ปิดคดีฆ่ารองผอ.ร.ร. รวบ 3 โจ๋นักฆ่า!?! อ้างรับงานหนุ่มคู่ขา

หลังพบศพเพียง 1 วัน ตำรวจเชียงใหม่ก็สามารถจับกุมคนร้ายที่ร่วมลงมือฆ่า นายบุญรัตน์ ณะพรหม รองผอ.โรงเรียนทาขุมเงินวิทยาคาร อ.แม่ทา จ.ลำพูน เอาไว้ได้สำเร็จ


ไม่น่าเชื่อว่าคดีนี้คนร้ายจะเป็นแก๊งโจ๋ที่มีอายุเพียง 15-16 ปีเท่านั้น แต่อาจหาญรับงานฆ่าคนอย่างเหี้ยมโหด แต่แล้วในที่สุดก็หนีไม่พ้นเงื้อมมือกฎหมาย ย้อนกลับไปดูปฐมบทเหตุสลดครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนค่ำวันที่ 30 ก.ย. มีคนพบรถเก๋งโตโยต้าของ นายบุญรัตน์ ถูกคนร้ายนำมาจอดทิ้งไว้ริมถนนภายในโครงการบิซิเนสพาร์ค หลังห้างคาร์ฟูร์ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมืองเชียงใหม่ ในสภาพมีคราบเลือดเต็มรถแต่ไม่พบเจ้าของ ทรัพย์สินหลายอย่างหายไป อาทิ บัตรเอทีเอ็ม เงินสด และของมีค่าอื่นๆ

เจ้าหน้าที่เสาะหาที่มาที่ไปของ นายบุญรัตน์ พบว่าก่อนหน้านี้ญาติได้แจ้งหายไว้ที่สภ.ต.ทากาศ อ.แม่ทา จ.ลำพูน ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา

หลังเจ้าตัวเดินทางไปร่วมงานศพคนรู้จักที่วัดกู่เหล็ก อ.เมืองลำพูน แล้วแวะไปหา นายสุขทวี สุขสวัสดิ์ อดีตครูหนุ่มที่คบหากันมานานที่จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นนายบุญรัตน์ก็หายไปอย่างลึกลับ!! ตำรวจสอบปากคำคนใกล้ชิด นายบุญรัตน์ ได้ความว่านายบุญรัตน์มีบุคลิกกระตุ้งกระติ้งชอบเพศเดียวกัน คบหาอยู่กับนายสุขทวี อดีตครูรับจ้างโรงเรียนเดียวกัน มีความสัมพันธ์ขั้นลึกซึ้ง ซึ่งในปัจจุบันนายสุขทวี ลาออกจากอาชีพครูมาเป็นไกด์อยู่ที่จ.เชียงใหม่

ดังนั้น นายสุขทวีน่าจะรู้เรื่องบ้างไม่มากก็น้อย

เพื่อความรวดเร็วในการติดตามหาตัวนายบุญรัตน์ผู้สาบสูญ พล.ต.ต.สุวัจน์ กรึงไกร รอง ผบช.ภาค 5 จึงลงมาควบคุมการทำงานด้วยตนเอง มอบหมายให้พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.อุดม พรหมสุรินทร์ รอง ผบก.กลุ่มงานสืบสวนภาค 5 พ.ต.อ.กฤษณพล ยี่สาคร ผกก.สภ.ต.แม่ปิง เชียงใหม่ และชุดสืบสวนสภ.ต.แม่ปิงช่วยค้นหา

อีก 2 วันถัดมาเจ้าหน้าที่ก็ได้รับแจ้งเหตุพบศพ นายบุญรัตน์ ถูกฆ่าทิ้งหมกป่าทึบ ริมแม่น้ำปิง


บ้านร้องขี้ควาย หมู่ที่ 3 ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ ในสภาพศพขึ้นอืด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน สภาพศพถูกแทงที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ นอกจากนี้ ยังโดนแทงที่ใบหน้า กลางหน้าอก ท้อง สีข้าง แขนขวาอีกหลายแห่ง ที่สำคัญ ในศพพบโทรศัพท์มือถือของผู้ตายอยู่ในกระเป๋าด้วย การพบหลักฐานสำคัญโทรศัพท์มือถือทำให้ตำรวจรู้ความเคลื่อนไหวของบุคคลที่ติดต่อกับนายบุญรัตน์ก่อนตาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ โทร.เข้ามาหานายบุญรัตน์หลายเบอร์ ซึ่ง 1 ในนั้นมีเบอร์โทร.ของนายสุขทวีรวมอยู่ด้วย

ดังนั้น นายสุขทวีจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้ติดต่อกับนายบุญรัตน์!!

