ปมกิ๊กชนวนฆ่า เผาโหดเสี่ยคาวอลโว่

กรณีตำรวจ สภ.อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบศพนายปริญญา พัฒนชีวกลบุตร อายุ 36 ปี

วิศวกรเจ้าของบริษัทออริจิเทค คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด

รับออกแบบวางระบบบำบัดน้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรม ถูกฆ่ายัดใส่ท้ายรถเก๋งวอลโว่ รุ่น 960 จีแอล ทะเบียน ฉท 2033 กรุงเทพมหานคร ก่อนจุดไฟเผาทำลายจนวอดทั้งรถทั้งศพ

เหตุเกิดริมถนนเลียบคลองประชา

หมู่ 6 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง เมื่อเวลา 03.00 น. คืนวันที่ 3 เม.ย. เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากเรื่องโกรธแค้นส่วนตัวหรือปมขัดแย้งทางธุรกิจนั้น

ในส่วนความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.00 น.

วันที่ 3 เม.ย. พ.ต.อ.วิวัฒน์ วรรธนะวิบูลย์ รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.1 เดินทางมาที่ สภ.อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เรียกประชุมชุดสืบสวนของ บช.ภ.1 และของ สภ.อ.บางบัวทอง

เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของคดี

โดยมี พ.ต.อ.สถิตย์ ต้นสงวน รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี เข้าร่วมประชุมด้วยนานกว่า 1 ชม. โดยที่ประชุมมอบหมายให้ พ.ต.ท.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผกก.ศสส.ภ.1

ตรวจสอบประวัติของผู้ตายและบุคคล

ใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย ส่วน พ.ต.ต.ปรีชา นิสัยสม สว.สส.สภ.อ.บางบัวทอง หาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจของผู้ตายและปมขัดแย้งเรื่องส่วนตัว และ พ.ต.ท.ชยานนท์ มีสติ รอง ผกก.ศสส.บก.ภ.จ.นนทบุรี

รับผิดชอบหาข้อมูลเกี่ยวกับญาติ

ผู้ตายและพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ โดยตั้งประเด็นการสังหารไว้ 3 ประเด็น คือเรื่องขัดแย้งทางธุรกิจ เรื่องโกรธแค้นส่วนตัวและเรื่องชู้สาว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ทาง พ.ต.ต.ปรีชา นิสัยสม สว.สส.สภ.อ.บางบัวทอง เชิญตัวนายพิทักษ์ ทับสุข อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/8 หมู่ 2 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง อาชีพขายของในตลาดบางใหญ่ซิตี้ มาสอบปากคำ

เนื่องจากก่อนหน้าจะเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน

นายพิทักษ์เคยมีปากเสียงกับผู้ตายเรื่องที่ผู้ตายจอดรถกีดขวางทางเข้าออก ถึงขั้นผลักอกกัน และผู้ตายเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.อ.บางบัวทอง ด้วย เบื้องต้นนายพิทักษ์ให้การว่า



ก็ได้ไปขอโทษและปรับความเข้าใจกับผู้ตายแล้ว อีกทั้งคืนวันที่ 2 เม.ย. ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 3 เม.ย. ก็อยู่กับภรรยาตลอดทั้งคืน ไม่ได้ ออกไปไหน หลังสอบปากคำนานกว่า 45 นาทีจึงให้กลับบ้านได้

ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนของ

บช.ภ.1 เดินทางไปตรวจสอบที่บริษัทออริจิเทคฯของผู้ตาย เลขที่ 89/2 หมู่ 2 ซอยวัดส้มเกลี้ยง ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยนำเอกสารบางอย่างไปตรวจสอบรายละเอียด ขณะเดียวกัน

จากการสอบถาม

น.ส.นริสรา ช้างร่อน อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าระบุว่า ผู้ตายขับรถออกจากบริษัทไปเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ด้วยท่าทางร้อนรน และไม่ได้นำคอมพิวเตอร์

โน้ตบุ๊กกลับไปด้วย

ซึ่งทุกครั้งที่ออกไปพบลูกค้าหรือกลับบ้านจะต้องนำคอมพิวเตอร์กลับไปด้วย แสดงว่าผู้ตายไปทำธุระไม่ไกล และจะต้องกลับมาบริษัทอีกครั้ง แต่รอจนถึงเย็นก็ไม่กลับมา

และติดต่อทางโทรศัพท์มือถือไม่ได้

จึงปิดบริษัทกลับบ้าน และมาทราบข่าวอีกครั้งก็พบเป็นศพถูกฆ่าเผาในรถตัวเองไปแล้ว ที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยมีปัญหากับใครในเรื่องธุรกิจ ทางเจ้าหน้าที่จึงบันทึกปากคำไว้เป็นหลักฐานก่อนจะเดินทางกลับ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า

ชุดสืบสวนของ บช.ภ.1 ได้ให้น้ำหนักในเรื่องชู้สาวมากเป็นพิเศษ หลังพบเบาะแสว่าผู้ตายมีคู่กิ๊กเป็นหญิงสาวอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีครอบครัวอยู่แล้ว โดยพบหลักฐานเป็นการติดต่อผ่านโทรศัพท์ มือถือผู้ตาย

ในวันเกิดเหตุก่อนที่ผู้ตาย

จะขับรถออกจากบริษัทไปอย่างรีบร้อน อยู่ระหว่างติดตามตัวหญิงสาวคนดังกล่าวมาสอบปากคำ เพื่อคลี่คลายคดีสังหารโหดในครั้งนี้แล้ว เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 2 คน เพราะผู้ตายเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ และน่าจะเป็นคนในพื้นที่ เพราะชำนาญเส้นทางที่นำรถไปเผาทิ้งเป็นอย่างดี

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