ปูดเบาะแสบึ้มโกลก คนมาเลย์ร่วมป่วน สมยศ ฟุ้งรู้ตัวชัด

ปูดเบาะแสบึ้มโกลก คนมาเลย์ร่วมป่วน สมยศ ฟุ้งรู้ตัวชัด

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุคนร้ายวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลกจ.นราธิวาส เมื่อช่วงคืนคาบเกี่ยวของวันที่ 10 และ 11 กรกฎาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 8 คนว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้า ที่มุ่งสู่จุดเกิดเหตุทั้ง 8 จุด เป็นการเพิ่มเติม พบว่ามีสมาชิกแนวร่วมที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีขาว เป็นผู้นำทางให้ชาวมาเลเซียขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีบรอนซ์ตามหลัง เพื่อนำระเบิดไปวางไว้ยังเป้าหมายต่างๆ ซึ่งคาดว่าชาวมาเลเซียคงไม่รู้จักที่ตั้งของเป้าหมายในการวางระเบิด ทั้งนี้ กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายทั้ง 2 คนได้ชัดเจน ตามเส้นทางที่มุ่งสู่โกดังขายส่ง ซึ่งตั้งอยู่ ถ.บายพาส ต.ปาเสมัส เป็นการวางระเบิดจุดที่ 8

ส่วนการติดตามแกะรอยกลุ่มคนร้ายนั้น นอกเหนือจากการสืบสวนในทางลับแล้ว ยังมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ทั้ง 2 คัน นอกจากนี้ บริเวณแนวพรมแดนตลอดริมแม่น้ำสุไหงโกลก มีเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดน มาปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชม. เพื่อคอยสอดส่องบุคคลต้องสงสัย ที่อาจจะแฝงตัวข้ามแดนจากเมืองรันตูปันหยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เข้ามายังฝั่งไทยที่อาจจะมีการลักลอบนำระเบิดมาก่อเหตุซ้ำ ขณะที่ตัวเลขความเสียหายในเหตุการณ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ประเมินว่ามีมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากรายงานที่ได้รับในขณะนี้ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุความไม่สงบในช่วงนี้แล้ว และสามารถที่จะออกหมายจับได้ ส่วนจะออกหมายจับกี่คนและเป็นกลุ่มไหนนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดถึงขนาดนั้น เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบดำเนินการอยู่แล้ว สำหรับภาพวงจรปิดมีการบันทึกภาพวัยรุ่นประเทศเพื่อนบ้านนำอาวุธหรือวัตถุลักษณะคล้ายระเบิดมาส่งมอบ มีความเชื่อมโยงกับคนสองสัญชาติหรือไม่นั้น ต้องรอให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐาน ยังไม่ทราบละเอียด อย่าด่วนสรุป อย่างไรก็ตาม จากสถิติเหตุการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่เกิดขึ้นในปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา พบว่าลดลงเกือบ 50 เปอร์เซ็น

มื่อเวลา 08.10 น. วันเดียวกัน เกิดเหตุ คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณ ม.2 บ้านมูหลง ต.ราตาปันยัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจาก ชป.ร้อย.ทพ.4208 ฉก.ทพ.42 ทำหน้าที่คุ้มครองคณะครูไปทำการสอน แรงระเบิดทำให้ อส.ทพ.ธีรวุฒิ พันเสน และ อส.ทพ.พงสร เรืองแก้ว ซึ่งเป็นผู้ขี่จักรยานยนต์นำขบวน ได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่ง รพ.ยะหริ่ง ในเวลาต่อมา ส่วนคณะครูเจ้าหน้าที่ทหารรายอื่น ไม่ได้รับบาดเจ็บ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์