ผัวแทงเมียมีกิ๊กโยนลูกลงบ่อ-มอบตัว

ส่วนกรณีนายสายัณห์ ยั่งยืน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/2 หมู่ 17 ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ดื่มเหล้าเมาแล้วคลุ้มคลั่งก่อเหตุสลด จับลูกชาย 2 คน โยนลงบ่อน้ำหลังบ้าน เป็นเหตุให้ ด.ช.กิตติชัย ยั่งยืน ลูกชายคนเล็กวัยขวบเศษ สำลักน้ำไปสิ้นใจที่โรงพยาบาล และยังอาละวาดไล่แทงนางนฤมล เชื้อทอง ภรรยา และฟันญาติที่เข้าห้ามปรามบาดเจ็บไปตาม ๆ กันก่อนจะหลบหนีไป สาเหตุเพราะแค้นที่จับได้ว่าภรรยาแอบไปมีกิ๊ก เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น

ความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ก.พ. นายปัญญา บำรุงวัด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพระพาตัวนายสายัณห์ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.อำนวยพล สถิตย์ไทย ผกก. สภ.อ.เมืองปราจีนบุรี ที่โรงพัก โดยนายสายัณห์สารภาพอย่างสำนึกผิด อ้างว่าแค้นหลังจับได้ว่าภรรยาแอบไปมีกิ๊ก พยายามขอร้องให้เลิกติดต่อกันนานถึง 3 เดือน

เพื่อให้เห็นแก่ครอบครัวและลูก ๆ กลับถูกปฏิเสธ วันเกิดเหตุนั่งดื่มเหล้าขาวและเบียร์ย้อมใจ พร้อมอ้อนวอนภรรยาให้เลิกติดต่อกับกิ๊กสักวัน ก็ถูกปฏิเสธอีก มิหนำซ้ำยังเดินหนีไปคุยโทรศัพท์กันแบบไม่แยแสและหยามหัวใจ จนอารมณ์ชั่ววูบเข้าครอบงำประกอบ กับเมาจึงอยากจะผูกคอตาย แต่เป็นห่วงลูก ๆ เลยเปลี่ยนใจจะฆ่าครอบครัวและค่อยฆ่าตัวตาย

จึงเข้าไปอุ้มลูกทั้งสองคนพาไปบ่อปลาหลังบ้าน พูดสั่งลาว่า "พ่อรักลูกนะ" แล้วโยนลูก ๆ ลงบ่อเพื่อให้ตายพร้อมกัน ก่อนจะวิ่งกลับเข้าบ้านคว้ามีดแทงภรรยาเข้าที่ชายโครงจนมีดหัก แต่ภรรยาแข็งใจวิ่งหลบหนีไปได้ และมีญาติเข้าห้ามปรามจึงฟันบาดเจ็บไปอีกคน

นายสายัณห์ สารภาพต่อว่า จากนั้นหลบหนีไปเพื่อจะผูกคอตาย เพราะคิดว่าลูก 2 คนตายแล้ว แต่จังหวะหลบหนีเห็นชาวบ้านอุ้มร่างหมดสติของลูกชายคนเล็ก และลูกชายคนโตยังวิ่งเข้ามาหาตน จึงรู้ว่าลูกยังไม่ตาย เลยล้มเลิกความตั้งใจจะฆ่าตัวตาย แต่หนีไปซ่อนตัวอยู่อีกอำเภอหนึ่งแทน นั่งไตร่ตรองและสำนึกผิดอยู่นาน 2 วัน ก่อนตัดสินใจติดต่อ นายก อบต. บ้านพระ

พาเข้ามอบตัวชดใช้กรรมให้ลูกคนเล็กที่ต้องตายเพราะน้ำมือตน ต่อมาตำรวจควบคุมตัวนายสายัณห์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านและญาติพี่น้องเฝ้าติดตามดูทุกขั้นตอน โดยชาวบ้านที่ไปมุงดูส่วนใหญ่ กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้ต้องหาเป็นคนดีมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว พร้อมแสดงความเห็นใจ และว่าที่ต้องก่อคดีสลดขึ้นเป็นเพราะทำใจไม่ได้กับปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้น และหันไปพึ่งของมึนเมาจนก่อคดีสะเทือนขวัญขึ้น.