ประกบยิง เซียนไก่ชน 2 ศพคาเก๋ง

เหยื่อเป็นอดีต ผญบ.กลับจากเล่นในบ่อน เพื่อนอีกคนรอดตาย ตั้งปมอริฆ่า-ชิงทรัพย์ยิงถล่มเละคารถเก๋ง 2 ศพ ฆ่าอดีตผู้ใหญ่บ้าน และเซียนพนันไก่ชนเมืองกรุงเก่าตายสยองพร้อมคนสนิท มือปืนใจเย็นเดินมาปลดสร้อยทอง 2 เส้น หนัก 20 บาท เงินสดอีก 3 แสน ของเหยื่อ รวมมูลค่ากว่าครึ่งล้านหลบหนีไป ส่วนพรรคพวกผู้ตายอีกคนที่ติดสอยห้อยตามไปด้วยนอนหมอบซุกเบาะหลังคนขับเลยรอด คมกระสุนหวุดหวิด

เผยก่อนเกิดเหตุผู้ตายไปเล่นพนันชนไก่ที่หนองแค โดยพกเงินไปเพียบ แต่เล่นเสียแค่ 8 พัน และไม่มีเรื่องกับใคร พอบ่อนปิดจึงนั่งรถกลับบ้านก่อนมาถึงจุดจบ ตำรวจมุ่งปมสังหาร 2 ประเด็น ฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ และคู่อริในบ่อนไก่ตามมาแก้แค้นแล้วฉกทรัพย์สินอำพรางคดี

เมื่อเวลา 01.40 น. วันที่ 7 ส.ค. พ.ต.ท.ณรงค์ อร่ามพงษ์ สารวัตรเวร สภ.อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตาย บนถนนสายอุทัย-หนองตาโล่ หมู่ 9 ต.หนองไม้ซุง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ. อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผกก. พ.ต.ต.กิตติศักดิ์ สถิตย์พานิชย์ สวป. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ในที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนนซึ่งเป็นเส้นทางเปลี่ยว

ไม่มีไฟฟ้าส่องทาง สองข้างทางมีแต่ต้นไม้และคันคลอง พบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีแดง ทะเบียน 2อ-4715 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพเครื่องยนต์ยังไม่ดับ ตัวรถถูกยิงด้วยปืนขนาด 11 มม. เข้าที่กระจกหน้า 1 นัด กระจกข้างขวา 2 นัด รวมทั้งประตูรถด้านขวาอีก 2 นัด จนกระจกแตกกระจายเกลื่อนถนน บนพื้นถนนมีปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. ตกอยู่ 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ในเบาะนั่งคนขับพบศพนายเสนาะ ภาคสมบูรณ์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 969/76 หมู่ 7 ต.บางปูใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่ใต้คางและแก้ม รวม 2 นัด ดับอนาถคาพวงมาลัย ส่วนที่เบาะนั่งข้างคนขับมีร่างนายสนอง จำแนกมิตร อายุ 64 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.ธนู อ.อุทัย

ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่เบ้าตาซ้าย 1 นัด หน้าอกขวา 1 นัด และแขนขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ.ราชธานี นอกจากนี้ที่เบาะนั่งด้านหลังยังพบนายณรงค์ สุนทรพฤกษ์ อายุ 42 ปี บ้านอยู่ 14/ 1 หมู่ 8 ต.คานหาม อ.อุทัย นอนหมอบหลบกระสุนปืนอยู่ที่เบาะด้านหลังคนขับในอาการตัวสั่นงันงก

สอบสวนนายณรงค์ที่รอดคมกระสุนแบบ หวุดหวิด ให้การว่าตนมีอาชีพทำนาและเป็นคนสนิทคุ้นเคยกับนายสนองผู้ตายซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านและเซียนพนันไก่ชน โดยช่วงเช้าวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา นายสนองได้ชวนนายเสนาะคนขับไปชนไก่ที่บ่อนใน อ.หนองแค จ.สระบุรี ตนจึงขอติดรถไปด้วยเพราะไม่เคยเห็นบรรยากาศในบ่อนไก่ ปรากฏว่าบ่อนไก่ชนดังกล่าวมีนักพนันจำนวนมาก ระหว่างเล่นพนันชนไก่อยู่นั้น นายสนองมีทั้งได้และเสียเป็นช่วง ๆ แต่สุดท้ายก็เสียเงินไปกว่า 8,000 บาท และไม่ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร

จนกระทั่งบ่อนปิด จึงขับรถกลับบ้านมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถปิกอัพสีแดง ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนวิ่งตามหลังมา จากนั้นก็เร่งแซงขึ้นทางด้านขวาอย่างรวดเร็ว แล้วเปิดฉากยิงเข้าที่กระจกหน้าและกระจกข้างคนขับ กระสุนถูกนายเสนาะและนายสนอง ทำให้รถขาดการควบคุมและจอดนิ่งอยู่กลางถนน แล้วมือปืนสองคนก็วิ่งลงจากรถมาจ่อยิงใส่ผู้ตายอีกคนละ 2 นัด

และเปิดประตูรถปลดสร้อยคอทองคำของนายเสนาะและนายสนอง เส้นละประมาณ 10 บาท รวมทั้งเงินสดที่นายสนองพกไปเล่นพนันไก่ชนอีกประมาณ 3 แสนบาท ก่อนวิ่งไปขึ้นรถขับหลบหนีไป ส่วนตนหลบซุกตัวอยู่ที่ด้านหลัง เบาะนายสนอง ทำให้คนร้ายมองไม่เห็น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การของนายณรงค์มากนัก จึงคุมตัวไปสอบสวนที่โรงพักอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้านนางสมบัติ จำแนกมิตร อายุ 45 ปี ภรรยานายเสนาะ เปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่านายสนองเป็นเหมือนพ่อบุญธรรม หลังเกษียณ จากผู้ใหญ่บ้านแล้ว จะใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเล่นไก่ชน มักจะเดินทางไปตามสนามชนไก่ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และมีเงินติดตัวไปจำนวนมาก ผู้ตายอาจเป็นคนโผงผางพูดเสียงดัง แต่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่ากลุ่มคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน และเป็นมืออาชีพ ที่ยิงแบบหวังผลได้แม่นยำ

กระสุนถูกจุดสำคัญ เป็นไปได้ว่ามือปืนสะกดรอยตามเหยื่อมาจากบ่อนไก่ที่หนองแค เพราะรู้ว่าคนตายมีทรัพย์สินติดตัวเยอะ จึงตามประกบยิงเสียชีวิต อย่างไรก็ตามไม่ตัดทิ้งประเด็นความขัดแย้งเรื่องพนันชนไก่ ซึ่งคู่อริอาจโกรธแค้นผู้ตายจึงขับรถไล่ตามมายิงถล่มแล้วปลดทรัพย์สินเพื่ออำพรางคดี.

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์