ตำรวจนำตัวนายสุขทวีมาสอบปากคำ แต่เจ้าตัวยืนกรานไม่รู้เห็นอะไรทั้งนั้น แต่ยอมรับว่าก่อนเกิดเหตุนัดเจอกับนายบุญรัตน์ที่ร้านหมูกระทะแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อแนะนำเด็กหนุ่ม 2-3 คนให้นายบุญรัตน์รู้จัก และหลังจากนั้นก็ไม่ทราบข่าวนายบุญรัตน์อีกเลยจนกระทั่งพบศพ

เมื่อเจ้าหน้าที่พยายามติดตามเด็กหนุ่ม 2-3 คนที่นายสุขทวีอ้างถึง ปรากฏว่าไม่พบตัวตนแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่จึงหันเป้ามาที่นายสุขทวี ในฐานะผู้ต้องสงสัยหลอกลวงเจ้าหน้าที่ การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป ตำรวจพบหลักฐานใหม่จากกล้องวงจรปิดตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย สาขาตลาดรวมโชค อ.สันทราย ที่คนร้ายนำบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายไปกดเงิน ซึ่งภาพในกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายวัยโจ๋เอาไว้ได้อย่างชัดเจน โดยคนร้ายกดเงินไปทั้งหมด 4 ครั้งเป็นจำนวนเงิน 78,000 บาท

ตำรวจจึงนำภาพเก็บไว้ตรวจสอบ


ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์หมายเลขหนึ่งที่โทร.ติดต่อผู้ตายก่อนเป็นศพ พบว่าเป็นเบอร์ของหญิงสาวคนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาสอบปากคำ ปรากฏว่าหญิงสาวคนนั้นบอกไม่เคยรู้จักกับนายบุญรัตน์แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงนำภาพถ่ายคนร้ายที่ไปกดเอทีเอ็มมาให้ดู ทำให้ผู้หญิงคนนี้ถึงกับอึ้งตาค้าง เพราะเด็กหนุ่มในรูปคือนายซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกชายของผู้หญิงคนนั้นนั่นเอง

วันที่ 3 ต.ค. เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับกุมนายซี แล้วขยายผลจับกุมนายบี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี กับนายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เพื่อนร่วมแก๊ง พร้อมของกลางมีดปลายแหลมทำครัว 1 เล่ม เชือกไนลอน 1 เส้น แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ก 6705 ลำพูน 2 แผ่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และเงินสด 55,000 บาท

ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันฆ่านายบุญรัตน์ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.
 
อ้างว่าได้รับการว่าจ้างจากนายสุขทวี ด้วยเงิน 30,000 บาท จ่ายมัดจำไปแล้ว 5,000 บาท เหลืออีก 25,000 บาท จะจ่ายให้เมื่องานเสร็จ ลำดับเหตุการณ์เริ่มจาก นัดผู้ตายมากินหมูกระทะร้านซุ้มสบาย ถ.นิมมานเหมินท์ โดยผู้ตายแวะรับทั้ง 3 คนจากห้างโลตัส สาขาตลาดคำเที่ยง โดยมีนายเอกับนายบีนั่งไปด้วย ส่วนนายซีขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ต่อมานายเอบอกให้ผู้ตายไปรับเพื่อนอีก 1 คน ใกล้โรงเรียนพายัพเทคโนโลยี ผู้ตายจึงขับไปจนถึงทางแยกวงแหวนรอบที่ 3 ถนนไปอ.แม่ริม ได้ให้ผู้ตายจอดรถข้างทางที่มืด จากนั้นทั้งสองได้ใช้มีดที่เตรียมมาจี้บังคับเอากระเป๋าเงินของผู้ตายซึ่งมีเงิน 2,100 บาท และบังคับให้ผู้ตายข้ามไปนั่งเบาะหลังพร้อมกับนายเอ ส่วนนายบีมาขับรถแทน นายบีได้ขับพากันมาตามเส้นทางเชียงใหม่-แม่โจ้ ก่อนจอดรถที่หลังโรงเรียนพายัพเทคโน และใช้มีดจี้ผู้ตายให้มอบบัตรเอทีเอ็มพร้อมบอกรหัส

หลังจากนั้นนายซีจึงขับมอเตอร์ไซค์ไปกดเอทีเอ็มทันที

ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองยังคงจอดรถรออยู่ที่เดิม กระทั่งโทรศัพท์ติดต่อกับนายซี ว่าสามารถกดเงินได้แล้วจำนวน 78,000 บาท ผู้ต้องหาทั้งสองจึงใช้มีดแทงผู้ตายบริเวณเบาะหลัง จนถึงแก่ความตาย ส่วนนายซีหลังจากกดเงินได้แล้ว ขี่รถจักรยานยนต์มารออยู่หลังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองหลังจากสังหารผู้ตายเสร็จแล้ว ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวนำศพผู้ตายมาทิ้งบริเวณที่เปลี่ยวริมแม่น้ำปิงซึ่งเป็นท่าทราย ใกล้กับร้านอาหารบ้านสวนสันผีเสื้อ ก่อนจะขับรถไปจอดไว้ที่หลังห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ แล้วถอดป้ายทะเบียนออก จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสามพากันไปแบ่งเงินที่บ้านนายซี

คดีนี้ผู้ต้องหาให้การพาดพิงถึงนายสุขทวี

ดังนั้น ในวันที่ 4 ต.ค. ตำรวจจึงนำหมายศาลเข้าจับกุมนายสุขทวี ในข้อหาจ้างวานฆ่านายบุญรัตน์ ซึ่งในชั้นนี้นายสุขทวียังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ตำรวจก็มั่นใจในพยานหลักฐานที่ได้มาจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่กระบวนการยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสิน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์