ผู้คุมคุกเมืองคอน เปิดใจช้ำ! สังคมเน่าเฟะในเรือนจำ

นายณรงค์ ยงค์ณรงค์เดชกุล ผู้บัญชาการจังหวัดนครศรีธรรมราช

ให้สัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 25 เมษายน หลังจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่กรมราชทัณฑ์ จากกรณีพล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช นำกำลังผสมบุกจู่โจมเข้าตรวจค้นเรือนกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช พบสิ่งของต้องห้าม ยาเสพติด อุปกรณ์การเสพ โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์สื่อสารจำนวนมาก และมีเจ้าหน้าที่บางส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจกับนักโทษ ว่า ขณะนี้ตนเองกำลังเตรียมเก็บข้าวของ และอยู่ในระหว่างการลาพักร้อน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ค่อนข้างที่จะตกใจ แต่ยอมรับว่าปัญหามีจริง แต่เมื่อมีปัญหาแล้วจะต้องแก้ ไม่ต้องมานั่งว่าใครผิดใครถูก ต้องให้กำลังใจคนที่ไม่รู้เรื่องเหล่านี้ด้วย คนดีๆก็ยังมีในเรือนจำ

"อายุราชการเหลืออีก 5 ปี พร้อมที่จะสู้ต่อไปเพื่อประเทศชาติ เรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องที่ผมไม่เห็นด้วยอยู่แล้วต้านมาตลอด แต่ต้องยอมรับว่าคนเดียวสู้กับคนอีกหลายคนไม่ได้ ข้าราชการก็ต้องเป็นข้าราชการ อย่างที่บอกอำนาจเงินมันเบ็ดเสร็จมาก จนคนดีบางคนต้องถอย แต่ไม่ท้อใจพร้อมสู้ มั่นใจว่าความจริงจะต้องถูกเผยออกมา" นายณรงค์กล่าว

เมื่อถามว่าเรือนจำนครศรีธรรมราชจะเป็นแบบอย่างในการปราบปรามเรือนจำทั่วประเทศหรือไม่ว่า ที่นครศรีธรรมราชทำแบบนี้ตนถือว่าดี ส่วนที่เรือนจำอื่นจะผิดกฎหมายเหมือนที่นครศรีธรรมราชหรือไม่นั้นไม่ทราบ รู้แต่ว่าขวัญและกำลังใจ เจ้าหน้าที่หดหายไปมาก


ผู้คุมคุกเมืองคอน เปิดใจช้ำ! สังคมเน่าเฟะในเรือนจำ

"ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำนครศรีธรรมราชถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน 3 รายนั้น ยังไม่เห็นคำสั่งเนื่องจากลาพักร้อน กำลังเก็บข้าวของอยู่ วอนสื่อมวลชนเขียนข่าวดีๆหน่อย อย่าให้เรือนจำช้ำไปมากกว่านี้ ให้กำลังใจคนดีๆที่พร้อมจะต่อสู้ด้วย คนดีย่อมมีมากกว่าคนเลวเสมอๆ"นายณรงค์กล่าว

ด้านนายเพ็ญพัญตร์ พูลช่วย รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำนครศรีธรรมราช กล่าวว่า

ผบ.ไม่อยู่ ลาพักร้อน ข้อมูลต่างๆคงให้อะไรมากไม่ได้ เพราะรักษาการ แต่บอกได้ว่า เจ้าหน้าที่ตอนนี้ขวัญกำลังใจหดหายไปมาก ท้อแท้ หน้าดำคร่ำเครียด ปลาเน่าตัวเดียวทำให้เหม็นไปหมด บอกลูกน้องว่าให้กำลังใจต่อสู้ คนดีมี 95 คนเลวเพียง 5 ก็อย่าท้อ

“การดูแลก็ยังคงเหมือนเดิม เนื่องจากอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ยังมีกว่า 40 คน ดูแลนักโทษกว่า 3,000 คน ซึ่งมีกำลังไม่เพียงพอ วันนี้นักโทษในการดูแลมีจำนวน 4,710  ราย แยกเป็นชาย 4,205 ราย หญิง 565 ราย แยกเป็นนักโทษเด็ดขาดชาย 1,251ราย นักโทษเด็ดขาดหญิง 189 ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินคดี ยอมรับว่าทุกคนเหนื่อยกับการทำหน้าที่”รักษาการ ผบ.เรือนจำนครศรีฯกล่าว


นายเพ็ญพัญตร์ กล่าว อยากให้ทุกคนเข้ามาดู หรือมาลองอยู่ดูก็จะรู้ว่าเป็นอย่างไร มันอึดอัดขนาดไหน แต่เราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือการตรวจตราสิ่งของก็ยังคงเป็นปกติ นักโทษก็อาจจะเครียดบ้าง เพราะปกติก็เครียดอยู่แล้ว


เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับสูงรายหนึ่ง กล่าวว่า วันนี้พวกเราทำงานเหมือนเป็นทาสของนักโทษ จะเอาอะไรก็เกรงใจ จะขออะไรไม่ให้ก็ต่อว่า

พอพูดจาหยาบคายก็ฟ้องร้อง จะทุบจะตีก็ไม่ได้ ข้าวดิบก็โวย จับได้ว่าทำผิดถามแบบตำรวจก็ไม่ได้ หาว่าทำร้าย พวกเราท้อใจ หมดกำลังใจ พวกเราทำงานแบบนี้มาตลอดดักจับได้ทุกวัน พอจับถี่เข้ามากๆ ใช้พวกเครือข่ายไปถล่มครอบครัวของผู้คุมบางคนที่ อ.ทุ่งใหญ่ ใช้เอ็ม 16 ไปยิงเลย บางคนก็ไปขู่ลูกสาว พวกคุณคิดดูว่าพวกเราจะรู้สึก อย่างไร ข้างบนเคยรู้กันบ้างไหมว่าเกิดอะไรกับพวกเรา


