ผู้บาดเจ็บบั้งไฟระเบิดเสียชีวิต ร้อยเอ็ดเกิดเหตุซ้ำรอย

กรณีเกิดอุบัติเหตุบั้งไฟระเบิดตกใส่ผู้ชมที่มาเที่ยวงานประเพณีบุญบั้งไฟ ของอบต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ ( 26 มิ.ย.)  นางศิริยากร ภาษีราช อายุ 39 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสกะโหลกศีรษะเปิด และถูกไฟลวกตามร่างกายได้เสียชีวิตลงหลังจากส่งตัวไปรักษาต่อที่โรง พยาบาลศูนย์ขอนแก่น ญาติจึงเคลื่อนย้ายศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 28 หมู่12 บ้านผักหนาม ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน นายไกรสร กองฉลาด นายอำเภอกระนวน กล่าวว่า สำหรับการจุดบั้งไฟนั้นทางผู้จัดงานคือ คณะกรรมการ ผู้นำท้องถิ่นตำบลหนองกุงได้ทำการจัดขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า การจัดงานนั้นเป็นงานบุญประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
 
โดยจะมีการแจ้งให้ทราบว่ามีการจุดบั้งไฟเท่านั้น ซึ่งทางหน่วยงานกรมการปกครองจะทำการประสานไปยังหน่วยบิน หรือ ฝูงบินของกองทัพอากาศที่อยู่บริเวณใกล้ให้ทราบเท่านั้น
 
หลังเกิดเหตุตนจึงกำชับผู้นำท้องถิ่นให้ช่วยเข้มงวดเกี่ยวกับความปลอดภัยผู้ที่มาเที่ยวงาน และความปลอดภัยของตัวบั้งไฟโดยจัดโซนอันตรายไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใกล้ รัศมี 50 เมตร  อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจะเป็นช่วงที่ ชาวบ้านกรูเข้าไปชมบั้งไฟในระยะใกล้ขณะที่กำลังจะพุ่งทยานสู่ท้องฟ้า เมื่อเกิดเหตุระเบิดขึ้นจึงพากันวิ่งหนีหาที่หลบ โดยผู้เสียชีวิตได้เข้าไปหลบใต้ต้นจามจุรี ห่างจากฐานจุดบั้งไฟ 20 เมตร ทำให้กิ่งต้นจามจุรีหักลงมาฟาดศีรษะเสียชีวิตสำหรับบั้งไฟกือ (ขนาด10ล้าน) ดังกล่าวเป็นของนายกู้เกียรติ สารสมัคร นายก อบต.หนองกุงใหญ่ มีทีมจุดบั้งไฟจากอ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด ซื้อมาในราคา เจ็ดหมื่นบาทและได้ทำประกันอุบัติเหตุไว้ซึ่งจะทำการตรวจสอบบริษัทประกันอีกทีหนึ่งว่าเป็นบริษัทใด ปีหน้าตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น เพราะว่าขนาดของบั้งไฟใหญ่เกินไป โดยจะต้องปรับขนาดให้พอเหมาะตามประเพณีดั้งเดิม และจะต้องไม่มีการพนันมาเกี่ยวข้อง เพราะบางพื้นที่มีการจุดบั้งไฟนอกฤดูกาลมีการพนันมาเกี่ยวข้อง


ผู้บาดเจ็บบั้งไฟระเบิดเสียชีวิต ร้อยเอ็ดเกิดเหตุซ้ำรอย

ซึ่งงานประเพณีบุญบั้งไฟยังไม่มีกฏหมายมารองรับที่ชัดเจนเกี่ยวกับการขออนุญาตจุดบั้งไฟ และอีกอย่างมาตรฐานของช่างในการผลิตบั้งไฟยังไม่มีการรับรอง

 ซึ่งตนเองจะทำการประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการบังคับในอนาคตข้างหน้า และได้รายงานให้ทางจังหวัดรับทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แล้วด้าน พ.ต.อ.ชาตรี ปรีชากุล ผกก.สภ.กระนวน เปิดเผยว่าจากการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องพบว่า เกิดจากความประมาทของผู้ผลิตบั้งไฟ จนเกิดอุบัติเหตุขึ้น จึงต้องรอญาติผู้เสียชีวิตเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนประสานไปยังญาติผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ และกรรมการจัดงาน เจ้าของบั้งไฟ กรรมการจุดบั้งไฟ มารับทราบข้อกล่าวเพื่อประกอบสำนวนต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดงานบุญบั้งไฟครั้งนี้ประธานเปิดงานคือ ส.ส.จตุพรเจริญเชื้อ พรรคเพื่อไทย เขต 3 ขอนแก่น ซึ่งการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟแต่ละปี บางที่จะอ้างว่างานประเพณีจะมีการเล่นการพนันบั้งไฟมีวงเงินหมุนเวียนวันละกว่าหลายล้านบาท โดยจับเวลาตั้งแต่เริ่มจุด จนไปถึงลับปลายยอดทิวไม้

