ปริศนาฆาตกรรม ไอ้แบงก์โจ๋ทมิฬ มือฆ่า3ตร.อยุธยา ล้างแค้นหรือตัดตอน

"ผมเชื่อว่ากลุ่มนายแบงก์อาจจะถูกมือปืนในจังหวัดภาคกลางที่เคยไปอาศัยหลบหนี ลวงมายิงเสียชีวิตทั้ง 3 รายเป็นการตัดตอน เพราะกลัวว่าหากโดนตำรวจจับแล้วอาจเปิดปากซัดทอดถึง"!??

พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภาค 1 กล่าวภายหลังมาดูจุดเกิดเหตุฆาตกรรมปริศนา

"นายอัครพล หรือแบงก์ สำเภา
อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฆ่าตำรวจสภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ถึง 3 ศพ

นายอัครพล ถูกพบเป็นศพพร้อมกับพวกรวม 3 ราย

เมื่อกลางดึกวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา หลังหนีหัวซุกหัวซุนไปหลายจังหวัด เนื่องจากถูกตำรวจทั่วประเทศระดมตามล่าอยู่นานกว่า 1 สัปดาห์เบาะแสล่าสุดคือวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านเช่าหลังหนึ่งในจ.เพชรบูรณ์ หลังได้รับแจ้งจากสายว่าพบนายอัครพล กับพวกมากบดานอยู่

นายตำรวจใหญ่ระบุว่า

คนร้ายไหวตัวทัน หลบหนีไปได้และอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมานายอัครพล ก็ถูกยิงตายปริศนาในอ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา !??ท่ามกลางความกังขาของญาติพี่น้อง ที่อ้างว่านายอัครพล ติดต่อขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่แล้วขณะที่กระแสอ้างว่านายอัครพล กับพวกถูกรวบตัวได้ตั้งแต่อยู่จ.เพชรบูรณ์!??ทั้ง 2 คำกล่าวอ้างดังกล่าว นายตำรวจระดับสูงออกมาปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่าไม่มีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตายจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัดตอนหรือปิดปากจากพรรคพวก ที่ร่วมกันก่อเหตุและเกรงว่าหากนายอัครพล ถูกจับจะซัดทอดนั่นเอง!??

หลังเหตุนองเลือดในงานปีใหม่ที่บ้านนางวันดี แสงศรี อายุ 55 ปี ป้านายอัครพล เลขที่ 24/3 ม.5 ต.บ้านขยาย อ.บางปะหัน

ซึ่งนายอัครพล และนายมงคล หรือหมง ยาตาล อายุ 19 ปี เพื่อนร่วมแก๊งก่อเหตุยิงจ.ส.ต.ปรีดา จ้อยจุฑา อายุ 30 ปี พร้อมด้วยด.ต.โกสินทร์ มั่นพรหม, ส.ต.ต.ศิลา แหวนเงิน อายุ 27 ปี ฝ่ายสืบสวนสภ.พระนครศรีอยุธยา เสียชีวิตเป็นการตายระหว่างถือหมายจับเข้าไปตามหานายอัครพล ตามที่สายรายงานว่าย้อนกลับมาฉลองปีใหม่กับญาติๆ

นายอัครพล เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหลายคดี

ทั้งปล้น ข่มขืน และพยายามฆ่า สามารถหลบหนีคดีมานานกว่า 2 ปี ในขณะที่พี่ชายคือนายปฎิพัทธ์ สำเภา อายุ 25 ปี ซึ่งร่วมก่อเหตุมาด้วยกัน ถูกจับกุมได้และศาลตัดสินลงโทษจำคุก 33 ปี

ตำรวจทั้ง 3 นายเข้าไปเพื่อจับกุม แต่ต้องเจอการตอบโต้ที่เกรี้ยวกราดเมื่อฆาตกรโจ๋ กับพวกใช้อาวุธปืนระดมยิงใส่ ขณะที่ตำรวจแทบไม่มีโอกาสต่อสู้ พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 นำกำลังเดินทางมาตรวจสอบ แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากญาติฆาตกรโหดรายนี้ "คนร้ายนั่งปะปนอยู่กับประชาชนอีก 4-5 คน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่กล้าตัดสินใจที่จะใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ ทำให้เสียเปรียบถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ตอนนี้กำชับเจ้าหน้าที่ไล่ล่าคนร้ายให้ระมัดระวัง เพราะเชื่อว่าคนร้ายคงไม่ยอมให้จับกุมง่ายๆ"ผบช.ภาค 1 กล่าวเสียงเครียด

