ปล้น22ล้านยิงตำรวจเจ็บรถขนเงินแซมโก้ล่า3โจรหัวเกรียน

สามโจรหัวเกรียนซิ่งเก๋งปล้นรถขนเงินแซมโก้ย่านลาดกระบัง ชักปืนจ่อหัว พนง. กวาดเงินสดกว่า 22 ล้านเผ่นหนี ตำรวจสกัดจับ เจอยิงสวนเจ็บ 1 เตรียมเรียกพยานสเก็ตช์ภาพตามล่าตัว

นครบาลล้อมคอกสั่งคุมเข้มร้านทอง-แบงก์ตลอด 24 ชม. เหตุอุกอาจคนร้ายปล้นรถขนเงินแล้วยิงตำรวจได้รับบาดเจ็บครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ภวัต น้อมกลาง สารวัตรเวร สน.จรเข้น้อย รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นรถขนเงิน ที่หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ถนนฉลองกรุง แขวงและเขตลาดกระบัง กทม. และมีตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 นาย 

หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.3 และ พ.ต.อ.คงกฤช บัวบาน ผกก.สน.จรเข้น้อย และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน  ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนใหญ่ด้านหน้าสถาบันดังกล่าวพบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีขาว ทะเบียน วต 9036 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท สยามแอดมินนิสเทรทีฟ แมแนจเม้นท์ จำกัด (แซมโก้) รหัส ซี 92 เป็นรถกระบะ 4 ประตู ถูกดัดแปลงเป็นรถขนเงิน มีหลังคาทึบ ด้านหลังมีกุญแจล็อกอย่างแน่นหนา จอดอยู่ในสภาพมีรอยถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ประตูด้านข้างคนขับ 1 รู บนพื้นพบหัวกระสุนปืนตกอยู่ 2 หัว 

โดยมี นายวินัย เพชรวารี อายุ 48 ปี และนายมานพ มูลดี อายุ 26 ปี พนักงานของบริษัทแซมโก้ ยืนรอให้การด้วยสีหน้าตื่นตกใจ  นายมานพให้การว่า ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ตนกับนายวินัยได้ขับรถจากธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน 

เพื่อนำเงินไปใส่ตู้เอทีเอ็มและรับเงินฝากจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 23 จุด กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นจุดที่ 14 ได้จอดรถไว้ข้างถนนใหญ่หน้าสถาบันดังกล่าว เพราะธนาคารอยู่ลึกเข้าไปในรั้วสถาบันประมาณ 4 เมตร ไม่สามารถนำรถเข้าไปจอดด้านในได้ จึงจอดไว้ในที่เกิดเหตุ หลังจากเห็นว่าเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด เพราะทุกครั้งก่อนจอดรถจะต้องพิจารณาว่าปลอดภัยหรือไม่ อย่างไร 

นายมานพกล่าวอีกว่า เมื่อจอดรถเสร็จก็หยิบกุญแจไปไขตู้เก็บเงิน ซึ่งปกติตู้ด้านหลังจะล็อกด้วยกุญแจ 2 ชั้น ต้องใช้กุญแจ 2 ดอกที่อยู่กับตนและนายวินัยไขพร้อมกันจึงจะเปิดออกได้ ขณะยืนไขประตูจนเปิดออกแล้ว ปรากฏว่ามีคนร้ายเป็นชาย 2 คนวิ่งมาทางด้านหลัง และมีคนร้ายอีก 1 คน ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษจ 1764 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดประกบ จากนั้นคนร้ายที่ถืออาวุธปืน ลักษณะผมเกรียน ใส่เสื้อยีน นุ่งกางเกงยีน ก็ใช้ปืนจี้ศีรษะบังคับให้พวกตนนอนหมอบลงกับพื้น ระหว่างนั้นคนร้ายได้ช่วยกันหยิบถุงเงินโยนใส่รถเก๋งที่จอดประกบด้านข้าง ซึ่งตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่า ถุงใส่เงินหายไป 8 ใบ บรรจุเงินจำนวน 22.8 ล้านบาท แล้วพากันวิ่งขึ้นรถขับหลบหนีไป 

