ผลุบลงท้องอึเป็นเลือด-ดช.อมเข็มหมุดเล่น

ระทึกเด็กชายวัย 11 อึเป็นเลือด หลังนำเข็มหมุดมาอมเล่นแล้วเกิดผลุบ เข้าไปในท้อง

แม่ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลที่แม่ฮ่องสอน แต่โรงพยาบาลเครื่องไม้เครื่องมือไม่พอเลยประสานงานส่งตัวมาที่ร.พ.นครพิงค์เชียงใหม่ เพื่อผ่าตัดช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน เผยหมอจับเอกซเรย์แล้วนำขึ้นเตียงผ่า แต่กลับไม่พบจุดที่เจอเข็มหมุดในช่วงแรก ต้องเอกซเรย์ใหม่พบว่าไหลลงไปที่ลำไส้เล็กแล้ว ในที่สุดผ่าตัดนำออกมาได้ คาดพักฟื้นอีก 2 วันกลับบ้านได้ หมอเตือนเหรียญ-ลูกชิ้นก็อันตรายถ้าหลุดลงคอแล้วอาจเข้าไปอุดหลอดลม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 มี.ค. น.พ.ชัชวาลย์ ศิรินิรันด์ ผอ.โรงพยาบาลนครพิงค์ พร้อมด้วยน.พ.อมรชัย กริชนิกรกุล ศัลยแพทย์

ร่วมกันแถลงข่าวที่ ร.พ.นครพิงค์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กรณีที่โรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยเด็กชายไทย ชื่อ ดช.ต้น (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ บ้านอยู่ อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลแม่ฮ่องสอน เนื่องจากกลืนเข็มหมุดลงท้องและถ่ายอุจจาระเป็นเลือด สำหรับกรณีดังกล่าว เด็กเล่าให้ฟังว่า เช้าวันที่ 5 มี.ค. เวลา 08.00 น. ขณะยืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ได้หยิบเอาเข็มหมุดที่เตรียมมาทำกังหันลมในวิชาวิทยาศาสตร์มาอมเล่น เข็มหมุดได้ลื่นไหลเข้าไปในคอ ผู้ป่วยพยายามเอามือล้วงคอ แต่เข็มไม่ออก กลับลื่นไหลลงลึกไปอีก ต่อมาเริ่มมีอาการปวดท้องและถ่ายอุจจาระมีเลือดปนออกมาหนึ่งครั้ง แม่จึงพาไปโรงพยาบาลแม่ลาน้อย ทางโรงพยาบาลจึงประสานงานส่งตัวต่อมาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ในวันเดียวกัน

เวลา 14.00 น. ผู้ป่วยเดินทางมาถึงโรงพยาบาลนครพิงค์ ทีมศัลยแพทย์ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียดและส่งเอกซเรย์ช่องท้อง จึงพบเข็มหมุดอยู่ในกระเพาะอาหาร

มีความยาว 4 ซ.ม. ปลายแหลม นายแพทย์อมรชัย จึงนำผู้ป่วยเข้าผ่าตัดทันที ปรากฏว่า เมื่อเปิดเข้าไปในกระเพาะอาหาร ไม่พบเข็มหมุดแต่อย่างใด จึงต้องใช้เอกซเรย์พิเศษในห้องผ่าตัดช่วยในการหาตำแหน่งของเข็มหมุดที่แน่นอนอีกครั้งหนึ่ง ก็ปรากฏว่าเข็มหมุดได้เคลื่อนเข้าไปอยู่ในลำไส้เล็กแล้ว จึงผ่าลำไส้เล็กตรงบริเวณจุดที่เอกซเรย์บอกตำแหน่ง จึงพบเข็มหมุดและนำเข็มหมุดออกจากระบบทางเดินอาหารของเด็กได้สำเร็จ ขณะนี้เด็กปลอดภัยดีแล้ว รอพักพื้น 3 วันกลับบ้านได้

น.พ.ชัชวาลย์ กล่าวเตือนผู้ปกครองว่า ทางโรงพยาบาลจึงขอเตือนผู้ปกครองและเด็กๆ ว่า ไม่ควรเอาสิ่งของอมเล่นในปาก

โดยเฉพาะของมีคม เพราะอาจลื่นหลุดลงคอ และติดในทางเดินอาหารหรือสำลักลงไปในหลอดลม ซึ่งอาจทำอันตรายถึงชีวิตได้ กรณีพบเด็กกลืนสิ่งแปลกปลอมเข้าในท้องนั้นจะพบเป็นเหรียญส่วนใหญ่ กรณีที่มีการกลืนเข็มหมุดนี้ถือว่าน้อยรายมาก อย่างไรก็ตาม การกลืนลูกชิ้นเองก็เคยพบจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเด็กอมไว้แล้วติดคอ ซึ่งมีกรณีเสียชีวิตมาแล้วเช่นกัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์