับกันพื้นที่ภายในสถานีวิทยุสมิหลาเรดิโอเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันการทำลายหลักฐานภายในรถโดยจัดกำลังตำรวจพร้อมไฟส่องสว่างเฝ้าตลอดทั้งคืน แต่คาดว่าป้ายทะเบียนรถน่าจะเป็นป้ายปลอมซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ครอบครอง

 
สำหรับสถานีวิทยาสมิหลาเรดิโอแห่งนี้เป็นของอดีตผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครสงขลา หัวหน้าทีมสงขลาพัฒนา คู่แข่งของนายพีระ ในการเลือกตั้งเทศบาลนครสงขลาเมื่อวันที่1 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งนายพีระ ที่เป็นหัวหน้าทีมสงขลาใหม่และชนะการเลือกตั้ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาทำการสอบสวน


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์