พบภาพถ่ายขณะขุดท่อพีวีซีมี 9ท่อแต่นำแถลงข่าว 7ท่อ

ป.ป.ส.พบหลักฐานภาพถ่ายขณะขุดท่อพีวีซีที่ซุกเงิน 30 ล้านบาท มีทั้งหมด 9 ท่อแต่นำไปแถลงข่าวให้เห็นเพียง 7 ท่อ ขณะที่ความคืบหน้าตรวจสอบทรัพย์สินเพิ่มอายัด รถจักรยานยนต์ และสมุดบัญชีเงินฝาก 3 เล่ม

(31ตค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน ร่วมประชุมคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน

โดยนายกิตติ ลิ้มชัยกิจ เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมวันนี้เป็นวาระการประชุมตามปกติที่มีการพิจารณาการยึดอายัดทรัพย์สินรวม 120 คดี ซึ่งคณะกรรมการฯ พิจารณาให้อายัดทรัพย์ในบางคดีและบางคดีให้คืนแก่เจ้าของทรัพย์สินไป ส่วนคดีเงินที่ยึดอายึดเงินกว่า 30 ล้านบาทจากการจับกุมนายมะยากี ยาโกะ นักค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่ซุกซ่อนเงินในท่อพีวีซี นั้น ได้นำภายถ่ายขณะขุดพบเงินมาชี้แจงในที่ประชุม ซึ่งพบว่าจากภาพถ่ายได้มีการขุดท่อพีวีซีแล้ววางไว้หน้าบ้านที่เกิดเหตุโดยมีทั้งหมด 9 ท่อ แต่เมื่อนำไปแถลงข่าวมีเพียง 7 ท่อแต่ขณะนั้นยังไม่มีการเปิดท่อพีวีซีเพียงนำมาวางเรียงกันเพื่อถ่ายรูปไว้เท่านั้น ซึ่งท่อพีวีซีที่หายไป 2 ท่อนั้นเป็นท่อยาวประมาณ 1 เมตรส่วน 7 ท่อที่นำมาแถลงข่าวยาวประมาณ 1-2 เมตร

นายกิตติ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้รายงานการยึดอายัดทรัพยฺสินอื่นด้วยทั้งรถจักรยานยนต์ สมุดบัญชีเงินฝาก 3 เล่ม

แต่ละเล่มระบุยอดเงินฝากเพียงหลักหมื่นเท่านั้นซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป ส่วนเงิน 30 ล้านบาทอยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินซึ่ง ป.ป.ส.ได้เปิดโอกาสให้เจ้าของเงินชี้แจงที่มาด้วย ขณะที่นายมะยากี นั้นหาก ป.ป.ส.รวบรวมข้อมูลหลักฐานเพียงพอจะเข้าไปสอบปากคำในเรือนจำว่ายังมีทรัพย์สินอื่นซุกซ่อนอยู่ที่ใดอีกหรือไม่ พร้อมกับแจ้งรายละเอียดการยึดอายัดทรัพย์และเปิดโอกาสให้นายมะยากี ชี้แจงด้วย

นายกิตติ กล่าวด้วยว่า นายจรัญ ไม่ได้สั่งการเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่ขอให้นำคดีเงิน 30 ล้านบาทมาเป็นตัวอย่างและบทเรียนในการศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับการทำงานของ ป.ป.ส.
 
อย่างไรก็ตามย้ำว่าคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินมีหน้าที่ตรวจสอบที่มาของเงินไม่ได้มีหน้าที่ตามหาเงินที่หายไป นายกิตติ กล่าวอีกว่า หลังจาก ป.ป.ส.รายงานข้อมูลที่ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบทั้งหมดแล้วคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินจะต้องวินิจฉัยที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวอีกครั้งว่าได้มาโดยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ จากนั้นจะสรุปความเห็นให้อายัดทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินเสนออัยการให้พิจารณามีความเห็นเสนอศาลต่อไป