กรณีตำรวจ ศส.บชน.บุกจับกุมแก๊งต้มตุ๋น
ประกอบด้วยนายเอกราช เกียรติปรากฏ อายุ 36 ปี น.ส.ธิชา สอนประชุม อายุ 40 ปี แฟนนายเอกราช และ น.ส.เพียงใจ ดีบุกคำ อายุ 39 ปี น้องสาว น.ส.ธิชา เป็นอาจารย์สอนพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง วางแผนแสบเปิดสมุดหน้าเหลืองโทรศัพท์สุ่มหาบ้านคนมีฐานะดีที่มีคนใช้อยู่เพียงคนเดียว อ้างตัวเป็น จนท. ธนาคารแห่งหนึ่ง หลอกคนใช้ว่าเป็น จนท. ธนาคารมาเก็บเงินค่าใช้จ่ายที่เจ้าของบ้านไปกู้เงินแบงก์ โดยตระเวนก่อเหตุมาแล้วถึง 20 ครั้งได้เงิน-ของมีค่าไปกว่า 20 ล้านบาท ตามที่ได้ เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้
วันที่ 11 พ.ย. ร.ต.ท.สมศักดิ์ ธิจริยา ร้อยเวร สน.ประเวศ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งในชั้นสอบสวนทั้ง 3 ให้การภาคเสธ แม้จะรับสารภาพมาแล้วในชั้นจับกุม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้หนักใจอะไรมาก เนื่องจากมีพยานและหลักฐานยืนยันแน่นหนา สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีญาติของผู้ต้องหา 2 ราย นำหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัวกับทางผู้บังคับบัญชา แต่ผู้ใหญ่ได้ค้านที่จะให้ประกันตัว ซึ่งพรุ่งนี้ตนจะนำผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ ศาลจังหวัดพระโขนงเป็นผลัดแรก หากทางญาติต้องการจะประกันตัว ก็ต้องไปยื่นเรื่องกับทางศาลเอง ไม่ทราบว่าจะได้ประกันหรือไม่
เจ้าของคดีกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตั้งแต่เกิดเรื่อง
มีผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อทยอยมาดูตัวผู้ต้องหาที่โรงพักถึง 20 ราย ทั้งหมดจำหน้าผู้ต้องหาได้ว่าตระเวนก่อเหตุเกิดมาแล้วหลายท้องที่ อาทิ คลองตัน ลาดพร้าว ทุ่งสองห้อง สุทธิสาร ปากคลองรังสิต และย่าน จ.นนทบุรี อย่างไรก็ตามมีผู้เสียหาย 10 ราย จำหน้านายเอกราชได้อย่างแม่นยำว่าเป็นผู้ที่เดินทางไปรับเงิน และทรัพย์สินจากพวกตน ส่วนบางรายที่เพิ่งจะถูกหลอกก็จำของกลางที่คนร้ายเอาไปได้ ตนจึงแนะนำให้ผู้เสียหายทั้งหมดกลับไปแจ้งความในท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่อายัดตัวทั้งสามไปดำเนินคดีต่อไป ส่วนในพื้นที่โรงพักประเวศ มีนางสายหยุด สังข์ สุดชา อายุ 51 ปี คนใช้หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เข้าชี้ตัวนายเอกราช พร้อมยืนยันว่าเคยตกเป็นเหยื่อถูกหลอกทรัพย์สิน จนนายจ้างเข้าใจผิดแจ้งความดำเนินคดีไปด้วย.
ประกอบด้วยนายเอกราช เกียรติปรากฏ อายุ 36 ปี น.ส.ธิชา สอนประชุม อายุ 40 ปี แฟนนายเอกราช และ น.ส.เพียงใจ ดีบุกคำ อายุ 39 ปี น้องสาว น.ส.ธิชา เป็นอาจารย์สอนพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง วางแผนแสบเปิดสมุดหน้าเหลืองโทรศัพท์สุ่มหาบ้านคนมีฐานะดีที่มีคนใช้อยู่เพียงคนเดียว อ้างตัวเป็น จนท. ธนาคารแห่งหนึ่ง หลอกคนใช้ว่าเป็น จนท. ธนาคารมาเก็บเงินค่าใช้จ่ายที่เจ้าของบ้านไปกู้เงินแบงก์ โดยตระเวนก่อเหตุมาแล้วถึง 20 ครั้งได้เงิน-ของมีค่าไปกว่า 20 ล้านบาท ตามที่ได้ เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้
วันที่ 11 พ.ย. ร.ต.ท.สมศักดิ์ ธิจริยา ร้อยเวร สน.ประเวศ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหา ซึ่งในชั้นสอบสวนทั้ง 3 ให้การภาคเสธ แม้จะรับสารภาพมาแล้วในชั้นจับกุม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้หนักใจอะไรมาก เนื่องจากมีพยานและหลักฐานยืนยันแน่นหนา สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีญาติของผู้ต้องหา 2 ราย นำหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัวกับทางผู้บังคับบัญชา แต่ผู้ใหญ่ได้ค้านที่จะให้ประกันตัว ซึ่งพรุ่งนี้ตนจะนำผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ ศาลจังหวัดพระโขนงเป็นผลัดแรก หากทางญาติต้องการจะประกันตัว ก็ต้องไปยื่นเรื่องกับทางศาลเอง ไม่ทราบว่าจะได้ประกันหรือไม่
เจ้าของคดีกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามตั้งแต่เกิดเรื่อง
มีผู้เสียหายที่เคยตกเป็นเหยื่อทยอยมาดูตัวผู้ต้องหาที่โรงพักถึง 20 ราย ทั้งหมดจำหน้าผู้ต้องหาได้ว่าตระเวนก่อเหตุเกิดมาแล้วหลายท้องที่ อาทิ คลองตัน ลาดพร้าว ทุ่งสองห้อง สุทธิสาร ปากคลองรังสิต และย่าน จ.นนทบุรี อย่างไรก็ตามมีผู้เสียหาย 10 ราย จำหน้านายเอกราชได้อย่างแม่นยำว่าเป็นผู้ที่เดินทางไปรับเงิน และทรัพย์สินจากพวกตน ส่วนบางรายที่เพิ่งจะถูกหลอกก็จำของกลางที่คนร้ายเอาไปได้ ตนจึงแนะนำให้ผู้เสียหายทั้งหมดกลับไปแจ้งความในท้องที่ที่เกิดเหตุ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่อายัดตัวทั้งสามไปดำเนินคดีต่อไป ส่วนในพื้นที่โรงพักประเวศ มีนางสายหยุด สังข์ สุดชา อายุ 51 ปี คนใช้หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เข้าชี้ตัวนายเอกราช พร้อมยืนยันว่าเคยตกเป็นเหยื่อถูกหลอกทรัพย์สิน จนนายจ้างเข้าใจผิดแจ้งความดำเนินคดีไปด้วย.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