ตำรวจระดมกำลังหลายร้อยนายจากหลายท้องที่ออกติดตามไล่ล่า

แต่ก็ไม่มีวี่แวว จึงออกหมายจับพร้อมส่งภาพไปทั่วประเทศ และตั้งรางวัลค่าหัวสูงถึง 5 แสนบาท !!!ตำรวจเช็กประวัตินายอัครพล พบว่าไอ้หมอนี่ไม่ธรรมดาก่อคดีมาอย่างโชกโชน ทั้งปล้น ฆ่า ข่มขืน มีความสามารถใช้อาวุธปืนได้หลายชนิด จิตใจโหดเหี้ยม

นอกจากนี้ยังอยู่ในข่ายต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีฆ่าพ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สถิตพานิชการ สวป.สภ.บางบาล ช่วยราชการสภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา

ซึ่งถูกยิงตายคาถ.สายเอเซีย ต.หันตรา หน้าเรือนจำพระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกวันที่ 10 สิงหาคม 2549 ระหว่างขับรถเก๋งกลับจากตั้งด่านตรวจ!??ครานั้นตำรวจตั้งไว้หลายประเด็น รวมไปถึงปมพบกับผู้ต้องสงสัยจึงจอดรถเข้าไปแสดงตัวขอตรวจค้น จึงถูกยิงเสียชีวิตที่ตำรวจสงสัยว่านายอัครพล จะเกี่ยวกับคดีฆ่าสวป.สภ.อุทัย เนื่องจากบริเวณเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่หากินของนายอัครพล จากคดีเก่าๆ พบว่าเคยก่อเหตุในละแวกนั้นหลายครั้ง!??นอกจากตำรวจภาค 1 และพระนครศรีอยุธยา จะตั้งทีมพิเศษระดมมือปราบออกตามล่าแล้ว กองปราบปรามก็ได้รับคำสั่งให้เข้ามาร่วมทำคดีนี้ด้วยพร้อมคำกำชับว่าให้ระมัดระวัง และให้จัดการขั้นเด็ดขาดได้ทันทีหากคนร้ายแสดงท่าทีขัดขืนหรือพยายามต่อสู้!!!ตำรวจยังออกตามเบาะแสบ้านญาติและแฟนสาวของนายอัครพล แต่ตำรวจยังตามไม่พบร่องรอย

กระทั่งวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.ภ.อุดรธานี ประสานมายังตำรวจพระนครศรีอยุธยา ว่าพบเบาะแสนายอัครพล มาอยู่ในพื้นที่!??โดยมีพยานเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และคนขับรถปิกอัพระบุว่าพบนายอัครพล กับพวกมาว่าจ้างให้ไปส่งที่อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา!??

พยานระบุว่า

วันเกิดเหตุนายอัครพล กับเพื่อนอีกคนว่าจ้างรถจากสถานีขนส่งมาลงที่ตลาดรังสินา ในตัวเมือง แล้วสอบถามหารถที่จะต่อไปอ.ศรีเชียงใหม่ จึงแนะนำให้ไปสอบถามพยานอีกคนที่เป็นคนขับรถปิกอัพรับจ้าง ซึ่งจะเดินทางไปส่งผู้โดยสารที่จ.หนองคาย จึงขอติดรถไปด้วย กระทั่งเห็นข่าวและภาพผู้ต้องหาก็จำได้ทันที เนื่องจากนั่งอยู่ด้วยกันนานหลายชั่วโมงระหว่างเดินทาง จึงรีบแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เจ้าหน้าที่จึงแจ้งไปยังบช.ภาค 4 และชุดสืบสวนตำรวจภาค 4 จัดทีมออกร่วมไล่ล่าคนร้าย พร้อมประสานกับตำรวจหนองคาย เพื่อหาเบาะแส

ขณะเดียวกันตำรวจก็ได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านเช่าในจ.เพชรบูรณ์

ว่าพบผู้ต้องสงสัยจะเป็นนายอัครพล มาขอเช่าห้องพักอยู่กับเพื่อนอีกคนแต่เมื่อตำรวจไปตรวจสอบพบว่าผู้ต้องสงสัยหายตัวไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงข้าวของเครื่องใช้บางส่วนเท่านั้นอย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่านายอัครพล กับพวกถูกตำรวจจับกุมได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่ไม่เป็นที่ยืนยัน!??

