บุกตะครุบอดีตทหารกองบินชิงเงินแบงก์ 2 หนซ้อน

บุกตะครุบอดีตทหารกองบินชิงเงินแบงก์ 2 หนซ้อน

จับแล้วคนร้ายควงปืนบุกจี้แบงก์ สารภาพเคยก่อเหตุบุกเดี่ยวจี้แบงก์มาแล้ว 2 ครั้ง รับซื้อบิ๊กไบค์-ดาวน์เงินเกลี้ยง เลยลงมืออีกแต่ไม่รอด

จากกรณี เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ตำรวจ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 1 คนสวมหมวกแก๊ปสีเขียว เสื้อแจ็กเก็ตสีดำ สวมแว่นกันแดด กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว รูปร่างสันทัด อายุไม่เกิน 30 ปี สูง 170-175 ซม. ถือกระเป๋าสะพายสีดำ เดินเข้ามาที่เคาท์เตอร์ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 26/17-18 สาขาสี่แยกหนองหอย เชียงใหม่ 89 พลาซ่า ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ต.หนองหอย อ.เมือง แล้วชักปืนออกมาจี้พนักงานและชิงเอาเงิน 406,000 บาท ก่อนหลบหนีไปอย่างไร้ร่องรอย ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ห้องประชุม สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่
 
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.สมศักดิ์ จินาภักดิ์ ผกก.สภ.แม่ปิง ได้ประชุมร่วมกัน เพื่อหาแนวทางการติดตามตัว คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้

พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า ตามแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้รวบรวมพยานอย่างหนาแน่น
 
จนทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้วคือ นายวะหัสรังสี ภพธรนารายณ์ อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 111/52 หมู่ 5 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ยังหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่อยู่ โดยเบื้องต้นได้นำตัว น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นแฟนสาวผู้ต้องหา มาสอบสวนปากคำ พร้อมยึดรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ขก 9441 เชียงใหม่ และเงินสด 170,000 บาท โดยของกลางทั้งหมดยึดได้ในบ้านพักของ น.ส.แก้ว ภายในตัวเมืองเชียงใหม่ โดย น.ส.แก้ว ให้การว่า ในวันเกิดเหตุ นายวะหัสรังสี ได้มาขอยืมรถเก๋งของตนบอกว่าจะยืมไปทำธุระ และหลังจากนั้นก็ได้นำรถมาคืน พร้อมมอบเงินสด 170,000 บาท ให้เก็บไว้ก่อน โดยไม่บอกนำเงินดังกล่าวมาจากไหน ก่อนนายวะหัสรังสี จะใช้รถจยย.บิ๊กไบค์ ขี่ออกจากบ้านและหลบหนีไป โดยบอกว่าจะไปธุระที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งสืบสวนภาค 5 สืบสวนจังหวัดและสืบสวนท้องที่ ได้แกะรอยจากกล้องวิดีโอวงจรปิด ตามถนนทุกสายทั่วเมืองเชียงใหม่

หลังคนร้ายก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุมุ่งหน้า อ.สารภี ก่อนจะขับรถวกกลับเข้ามาทางถนนซูเปอร์ไฮเวย์ เข้ามาในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อกลับไปที่พักของแฟนสาวเพื่อนำรถไปคืน โดยเจ้าหน้าที่ได้ภาพรูปพรรณของคนร้ายก่อเหตุเป็นรถโตโยต้ายารีส สีเทาบรอนซ์ มีสติกเกอร์ติดอยู่ด้านกระจกซ้ายของรถทั้งบนและล่าง รวมถึงป้ายทะเบียนรถที่ติดเฉพาะด้านหน้า เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยตามไปถึงบ้านของแฟนสาว จากนั้นได้ออกหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่เลขที่จ. 612/2556 ลงวันที่ 20 ธ.ค. 2556 ในข้อหา"ชิงทรัพย์โดยปิดบังใบหน้าเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำใบหน้าได้และโดยมีหรือใช้อาวุธปืน"

ล่าสุด เวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายวะหัสรังสี ภพธรนารายณ์ อายุ 22 ปี ได้แล้ว ขณะขับรถหลบหนีการตามล่าอยู่ในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ช่วงทางขึ้นดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง พร้อมรถ จยย.บิ๊กไบค์ ยี่ห้อคาวาซากิ อีอาร์ 6 ทะเบียน 1 กค 141 เชียงใหม่ อาวุธปืนขนาด .38 กระบอกจึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม

โดย นายวะหัสรังสี ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นทหารเกณท์ที่กองบินใน จ.เชียงใหม่ พอออกมาไม่มีงานทำจึงไม่มีเงินใช้

และมีความฝันที่อยากจะได้รถบิ๊กไบค์ไว้ขี่แบบเท่ๆ ประกอบกับช่วงนั้นพี่สาวของตนป่วย ต้องใช้เงินในการรักษาตัว จึงคิดหาวิธีได้เงินเยอะ
เคยดูหนังการปล้นทางทีวีก็รู้วิธีการเข้าปล้น ประกอบกับการศึกษาข้อมูลทราบว่าธนาคารกสิกรไทย มีการป้องกันที่หละหลวม ดังนั้นเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจบุกเดี่ยวจี้ชิงทรัพย์ได้เงินสดไปกว่า 7 แสนบาท โดยเงินที่ได้มาก็นำไปซื้อบิ๊กไบค์คันของกลางราคา 2.5 แสนบาท ที่เหลือนำไปดาวน์รถยนต์อีก 1 คัน และใช้จ่ายเงินเรื่อยมาจนเงินหมด จึงหวนก่อเหตุครั้งล่าสุดอีก แต่คราวนี้โดนจับได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการสอบสวนตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ธนาคารกสิกรไทยทั้ง 2 แห่งและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.








เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์