แต่ขณะที่รถกำลังจะเคลื่อนตัวออกไป ตำรวจที่ประจำจุดในธนาคารก็วิ่งออกมาใช้ปืนยิงใส่รถคนร้าย 3 นัด แต่คนร้ายยังสามารถขับรถหลบหนีไปได้
 

ด้านด.ต.เด่นชัย อินนอก ตำรวจจราจร สน.จรเข้น้อย ซึ่งประจำจุดภายในธนาคารดังกล่าว กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีนักศึกษาวิ่งเข้ามาในธนาคาร พร้อมส่งเสียงโวยวายว่ามีการปล้นรถขนเงิน จึงวิ่งออกไปดู เห็นพนักงานที่มากับรถขนเงินนอนหมอบลงกับพื้น และรถของคนร้ายกำลังจะขับออกไป จึงตัดสินใจยิงปืนใส่รถคนร้าย โดยเชื่อว่าจะต้องถูกรถคนร้ายแน่นอน แต่กระสุนอีกนัดพลาดไปถูกประตูรถขนเงิน จากนั้นก็รีบวิทยุประสานให้ตำรวจที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงสกัดจับ ไม่ถึงอึดใจก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 3 นัด ห่างออกไปราว 500 เมตร 

ทราบภายหลังว่ามีตำรวจที่อยู่บริเวณตึกทางรถไฟแยก สำนักงานเขตลาดกระบัง เข้าสกัดจับคนร้าย แต่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ ส.ต.อ.อรัญ แดงอำพล อายุ 33 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.จรเข้น้อย ถูกยิง 2 นัดเข้าที่หัวเข่าด้านขวาและเฉี่ยวลำคอด้านซ้าย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลลาดกระบัง   ส.ต.อ.อรัญภายหลังรักษาบาดแผลเบื้องต้นก็เดินทางมาที่ธนาคารเพื่อรายงานเหตุต่อผู้บังคับบัญชา ว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณสถานีรถไฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ก็ได้ยินเสียงวิทยุให้ช่วยสกัดจับคนร้าย จึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไปดักรอรถของคนร้ายบนถนนดังกล่าว กระทั่งพบรถคนร้ายจึงจอดรถเตรียมสกัดจับ แต่คนร้ายที่นั่งอยู่เบาะหลังด้านซ้ายได้ลดกระจกลงแล้วยิงปืนใส่ทันที 3 นัด ตอนนั้นพยายามชักปืนยิงสวน แต่ไม่ทัน ถูกกระสุนปืนเฉี่ยวที่ลำคอด้านซ้าย 1 นัด และหัวเข่าขวาอีก 1 นัด ส่วนคนร้ายขับรถหลบหนีไปทางถนนฉลองกรุงมุ่งหน้าไปแยกร่มเกล้า 

นายอนุสรณ์อินใจดี อายุ 22 ปี คนขับรถสองแถวภายในสถาบันดังกล่าว ให้การว่า ขณะขับรถผ่านมา เห็นรถคนร้ายจอดประกบคู่กับรถขนเงิน โดยมีคนร้าย 3 คนยืนอยู่ริมถนน 

คนถือปืนสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีกากี ตัดผมรองทรง ถือปืนส่ายไปมา ส่วนอีก 2 คนกำลังช่วยกันขนกระเป๋าใส่รถ ซึ่งใช้เวลาไม่นาน จากนั้นคนร้ายที่ถือปืนก็วิ่งขึ้นไปนั่งเบาะคนขับแล้วขับรถออกไป ตนเห็นเหตุการณ์จึงรีบไล่ผู้โดยสารลงจากรถแล้วขับตามไป แต่เมื่อถึงจุดที่คนร้ายยิงกับตำรวจก็ไม่กล้าขับตามไปอีกเพราะกลัวถูกคนร้ายยิง  พล.ต.ท.อัศวินกล่าวภายหลังสอบปากคำพนักงานรถขนเงิน พยานที่เห็นเหตุการณ์ และตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ ว่า คาดว่าคนร้ายมีอย่างน้อย 3 คน ลงมาก่อเหตุ 2 คน ส่วนอีกคนอยู่ในรถ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้ว่าจะมีการนำเงินมาส่งให้ธนาคารสาขาดังกล่าวจึงขับรถมาจอด เพราะมีพยานเห็นรถของคนร้ายขับป้วนเปี้ยนก่อนที่รถขนเงินจะขับเข้ามาจอด ทั้งนี้ จะต้องสอบผู้เกี่ยวข้องว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่

"ผบ.ตร.ได้สั่งให้ประสานข้อมูลไปยังตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ฝั่งตะวันออกให้ช่วยสกัดจับคนร้าย โดยเฉพาะทาง จ.ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี และสมุทรปราการ เพราะคาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีไปตามเส้นทางนี้ 

รวมทั้งยังต้องตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของสถาบัน รวมถึงบริเวณสถานีรถไฟจุดที่คนร้ายปะทะกับตำรวจ" พล.ต.ท.อัศวิน กล่าว  พ.ต.อ.คมกฤชกล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบทะเบียนรถของคนร้าย พบว่าเป็นทะเบียนของรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำทะเบียนรถคันดังกล่าวมาสวมแทน ซึ่งจะตรวจสอบว่าใครเป็นเจ้าของรถ สำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุ พบว่าคนร้ายที่ลงจากรถคนแรก เป็นชายอายุราว 30 ปี ตัดผมสั้น รูปร่างสูงใหญ่ประมาณ 170 เซนติเมตร
 

พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ปิงเมือง รอง ผบก.น.2 ในฐานะรองโฆษกบช.น. กล่าวว่า พล.ต.ท.อัศวินได้สั่งการให้ศูนย์สืบสวน บช.น., กก.สส.น.3 และเจ้าหน้าที่สืบสวนสน.ลาดกระบังร่วมกันสืบสวนแกะรอยกลุ่มคนร้าย โดยเบื้องต้นสั่งให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุอย่างละเอียด รวมทั้งสอบปากคำคนขับรถ พนักงานที่เดินทางไปกับรถ พนักงานธนาคาร และพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ เพื่อสเก็ตช์ภาพคนร้าย ส่วนตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ผบช.น.ได้สั่งปูนบำเหน็จอย่างเต็มที่เนื่องจากได้รับบาดเจ็บในขณะปฏิบัติหน้าที่ 

โฆษกบช.น. กล่าวอีกว่า ในส่วนของมาตรการดูแล พล.ต.ท.อัศวินได้สั่งการไปยังที่ตำรวจทั้ง 88 สน. ให้สั่งการเจ้าหน้าที่สายตรวจและสายปราบปรามเร่งออกตรวจตราธนาคาร ร้านทอง ปั๊มน้ำมัน ตลอด 24 ชั่วโมง 

นอกจากนี้ยังให้ตั้งด่านตรวจค้น เนื่องจากใกล้เทศกาลปีใหม่ ซึ่งคนร้ายอาจลงมือก่อเหตุเพื่อหาเงินเที่ยว เจ้าหน้าที่จึงใช้เป็นแนวปฏิบัติเช่นทุกปี อีกทั้งยังเข้าใกล้ช่วงเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พร้อมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ยังคงประชุมกันอย่างเคร่งเครียด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ซึ่งฝ่ายสืบสวนได้เรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำ จนสเก็ตช์ภาพคนร้ายได้แล้ว 1 คน
 

พล.ต.ต.อำนวยนิ่มมะโน ผบก.น.3 กล่าวว่า สเก็ตช์ภาพ 1 ใน 3 คนร้ายได้แล้ว เป็นชายอายุระหว่าง 35-45 ปี สูงประมาณ 175 ซม. ไว้ผมรองทรงสั้น ผิวดำแดง ซึ่งเป็นคนขับรถพาพวกมาปล้น และเป็นหนึ่งในคนร้ายที่ใช้ปืนยิงใส่ตำรวจขณะสกัดจับ เบื้องต้นจะนำภาพสเก็ตช์ไปเปรียบเทียบประวัติอาชญากรว่าตรงกับคนร้ายที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมมาก่อนหรือไม่ ทั้งจะนำภาพสเก็ตช์ไปเทียบกับเหตุการณ์ปล้นรถขนเงินที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในท้องที่ สน.หัวหมาก ล่าสุด ได้ส่งภาพสเก็ตช์ให้ฝ่ายสืบสวน ทั้งเขตนครบาลและปริมณฑล รวมถึงด่าน ตม.ต่างๆ ติดตามจับกุมคนร้ายแล้ว