“ยอมรับว่ามีจริงกระบวนการลักลอบทำผิด กม.ในเรือนจำ แต่ไม่ทุกคน ข่าวออกมาเน่าทั้งเรือนจำ แต่วันนี้พวกเราตกเป็นจำเลยของสังคม เราก็อยากจะบอกว่าพวกเราไม่ใช่ทุกคน ทำความดีเพื่อสังคมกันอยู่ แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้เราก็จำยอม แต่จะให้เราออกมารับนั้นไม่จริง”

เมื่อถามว่าวันนี้น่าจะยังมียาและโทรศัพท์อีกหรือไม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับสูงกล่าวว่า มีเข้าออกได้ทุกวัน
 
กำลัง เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ อุดรอยรั่วไม่ได้ อุดรอยนี้ รอยนั้นรั่ว แล้วจะเอาอะไรไปอุด การบุกค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดหน้าปิดตาเข้าไปค้น พวกนักโทษไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นใคร แต่ลองเป็นพวกเราดูสิ รับรองว่าจะเข้าไปเดินตรวจตราตามเวรได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ชีวิตแขวนอยู่บนความตายตลอดเวลา อยากเรียกร้องให้สังคมหันมาเห็น อยากให้ตีแผ่ว่าชีวิตผู้คุมเป็นอย่างไร


เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ระดับสูงคนเดิมกล่าวอีกว่า สังคมในเรือนจำเน่าจริงๆเฟะมาก คนดีคุมคนเลวที่เป็นสุดยอดแล้วมารวมกันนั้นจะเอากำลังที่ไหน วันดีคืนดีจับลูกสาวไปข่มขืน วันดีคืนดีขโมยข้าวของ วันดีคืนดียิงใส่บ้าน ใครจะกล้า เราก็กินข้าวเหมือนกัน คนพวกนี้เดนตายไม่กลัวตาย แต่เราไม่กล้า เรายังมีภาระที่จะต้องรับผิดชอบอีกมากมาย

“วันนี้หากตรวจอีกก็เจออีก แต่เราจะกล้าตรวจหรือ ตำรวจบอกว่านวด นักโทษก็บอกว่านาบ จับได้จับเอา เงินมาก จ่ายมาก ไม่เดือดร้อน พวกมันตะโกนกล้าจับ มันก็กล้าจ่าย ของยิ่งแพงยิ่งสนุก ของเข้ายาก ลูกค้าก็ต้องจ่ายหนัก ท้าไม่กลัว แล้วเรายืนตาดำๆจะทำอะไรได้ เอาข้าวไปให้กินยังกับว่าต้องไปกราบกรานพวกมัน พวกคุณลองเข้ามาอยู่สิ โดยเฉพาะนักข่าวหญิงผมว่าไม่เกิน ชั่วโมงคุณก็จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร หรือทั้งหมดนี้ลองดูมั้ย หาเรื่องเข้ามาอยู่ในเรือนจำดู คุณจะเข้าใจหัวอกของเราว่ารู้สึกอย่างไร”เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนดังกล่าวระบุ

เมื่อถามว่ามีบ่อนการพนันจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คนเดิมกล่าวว่า วันนี้มีหมดแหละ อะไรที่ว่าอบายมุขมีทุกอย่าง นักโทษกลุ่มนี้เดนตายไม่กลัวความตายอยู่แล้ว ต้องปลดปล่อยตัวเองให้มากที่สุด ทำอย่างไรก็ได้ที่จะให้ตัวเองมีเงินใช้ คนที่บ้านไม่เดือดร้อน ออกไปอยู่ภายนอกก็ไม่มีใครยอมรับสู้นอนสบายๆมีเงินใช้ ครอบครัวมีความสุข

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์คนหนึ่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า

  เจ้าหน้าที่เรือนจำหรือผู้คุมต้องปฏิบัติหน้าที่ท่ามกลางความเสี่ยงขนาดไหน ซึ่งตำรวจจับกุมและควบคุมผู้ต้องหาแค่คนเดียวใช้กำลังหลายสิบนาย แต่ผู้คุม 5-6 คนต้องควบคุมดูแลนักโทษนับพันคน แต่ละคนมีอาวุธมีดดัดแปลงปลายแหลม  พร้อมที่จะทำร้ายผู้คุมตายได้ทันที ที่สำคัญพวกนักโทษเหล่านี้มันรู้และติดตามความเคลื่อนไหวของผู้คุมทุกคนรายละเอียด เช่น มีบ้านอยู่ที่ไหน เมียทำอะไร ลูกเรียนหนังสือที่ไหน

"ดังนั้นหากผู้คุมเข้มงวดกวดขันใครจะรับผิดชอบในชีวิตและทรัพย์ของตัวผู้คุมรวมทั้งลูกเมีย เพราะนักโทษเหล่านี้มีเครือข่ายอยู่นอกเรือนจำกว้างขวางมาก หากผู้คุมเข้มงวดกวดขันพวกเขาสามารถโทรศัพท์สั่งการให้เครือข่ายนอกคุกไปดักทำร้ายผู้คุมและครอบครัวเมื่อไหร่ก็ได้ จึงอยากให้เข้าใจ เห็นใจผู้คุมในเรือนจำบ้าง"เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์"


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์