ผัวขี้เมาสาดน้ำกรดหน้าเมีย โมโหขอแยกทางหวิดเสียโฉม

หนุ่มโรงงานนิคมบางปูขี้เมายัวะเมียขอแยกทางใช้นำกรดแบตเตอรี่สาดใส่หน้าเมียได้รับบาดเจ็บ หมอเผยโชคดีเป็นน้ำกรดชนิดอ่อน ตร.ติดตามไล่ล่าแต่ยังไม่พบตัว

เหตุการณ์ครั้งนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 6 กันยายน พ.ต.ท.กฤษฎา ตรีสารพุทธชาด สารวัตรเวร สภ.อ.ย่อยบางปู จ.สมุทรปราการ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัทรินทร์บางปูว่า มีหญิงถูกสาดด้วยน้ำกรดที่ใบหน้ามาเข้ารักษาขอให้เดินทางมาตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางตรวจสอบที่โรงพยาบาลทันที

ภายในห้องฉุกเฉินพบว่าแพทย์กำลังให้การรักษา น.ส.ลภัสรดร เอกชน อายุ 27 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.นครปฐม นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด โดยที่ใบหน้าแดงเป็นผื่นดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ เนื่องจากเพิ่มถูกสาดด้วยน้ำกรดแบตเตอรี่ แพทย์รักษาจนอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว

น.ส.ลภัสรดร ให้การว่า อยู่กินกับนายศุภกิจ จันทร์ประทับ อายุ 20 ปี ทำงานอยู่ที่โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในย่านนิคมบางปูซอย 1 และพักอาศัยอยู่ที่ อาคารเจริญสินธานีคอนโด อาคาร 4 บี ชั้น 4 ห้องที่ 313 ต.บางปูใหม่ โดยระยะแรก นายศุภกิจ ดีกับตนมาก แต่มาระยะหลังชอบดื่มสุราจนเมาแล้วลงมือทำร้ายร่างกายตนอยู่เป็นประจำทุกวัน

กระทั่งก่อนเกิดเหตุได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ตนทนต่อความทารุณไม่ไหวจึงหนีออกจากบ้านไปพักอาศัยอยู่กับเพื่อน เพื่อให้นายศุภกิจสำนึก และเมื่อช่วงเย็นวันที่ 5 กันยายน ตนเดินทางกลับมาที่ห้องพักก็พบว่านายศุภกิจดื่มสุรามีอาการเมา เมื่อเห็นตนเข้าก็ตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายเช่นเคย พร้อมบังคับให้ร่วมหลับนอนด้วย หลังจากเสร็จกิจ ตนจึงตัดสินใจขอแยกทาง ทำให้นายศุภกิจไม่พอใจพร้อมเดินหายออกจากห้องไปพักใหญ่ก่อนที่จะกลับเข้ามาพร้อมกับใช้น้ำกรดที่ใส่ขวดมาสาดใส่หน้าตนจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรายหนึ่งเปิดเผย อาการของ น.ส.ลภัทรดร ว่าโชคดีที่น้ำกรดดังกล่าวเป็นน้ำกรดชนิดอ่อน หลังจากผู้บาดเจ็บถูกสาดแล้วก็รีบเอาน้ำล้างออกทันที่ทำให้ไม่เป็นอันตรายมากหนัก

อาการแรกรับนั้นมีผื่นที่ใบหน้าและตาแดง แพทย์จึงทำความสะอาดบริเวณดังกล่าวและได้ให้ยาลดอาการผื่นบวม ส่วนดวงตาที่ถูกน้ำกรดสาดนั้น เบื้องต้นพบว่า ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด แต่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 คืน เพื่อรอดูอาการไปก่อน หากไม่เป็นอะไรมากทางแพทย์ก็จะอนุญาตให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้

เบื้องต้นหลังจากที่ได้รับแจ้งข้อมูลเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบนายศุภกิจ มือน้ำกรดแต่อย่างใด ซึ่งเชื่อว่าหลังก่อเหตุ นายศุภกิจหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก