ผัวตืบเมียดับคาที่หลังพบภาพบาดตานอนกอดกิ๊กใหม่

(24สค.) เวลา 09.30 น. พ.ต.ท.สรวิศ สุขแพทย์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุสามีทำร้ายร่างกายภรรยาเสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 62 หมู่ 6 ตรงข้ามโรงเรียนบางเมืองเขียนผ่องอนุสรณ์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ ผกก.สภ.อ.เมือง สมุทรปราการ นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวที่บริเวณกลางบ้านหลังดังกล่าวพบศพนางพนม ยิ้มประดิษฐ์ อายุ 46 ปี

นอนเสียชีวิตในสภาพสวมเสื้อแขนกุดสีน้ำตาล ใส่กางเกงขาสั้นลายดอกสีดำ ใบหน้าเขียวช้ำบวมปูด และมีบาดแผลแตกหลายแห่ง คาดเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำ 4 ชั่วโมง ในขณะเดียวกันยังพบนายพราม ยิ้มประดิษฐ์ อายุ 56 ปี เดิมอยู่บ้านเลขที่ 613 ต.นาเสี้ยว อ.ศรีสัตย์นาลัย จ.สุโขทัย สามีผู้ตาย ซึ่งทำงานเป็นรปภ. อยู่ที่ห้างคาร์ฟูร์ศรีนครินทร์ และอยู่ในสภาพเมาสุราเดินไปมาอยู่หน้าบ้านดังกล่าว โดยมีชาวบ้านช่วยกันคุมตัวเอาไว้

จากการสอบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านนายสมศักดิ์ มูลผดุง อายุ 61 ปี และเป็นกิ๊กนางพนมผู้ตาย โดยก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำนางพนมผู้ตายได้แอบมานอนอยู่กับนายสมศักดิ์ ภายในบ้านหลังดังกล่าว กระทั่งเวลา 03.00 น. นายพรามซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรา ได้เดินทางมาที่บ้านของนายสมศักดิ์ พร้อมทั้งเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ซึ่งปกติไม่ได้ล๊อกประตูบ้านอยู่แล้ว

หลังจากนายพรามเดินเข้ามาในห้องนอนพบนางพนมนอนอยู่ในมุ้งเดียวกับนายสมศักดิ์

ทำให้นายพรามเกิดบันดาลโทษะใช้มือจิกผมลากนางพนมออกมานอกมุ้ง และลงมือทำร้ายร่างกายนางพนม ด้วยการใช่เท้ากระทืบและชกต่อยเข้าใบหน้าและใช้ของแข็งทุบใบหน้าหลายครั้ง โดยนายสมศักดิ์ได้แต่เพียงนั่งดูไม่กล้าเข้าช่วย เกรงว่าจะถูกนายพรามทำร้าย

หลังจากนั่งดูอยู่พักใหญ่นายสมศักดิ์ทนไม่ไหวจึงปีนหน้าต่างออกมาจากบ้าน

เพื่อจะไปตามชาวบ้านมาช่วย แต่ไม่ทันเพราะเมื่อกลับมาพร้อมชาวบ้านได้พบนางพนมนอนเสียชีวิตอยู่กลางบ้านแล้ว ชาวบ้านจึงช่วยกันคุมตัวนายพราม เอาไว้ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวน นายพราม ซึ่งยังอยู่ในอาการมึนเมาสุราได้ให้การวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง แต่จากหลักฐานและพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างพากันยืนยันว่า นายพรามเป็นคนทำร้ายนางพนมเสียชีวิต เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ก่อนควบคุมตัวเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป