บึ้มแหลก 22แบงก์

ฉลองวันเบอร์ซาตู


โจรใต้วางระเบิดธนาคารทั่วยะลา 22 แห่ง 5 อำเภอ ทำให้มีคนตาย 1 ศพ เจ็บอีก 24 ราย คนร้ายฉวยโอกาสที่เป็นวันเงินเดือนออก ลอบเข้าไปวางระเบิดในแบงก์ต่างๆ แล้วจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือตูมสนั่นพร้อมๆกัน ทหารยศพันตรีลูกค้าแบงก์กสิกรเคราะห์ร้ายตายคาที่ มีผู้บาดเจ็บ 24 ราย กล้องวงจรปิดแบงก์จับภาพมือบึ้มได้มีทั้งชายและหญิง แต่งชุดนักศึกษา เข้ามาวางระเบิดที่ซุกในแฟ้ม และถุงพลาสติก แล้วรีบออกไปไม่กี่นาทีก็ตูม "แม้ว"ยอมรับรู้ข่าวมาก่อนว่าจะมีก่อเหตุ "ชิดชัย"เผยเป็นวันครบรอบการสถาปนากลุ่มเบอร์ซาตู ตร.จับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 4 ส่วนแบงก์ที่โดนระเบิดต้องหยุดทำการชั่วคราว

-บึ้มแหลก 22 แบงก์ยะลา


เมื่อวันที่ 31 ส.ค. เกิดเหตุระเบิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันช่วงเวลา 11.30 น. ที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในเขตเทศบาลนครยะลา ประกอบด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายะลา ถ.สิโรรส, ธนาคารกรุงเทพ สาขายะลา, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สาขายะลา, ธนาคารกรุงไทยอิสลาม ถนนพิพิธภักดี, ธนาคารกสิกรไทย สาขายะลา ถนนปราจีน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ พ.ต.สุชาติ ศรีทองอ่อน ข้าราชการทหารบำนาญ, ธนาคารนครหลวงไทย สาขายะลา ถนนยะลา, ธนาคารทหารไทย สาขายะลา ถนนสิโรรส, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขายะลา ถนนยะลา, ธนาคารออมสิน สาขายะลา ถนนสิโรรส และธนาคารกรุงไทย สาขายะลา


ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สมศักดิ์ วรรณวรรค ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.เมืองยะลา กระจายกำลังเข้าตรวจสอบช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุส่วนใหญ่พบว่าคนร้ายได้นำวัตถุระเบิดบรรจุใส่ไว้ในแฟ้มเอกสาร หนังสือ และถุงพลาสติก กระจายวางไว้ที่ชั้นวางหนังสือพิมพ์ หน้าเคาน์เตอร์ฝากถอน และเคาน์เตอร์เขียนใบนำฝากภายในธนาคารต่างๆ จากนั้นได้จุดระเบิดพร้อมกัน คาดว่าใช้ระบบตั้งเวลาในการจุดชนวนระเบิด แรงระเบิดทำให้ภายในธนาคารได้รับความเสียหายทุกแห่ง กระจกแตกกระจายเกือบทั้งหมด เคาน์เตอร์ฝากเงินได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 23 ราย เสียชีวิต 1 ราย ขณะนี้ทุกธนาคารในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลาได้ปิดทำการทันทีทั้งหมดแล้ว

ใช้มือถือจุดชนวนพร้อมกัน


ส่วนที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อเวลา 11.35 น. ร.ต.ต.ธาม ลอยสะเทื้อน รองสวป.สภ.อ.บันนังสตา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดภายในธนาคารกรุงไทย สาขาบันนังสตา มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 รายคือนางวันนูรฮานียะห์ ดอปอ อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่การเงิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษายะลาเขต 2 จากการตรวจที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายนำระเบิดมาวางไว้ที่ที่วางหนังสือภายในธนาคาร แล้วจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือโนเกีย 3310 เนื่องจากพบเศษโทรศัพท์ตกอยู่ในจุดเกิดเหตุ เวลาเดียวกันได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาบันนังสตา แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีผู้โทร.เข้าไปแจ้งกับพนักงานก่อนจะเกิดเหตุระเบิด

นอกจากนั้นในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ได้เกิดเหตุระเบิดภายในธนาคารออมสิน สาขายะลา โดยคนร้ายได้นำระเบิดมาวางไว้ที่ชั้นวางหนังสือ แล้วจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ ไม่มีผู้บาดเจ็บ เวลาเดียวกันคนร้ายยังได้ลอบวางระเบิดภายในธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขายะหา ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

ส่วนที่ อ.เบตง จ.ยะลา เกิดเหตุระเบิดธนาคารกรุงไทย 2 สาขา ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารนครหลวงไทย แห่งละ 1 สาขา ส่วนพื้นที่ อ.รามัน เกิดเหตุระเบิดภายในธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขารามัน รวมธนาคารที่โดนลอบวางระบิดทั้งหมด 22 แห่ง

-มีคนบาดเจ็บอีก 24 ราย


สำหรับเหตุระเบิดธนาคารต่างๆ ดังกล่าว ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 24 คน ประกอบด้วย นายรอมลี ดอกแก้ว อายุ 28 ปี นายวีระเลิศ กุลวรงค์ อายุ 69 ปี นายอับดุลเลาะ เจะอุบง อายุ 44 ปี นางอังคณา เจ๊ะอุบง อายุ 35 ปี นายพิชัย แซ่โล้ อายุ 40 ปี นายอายุบ อัคบา อายุ 42 ปี นายพิภพ พรหมจินดา นายทวีป ชัยสิงห์ นายแดน ชูมณี อายุ 39 ปี นางกุศล ดาราจิตร อายุ 56 ปี นางสุภาจิตร สุขแก้ว อายุ 45 ปี นายชาตรี ไชยโรจน์ อายุ 45 ปี นางศรีสุพร แซ่เจ็ง อายุ 48 ปี นางสากีน๊ะ ปาทาน อายุ 49 ปี นางตูนียานา หะยีสะมะแอ อายุ 23 ปี นายโนรฮีดายะห์ วาเจ๊ะ อายุ 28 ปี นางแสงหิรัญญา สาหัสธารา อายุ 55 ปี นายเอกชัย หงส์ชยางกูร อายุ 51 ปี นายชูศักดิ์ ยอดรักษ์ อายุ 30 ปี นายธวัชชัย ไทยสง อายุ 18 ปี นายณัฐวุฒิ บุญญาภาศ อายุ 38 ปี น.ส.ลักคณา อาตุณชาต นางวันนูรฮานียะห์ ดอปอ อายุ 39 ปี และหญิงไทยไม่ทราบชื่อ

-แฉมือระเบิดแต่งชุดน.ศ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ศปก.ตร.สน.ยะลา และชุดสืบสวน สภ.อ.เมืองยะลา กระจายกำลังไปยังธนาคารต่างๆ เพื่อตรวจสอบภาพจากโทรทัศน์วงจรปิด ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่คนร้ายจะแต่งกายชุดนักศึกษาช่าง ทั้งหญิงและชาย นำระเบิดซุกซ่อนภายในหนังสือ และแฟ้มเอกสาร นำเข้าไปวาง โดยที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขายะลา กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพใบหน้าของคนร้ายได้อย่างชัดเจน

สรุปเหตุลอบวางระเบิดธนาคารในพื้นที่ จ.ยะลา รวม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองยะลา 10 แห่ง อ.บันนังสตา 2 แห่ง อ.เบตง 6 แห่ง อ.ยะหา 2 แห่ง และ อ.รามัน 2 แห่ง รวมทั้งสิ้น 22 แห่ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 24 คน เสียชีวิต 1 คน

-"แม้ว"ยอมรับ-รู้ข่าวมาก่อน


เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดถึงเหตุลอบวางระเบิดธนาคารทั่ว จ.ยะลา ว่า พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้แถลงเพราะท่านติดตามเรื่องนี้อยู่ รวมทั้งทางผบ.ทบ.ที่เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งก่อนหน้านี้ด้านการข่าวได้บอกแล้วว่าอาจจะมีเหตุแบบนี้เกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุครั้งนี้เป็นการพุ่งเป้าไปที่สถาบันการเงิน นายกฯ กล่าวว่า ให้เป็นหน้าที่ของผบ.ทบ.เป็นคนพูด เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรไม่ให้สถานการณ์บานปลายรุนแรงไปมากกว่านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ให้ฝ่ายความมั่นคงเป็นคนพูด ก่อนจะเดินเข้าห้องประชุมด้วยสีหน้าเครียด

-เผยครบรอบสถาปนา"เบอร์ซาตู"


พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันครบรอบวันสถาปนากลุ่มเบอร์ซาตู ซึ่งตนได้เตือนไปก่อนหน้านี้แล้วว่าเป็นวันสถาปนาเขาให้ระมัดระวัง กลุ่มผู้ก่อเหตุก็พยายามหาช่องลอดของเรา อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ตั้งเป้าว่าเป็นการก่อเหตุของกลุ่มใด เพราะเรายังไม่ทราบ แต่ได้คุยกับแม่ทัพภาค 4 และผวจ.ยะลาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าเป็นความหละหลวมหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อย่าไปพูดเลย เหตุมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อถามว่า ในวันนี้ต้องมีการระมัดระวังเพิ่มขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าวว่า ไปถามผบ.ทบ.ดู เพราะตอนนี้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ที่ผบ.ทบ. ส่วนตนดูนโยบาย ได้แต่เพียงกำชับว่าให้ประสานงานกับผบ.ทบ. ส่วนความเสียหายในเบื้องต้นต้องถามจากเจ้าหน้าที่ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมก็กำลังตามกันอยู่ โดยได้คุยทั้งผบช.ภาค 9 และแม่ทัพภาค 4 แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้นายกฯ สั่งการให้ตนบอกให้ผบ.ทบ.รีบลงพื้นที่ดูแลสถานการณ์แล้ว และให้รายงานให้ทราบโดยตรงเป็นระยะๆ

น.พ.สุชัย เจริญรัตกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือความร่วมมือกับทางประเทศมาเลเซียกรณีลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ ว่า มีความก้าวหน้าไปมาก ตอนนี้มีการลงทะเบียนซิมการ์ดแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ เรื่องการข้ามเขตแดนก็อยู่ประมาณ 1.5 กิโลเมตร และกำลังจะตัดไม่ให้ผ่านข้ามแดนเลย การจดทะเบียนซิมการ์ดมือถือช่วยให้สามารถตรวจสอบว่าเป็นโทรศัพท์ของใคร แต่กระบวนการในการป้องกันต้องช่วยกันหลายๆ ด้าน

-"แม้ว"ตกใจเสื้อเกราะไม่พอ


ต่อมาเวลา 16.20 น. ที่ร.พ.พระมงกุฎเกล้า พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปเยี่ยมทหารจากหน่วยเฉพาะกิจ 1 จ.ยะลา ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย ร.อ.วาริส ทรวงโพธิ์ พลทหารสมศักดิ์ จันทร์เจริญ ส.อ.วีระพงษ์ จันทะวงศ์ และพลทหารนันทพงษ์ ขามกิ่ง ซึ่งทั้ง 4 คนถูกส่งตัวมาเมื่อเสาร์ที่ 27 ส.ค.

ระหว่างการเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ มีการรายงานว่า ทหารนายหนึ่งถูกยิงจากด้านหลัง บริเวณหัวใจ แต่สวมเสื้อเกราะทำให้รอดชีวิต พร้อมกับรายงานว่าปัจจุบันเสื้อเกราะของทหารและตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีไม่เพียงพอ ต้องใช้วิธีผลัดเปลี่ยนและแบ่งกันใช้ ทำให้นายกฯ แสดงอาการตกใจ พร้อมกล่าวว่า ได้อนุมัติงบประมาณให้ซื้อเสื้อเกราะจำนวนมากแล้ว และสั่งการให้พล.ท.ปรีชา วรรณรัตน์ รองเลขาธิการนายกฯ เร่งสำรวจ และดูว่าทำไมเสื้อเกราะจึงมีไม่พอ โดยนายกฯ กล่าวว่า สงสัยมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อ

พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาเสื้อเกราะมีไม่เพียงพอว่า นึกว่าพอแล้วเพราะอนุมัติงบไปเต็มที่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการจัดหาหรือหมุนเวียนอย่างไร ตนจะสอบถามผบ.ทบ.อีกครั้งว่าทำไมจึงเกิดปัญหาขึ้น จะเร่งแก้ไขเรื่องดังกล่าว ต้องหามาให้มากที่สุด หรือต้องหยิบยืมที่ไหนมาก่อนก็ได้ และถ้าต้องจัดซื้อเพิ่มเติมจะใช้วิธีพิเศษและต้องรีบทำ

เมื่อถามว่าขวัญกำลังใจของหน่วยปฏิบัติและประชาชนในพื้นที่จะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ขวัญของทุกคนยังดี แต่ต้องรีบเร่งจัดการคนร้ายเป็นเรื่องสำคัญ เช่น เหตุการณ์วางระเบิดธนาคาร เรามีโทรทัศน์วงจรปิด เห็นตัวคนร้ายมาก การจับกุมคงไม่ยาก

-จับแล้ว 4 ต้องสงสัยมือระเบิด


รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวน 4 คน คือ นายมะแด เจ๊ะซอ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.2 ต.เกาะจัน อ.มายอ จ.ปัตตานี นายการียา เจ๊ะซอ อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน 3.นายมะตอฮา บือราเฮง อายุ 22 ปี เป็นชาว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และนายยาหะยา ไม่ทราบนามสกุล เป็นชาว อ.บันนังสตา จ.ยะลา เจ้าหน้าที่จับกุม 2 ใน 4 ได้ที่หอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง ขณะขี่รถจักรยานยนต์จะหลบหนี หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารพบเห็นผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คนก่อนเกิดเหตุได้เข้ามาในธนาคารกรุงเทพและมีพิรุธโดยชายผู้ต้องสงสัยได้นำสิ่งของมาวาง และต่อมาเกิดระเบิดขึ้น ส่วนอีก 2 คนจับกุมได้ที่โรงแรมแสงฟ้าภายในเขตเทศบาลเมืองเบตง

-แบงก์3จว.ใต้ปิดทำการชั่วคราว


นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดธนาคารออมสิน ว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ภาค 14 และผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตปัตตานี ซึ่งดูแลสาขาในจ.ยะลา เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที พบว่าไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ยกเว้นผู้จัดการธนาคารสาขาเบตง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ธนาคารจะปิดทำการ เพื่อเคลียร์พื้นที่และซ่อมแซมความเสียหาย ประมาณ 7-10 วัน ช่วงนี้ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการของธนาคารออมสิน สามารถไปใช้บริการได้ที่สาขายะหา และสาขาบันนังสตา

นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า จากการที่สาขาของธนาคารที่จังหวัดยะลาได้ถูกวางระเบิด โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย จากแรงระเบิดทำให้อุปกรณ์ของสาขาได้รับความเสียหายเล็กน้อย ดังนั้น ผู้บริหารของธนาคารได้มีการประชุมและออกมาตรการ ดังนี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นลูกค้าของธนาคารได้มีการสั่งการให้ผู้จัดการสาขาดูแล และธนาคารเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่ง 1 รายบาดเจ็บที่ข้อเท้า และอีก 1 ราย บาดเจ็บที่ไหล่ ซึ่งเป็นการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนการเปิดบริการโดยจะเปิดให้บริการได้ในวันที่ 1 ก.ย.

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในส่วนความเสียหายที่ธนาคารได้รับอันเป็นความเสียหายทางวัตถุนั้น ยังไม่ได้ประเมินมูลค่าแต่ในกรณีลูกค้าของธนาคารสาขายะลา ที่โดนระเบิดถึงแก่ชีวิต ขณะทำธุรกรรมในสาขาคือ พ.ต.สุชาติ ดีทองอ่อน นั้น ธนาคารขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและในเบื้องต้นจะได้เข้าไปประสานงานให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัว พ.ต.สุชาติ ทั้งในด้านกำลังใจและเงินบรรเทาทุกข์เร่งด่วน และจะปิดทำการสาขาทั้งหมดในจ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จำนวน7 สาขา ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.นี้ เป็นการชั่วคราว

-ส.ว.ชี้"แม้ว"คือจุดอ่อน


นายโสภณ สุภาพงษ์ รักษาการส.ว.กทม.กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บอกสังคมว่าหลังออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วสถานการณ์ทุกอย่างจะดีขึ้น ไม่เป็นความจริง จากแต่ก่อนคนร้ายที่เป็นเครือไม่มีข่าย ปัจจุบันมีเครือข่ายขยายทั่วไปอย่างชัดเจน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความขัดแย้งทางศาสนา เพราะมีธนาคารมุสลิมและประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามร่วมอยู่ด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นการกระทำของคนที่ได้รับการฝึกมาจากกองกำลังต่างประเทศ ซึ่งในพื้นที่จะเรียกกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้ว่า "พวกพันธุ์ใหม่" มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายจากอินโดนีเซีย และมาเลเซียมาฝึกให้ กองกำลังเหล่านี้น่ากลัวกว่าที่รัฐบาลคิดไว้มาก

"คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์ (กอส.) เคยเตือนในประเด็นนี้ไว้แต่รัฐบาลเองก็ไม่เคยฟัง นโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขความรุนแรงในภาคใต้ล้มเหลวลงอย่างสิ้นเชิง การมีพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ ยิ่งทำให้กระบวนการของโจรยิ่งเข้มแข็งขึ้น เพราะพ.ต.ท.ทักษิณได้ตัดวงจรที่จะป้องกันเหตุรุนแรงออกหมด เช่น ศอ.บต. หน่วยข่าวกรองที่เป็นความจริง ถูกเจ้าหน้าที่ชั่วๆของรัฐอุ้มฆ่าหมด ทุกอย่างที่รัฐบาลได้รับรู้ในตอนนี้จึงเป็นความลวงทั้งหมด หากจะแก้ปัญหาเริ่มแรกเลยคือพ.ต.ท.ทักษิณต้องขอโทษผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด ที่รัฐบาลได้ทำร้ายเขา ถึงจะจับโจรได้ และจะทำให้กระบวนการการร่วมมือเกิดขึ้นได้ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณยังไม่สำนึก ความรุนแรงจะเกิดขึ้นมากกว่านี้แน่" นายโสภณกล่าว

-ยิงดับพ่อค้าปลาปัตตานี


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ส.ค. ร.ต.ท.วัฒนา เกตุอำไพ ร้อยเวรสภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 2 รายข้างสวนยางพาราริมถนนสายเจาะไอร้อง-ไอปาแย ม.8 ต.จวบ จึงพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร รุดไปจุดเกิดเหตุ พบว่าผู้บาดเจ็บ 2 รายชาวบ้านช่วยนำส่งร.พ.เจาะไอร้องแล้ว คือนายพิเชษฐ์ จันทร์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.1 ต.จวบ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ที่สะโพก 2 นัด ต้นขาซ้าย 2 นัด อาการสาหัส และนายมูหะหมัด นิยา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 329 ม.1 ต.จวบ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันที่หัวเข่าซ้าย 1 นัด สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุคนทั้งสองชวนกันไปเก็บขี้ยางพารา ขณะเดินเก็บขี้ยางพาราอยู่ในสวน มีคนร้ายที่ซุ่มอยู่ใช้อาวุธปืนยิงใส่บุคคลทั้ง 2 คน บาดเจ็บดังกล่าว

ส่วนที่จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 12.00 น. ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ แดงวรวิทย์ ร้อยเวรสภ.อ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบยิงคนเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส ม.3 บ้านดี ต.บาราโหม จึงนำกำลังตำรวจทหารรุดไปที่เกิดเหตุ พบศพนายฟ่อน ปิยะญาติ อายุ 50 ปี พ่อค้าปลาเร่ อยู่บ้านเลขที่ 204 ซ.ตัน 2 ถ.นาเกลือ อ.เมืองปัตตานี สอบสวนทราบว่าขณะผู้ตายที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงสามล้อเร่ขายปลา มีคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ตามประกบยิงด้วยอาวุธปืน 3 นัด กระสุนถูกที่กกหูขวา 1 นัด และลำตัวอีก 1 นัด ผู้ตายกระเด็นตกจากรถเสียชีวิตริมถนน สาเหตุเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์