ฝากขัง “ไอ้วุธ” มือฆ่าหั่นศพแฟนสาว เตรียมคุมตัวเข้าคุกทันที!! ตร.ค้านประกัน เชื่อทำผิดจริง

จากกรณี นายธนกฤต หรือวุธ ประกอบ อายุ 36 ปี ชาว จ.พัทลุง ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ลงมือฆ่าหั่นศพ น.ส.ลักษณา กำลังเก่ง หรือเมย์ อายุ 24 ปี อดีตแฟนสาวชาว จ.ร้อยเอ็ด ภายในห้องพักเลขที่ 4319 ชั้น3 อาคาร 4 ของแมนชั่นแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี โดยมีการแยกชิ้นส่วนออกเป็น 14 ชิ้น ก่อนยัดใส่กระสอบปุ๋ยนำไปโยนทิ้งไว้ในป่าหญ้าข้างทาง ภายในซอยสามวา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมาถูกตำรวจตามจับกุมตัวได้ พร้อมรับสารภาพสาเหตุเกิดจากการหึงหวง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 มิถุนายน ที่ สน.มีนบุรี พ.ต.ท.ถาวร สายมณี รอง ผกก. (สอบสวน) สน.มีนบุรี กล่าวว่า ในช่วงเช้าทางพนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายธนกฤตไปศาลจังหวัดมีนบุรีตั้งแต่เช้าแล้ว เพื่อทำเรื่องขอยื่นฝากขังเป็นที่เรียบร้อย สาเหตุที่ต้องนำตัวไปตั้งแต่เช้า เพราะใกล้ครบกำหนดอำนาจการควบคุมตัวของตำรวจ ซึ่งมีกำหนดไว้ที่ 48 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหาตามขั้นตอนปกติอยู่ เนื่องจากคดีนี้มีโทษร้ายแรง ที่ผ่านมาผู้ต้องหามักไม่ได้รับการประกันตัวอยู่แล้ว

ต่อมา ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ได้ควบคุมตัวนายธนกฤต ประกอบ หรือวุธ อายุ 36 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี คดีฆ่าหั่นศพแฟนสาว มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.-7 ก.ค.นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น จะต้องสอบพยานอีก 6 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลางกับผลพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา โดยพนักงานสอบสวนขอให้ศาลออกหมายขังและขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาด้วย เนื่องจากเชื่อว่าได้กระทำผิดกฎหมายอาญาร้ายแรง

โดยคำร้องฝากขัง ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.61 เวลาประมาณ 22.00 น. พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเหตุ พบชิ้นส่วนศพที่บริเวณ ถนนสามวา แขวง- เขตมีนบุรี กทม. เมื่อไปตามดูที่เกิดเหตุพบ ชิ้นส่วนของศพจริงจึงสืบสวนขยายผลจนทราบว่า ผู้ตายคือ น.ส.ลักษณา กำลังเก่ง ทำงานบริษัท พรินทวิท์มี จำกัด จึงได้ติดตามไปพบผู้ต้องหา เมื่อได้สอบถามก็ยอมรับว่า เป็นแฟนกับผู้ตายจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำภาพกล้องวงจรปิด จุดที่ผู้ต้องหาพา น.ส.ลักษณา ไปยังที่พัก เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ในเวลาประมาณ 18.40 น. แล้วต่อมาเป็นภาพที่ผู้ต้องหาสะพายเป้,ถุงกระสอบที่ใส่ชิ้นส่วนศพออกมา ซึ่งเป็นชิ้นเดียวกันที่พบในที่เกิดเหตุ และ เสื้อที่ผู้ตายใส่ในวันเกิดเหตุเป็นตัวเดียวกับที่พบในที่ทิ้งศพ และผ้าห่มที่ห่อศพ ซึ่งปรากฏในภาพที่ผู้ต้องหาเคยโพสต์ในเฟซบุ๊ค โดยหลังเกิดเหตุไม่พบผ้าห่มดังกล่าวที่ห้องนอน นอกจากนี้สัญญาจีพีเอสโทรศัพท์ของผู้ตายก็ปรากฏบริเวณที่ทิ้งศพในวันที่ทิ้งด้วย จากหลักฐานดังกล่าว ผู้ต้องหาจึงได้รับสารภาพว่า กระทำผิดจริง

พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอออกหมายจับและได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยแต้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ซ้อนเร้น ย้าย ทำลายศพ เพื่อปิดยังการตายฯ และเคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า ซึ่งศพหรือส่วนของศพอันเป็นความผิดตามประมวนกฏหมายอาญา มาตรา 288,199,366(3) ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

ขอบคุณภาพจาก มติชน