ปูดมือยิงถล่ม“ขวัญชัย”เผ่นหนีกบดานที่ลาว

ตร.สืบสวนบช.ภ.4 เร่งหาพยานหลักฐานตามล่าตัวมือยิงถล่ม "ขวัญชัย" แกนนำเสื้อแดง คาดเผ่นหนีซุกตัวที่ลาวแล้ว

จากเหตุการณ์คนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนอาก้าบุกยิงถล่มสถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร บ้านหนองลีหูต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานีกระสุนถูกแขนและขาขวาของนายขวัญชัย สาราคำ หรือนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และประธานชมรมคนรักอีสาน แกนนำคนเสื้อแดงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจบช.ภ.4 ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจ 3 ชุด ออกไล่ลาคนร้าย และได้ตั้งประเด็นเรื่องการเมือง และเรื่องส่วนตัวตามที่เสนอข่าวมาโดยตลอดนั้น

ความคืบ หน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภ.4

ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจสืบสวนคดีคนร้ายยิงถล่มนายขวัญชัย ที่ห้องประชุม บก.สส.ภ.4 จ.ขอนแก่น โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกไปสืบสวนสอบสวนรายงานความคืบหน้าในคดีตั้งแต่ วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน และวางแผนและหาแนวทางติดตามตัวคนร้าย

พล.ต.ต. ชูรัตน์ กล่าวว่า ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นจะเดินทางไปที่ จ.อุดรธานี เพื่อตรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

เพื่อเป็นหลักฐานการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้าย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานอีกหลายอย่าง ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง เพราะเกรงว่าจะมีการทำลายพยานหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มอยู่ใน จ.อุดรธานี อยู่เป็นจำนวนมาก และมีการสับเปลี่ยนเวรยามโดยตลอด ทางเราก็จะไปเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติหน้าที่ให้มาพักผ่อน

อย่างไรก็ตาม มีสายแจ้งมาว่าขณะนี้คนร้ายได้หลบหนีข้ามไปทางสปป.ลาว ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ ตำรวจ บก.สส.ภ.4 จะได้ตรวจสอบหาข้อมูลให้ชัดเจนก่อน

อีกด้านหนึ่ง ที่โรงพยาบาลเอกอุดร จ.อุดรธานี บริเวณห้องพักวีไอพี ชั้น 7 ซึ่งเป็นห้องพักของนายขวัญชัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทั้งหน้าห้องและภายใน ห้องมากกว่า 10 นาย โดยนายขวัญชัย อยู่ในอาการสะลึมสะลือหลังได้รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง

ด้าน นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัย เปิดเผยว่า อาการของสามีดีขึ้นมากแล้ว

และล่าสุดได้นั่งรถเข็นออกไปนอกห้องพัก เนื่องจากอึดอัดพักรักษาตัวอยู่ในห้องพักมาหลายวัน ส่วนสาเหตุที่สามีโดนยิงคิดวาไม่น่าจะใช่เรื่องส่วนตัว น่าจะเป็นการเมืองมากกว่า แต่ก็อยู่ที่การสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินการไปถึงตัวคน ร้ายและผู้จ้างวานได้หรือไม่