แล้วจู่ๆ ตำรวจก็เจอกับนายอัครพล อย่างไม่คาดฝัน

แต่เป็นการเจอเพียงศพที่ถูกยิงทิ้งพร้อมกับพวกรวม 3 ราย ริมถนนลูกรังเลียบคันคลองชลประทาน ม.1 ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ราวตี 4 วันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา ตำรวจน้อยใหญ่นำโดยพล.ต.ท.รชต, พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภาค 1 พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส, พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และพ.ต.อ.สุเมธ ธชเสนีย์ ผกก.สภ.อุทัย เดินทางไปยังจุดที่ได้รับแจ้งเหตุพบศพถูกฆ่า 3 รายซ้อน

เมื่อไปถึงพบว่าหนึ่งในนั่นคือนายอัครพล หรือแบงก์ ที่ตำรวจกำลังตามล่าอยู่!!!

ส่วนอีก 2 ศพที่นอนเรียงอยู่ใกล้ๆ กัน

ประกอบด้วยนายมงคล หรือหมง เพื่อนที่ร่วมก่อเหตุฆ่า 3 ตำรวจ และนายนคร แคว่นเขตกัน อาสาสมัครกู้ภัยพุทไธศวรรย์จุดบางปะหัน ซึ่งเป็นผู้ช่วยเหลือพานายอัครพล และพวกหลบหนีตำรวจ ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ 2 คันล้มคว่ำอยู่ ทั้ง 3 ศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าใบหน้าและลำตัว โดยนายอัครพล และนายมงคล ยังมีปืนพกเหน็บอยู่ที่เอวคนละกระบอกลักษณะที่เกิดเหตุเหมือนกับทั้ง 3 คนขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน แล้วโดนมือปืนที่ดักรออยู่ซุ่มยิงจนรถล้มแล้วออกมาซ้ำจนเสียชีวิตคาที่!!!

ทันทีที่เกิดเรื่องขึ้นพล.ต.ท.รชต รีบออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือตำรวจ

 เพราะไม่ทราบด้วยซ้ำว่านายอัครพล ย้อนกลับมาในพื้นที่ เนื่องจากเบาะแสล่าสุดพบว่ากบดานอยู่จ.เพชรบูรณ์"ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้อุ้มมายิงทิ้ง นอกจากนี้ยังได้สอบถามไปยังบช.ภาค 6 ได้รับการยืนยันจากรองผบช.ภาค 6 ว่าไม่มีตำรวจควบคุมตัวกลุ่มนายแบงก์ ขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีตำรวจชุดไหนจับกุมตัวมาแน่นอน คดีนี้ไม่ใช่การวิสามัญฆาตกรรม น่าจะเป็นคนร้ายติดตามมายิงทิ้งกันเอง"พล.ต.ท.รชต กล่าว

ขณะที่นางรัตนา สำเภา อายุ 43 ปี แม่และนางพัฒนา เดชา เมียของนายอัครพล ออกมาระบุอย่างสงสัย

โดยอ้างว่านายอัครพล ติดต่อยืนยันว่าจะเข้ามอบตัวในเร็วๆ นี้ และประสานกับตำรวจนายหนึ่งไว้แล้ว มีการนัดพบกับที่จ.ลพบุรี ในช่วงเย็นวันที่ 9 มกราคม แต่แล้วจู่ๆ นายอัครพล ก็ถูกฆ่าตาย การตายของนายอัครพลกับพวก แม้ทางหนึ่งจะน่าสงสัยว่าเป็นฝีมือของใคร หรือสาเหตุมาจากเรื่องอะไร !??แต่แน่นอนว่าเป้าหนึ่งย่อมเป็นตำรวจ เพราะมีกรณีพิพาทอย่างรุนแรงกันอยู่การตายแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของนายอัครพล ยังความสงสัยอย่างยิ่งว่าเป็นการฆ่าตัดตอนอย่างที่ตำรวจพยายามบอก หรือเป็นการ"ล้างแค้น"กันแน่ !??ทว่าด้วยประวัติและผลงานอันโหดเหี้ยมที่ผ่านมา ทั้งปล้น ฆ่า ข่มขืน และยิงตำรวจตายอีก 3 ศพ ทำให้ความเห็นใจในชะตากรรมมีน้อยยิ่งกว่าน้อย โดยรวมแล้วสังคมส่วนใหญ่ติดใจสงสัย และไม่เห็นด้วยกับวิธีการแบบ"ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"เช่นนี้

แต่ส่วนหนึ่งก็อดอนุโมทนาสาธุไม่ได้!??

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์