ซึ่งกรรมการจะใช้ 3-4 คน นำกล้องส่องทางไกลเป็นอุปกรณ์การตัดสิน มีผู้บรรยายให้นักพนันทราบว่าแต่ละบั้งจะกำหนดราคาตั้งแต่ต้นจนลงถึงพื้นกี่วินาที จากนั้นนักพนันจะพนันกันว่าบั้งไฟดังกล่าวจะสูงกว่า หรือต่ำกว่าราคาที่กลางที่เปิดไว้ 

ขณะเดียวกันเมื่อช่่วงบ่ายวันที่  25 มิ.ย. ที่ผ่านมา  ได้เกิดอุบัติเหตุ  " บั้งไฟหมื่น" ลุกติดไฟพุ่งเข้าชนชาวบ้าน
 
ในงานประเพณีบุญบั้งไฟ บวงสรวงเจ้าปู่ เจ้าพ่อหลักเมืองอาจสามารถ และบวงสรวงพญาแถนขอฝน ที่บริเวณป่าระหว่าง 3 หมู่บ้าน คือ บ้านอาจสามารถ บ้านหนองแวง และบ้านหนองขาม มีผู้เสียชีวิต เป็นคนดูถูกบั้งไฟชนตัวขาดครึ่งท่อนเสียชีวิตคาที่ 1 ศพ และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการระเบิดจำนวนกว่า 25 คน โดยสาเหตุเกิดจากเจ้าของบั้งไฟใช้แส้ทำความสะอาดรูดินปืน  และเกิดเกิดเปลวไฟขึ้นในรูดินปืน จนเกิดความร้อนและสะเก็ดไฟทำให้บั้งไฟทำงานขึ้นโดยอัตโนมัติ ก่อนพุ่งขนานไปกับพื้นเข้าหากลุ่มคนที่เดินทางมาชมงานที่พยายามวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่นและเกิดระเบิดสนั่นหวั่นไหวจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อาจสามารถได้ติดตามจับนายทรงศักดิ์สราญคาม เจ้าของบั้งไฟ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย บาดเจ็บ และบาดเจ็บสาหัส 

ด้านนายสำราญ นามเดช นายกเทศมนตรีเทศบาล ต. อาจสามารถ กล่าวว่า ได้ทำประกันภัยหมู่เอาไว้ เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ตาย
 
และผู้บาดเจ็บซึ่งเกิดจากงานบุญบั้งไฟในวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท และนับเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุรุนแรงในประเพณีการจุดบั้งไฟของ อ.อาจสามารถ ที่ทำกันมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามตนได้รับรายงานว่าได้เกิดอุบัติเหตุบั้งไฟระเบิดที่แท่นจุดเป็นครั้งที่ 2 ภายในงานบุญบั้งไฟดังกล่าวทำให้ นายสมบูรณ์ แถวสาบุตร อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 1 ต.โหรา อ.อาจสามารถ ได้รับบาดเจ็บช้ำใน ขั้นอาการสาหัส เนื่องจากถูกแรงอัดของอากาศขณะดินปืนจากบั้งไฟระเบิด ถูกนำส่ง รพ.อาจสามารถเพื่อรักษาตัว โดนชาวบ้านหลายคนพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า สาเหตุที่เกิดเหตุการณ์รุนแรงในงานบุญบั้งไฟของ อ.อาจสามารถ อาจเกิดจากคณะกรรมการจัดงาน ไม่จัดหมอลำซิ่งไปแสดงที่หน้าต้นยางนาขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณเจ้าปู่ เช่นทุกปีที่เคยจัดมา ทำให้วิญญาณเจ้าปู่เกิดพิโรธ จึงเกิดเหตุร้ายแรงถึงขนาดบาดเจ็บสาหัสเสียชีวิต เพื่อเป็นการตักเตือนและสั่งสอน.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์