บิ๊กแจ๊ดกลับถึงไทยแล้ว รูดซิปปากคดีซุกปืนจิ๋ว ตร.เตรียมเรียกตัวสอบ

บิ๊กแจ๊ดกลับถึงไทยแล้ว รูดซิปปากคดีซุกปืนจิ๋ว ตร.เตรียมเรียกตัวสอบ

บิ๊กแจ๊ดกลับถึงไทยแล้วรูดซิปปากคดีซุกปืนจิ๋วตร.เตรียมเรียกตัวสอบ

เมื่อเวลา 15.30 น. เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (อดีตผบช.น.) เดินทางกลับประเทศไทยด้วยเที่ยวบิน ทีจี 641 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ภายหลังอัยการญี่ปุ่นสั่งไม่ฟ้องฐานพกพาอาวุธปืนที่สนามบินนาริตะ และได้ถูกส่งตัวให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นเพื่อดำเนินคดีในความผิดฐานอยู่ในญี่ปุ่นเกินกว่ากำหนด 15 วัน หรือ over stay พร้อมกับถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 1 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางกลับมายังประเทศไทยของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ในครั้งนี้ได้มีพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1(ผบช.ภ.1) เดินทางมารอรับ รวมทั้งสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวอย่างคับคั่ง และยังมีประชาชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาให้กำลังใจด้วย

จากนั้น ในเวลา 15.40 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินออกมาจากประตูทางออกที่ 5 ของท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยแต่งกายในชุดเสื้อเชิ้ตสีเทาลายดอกไม้ กางเกงสแลคสีดำ มีสีหน้ายิ้มแย้ม ยกมือไหว้ ทักทายผู้ที่มารอให้กำลังใจ และสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนขึ้นรถตู้อัลพาสสีขาว เลขทะเบียน ษอ30 กทม. เดินทางกลับทันทีโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน อย่างไรก็ตามยังไม่มีการอายัดตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไว้สอบสวนกรณีนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินออกจากประเทศไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นแต่อย่างใด

ทางด้าน พล.ต.ท.อำนวย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถแจ้งข้อหาใดๆ ต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการทำเรื่องขอข้อมูลการให้ปากคำของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ที่ประเทศญี่ปุ่น คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการประสานงาน และระหว่างนี้จะเชิญตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์มาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคงต้องให้เวลาพักผ่อนก่อนจึงจะเชิญมา ทั้งนี้ ต้องตรวจให้แน่ชัดว่าระหว่างขาไปเดินทางออกไปได้อย่างไรโดยไม่ถูกตรวจสอบพบปืน เป็นไปได้ว่าอาจจะใส่ไปในกระเป๋าแล้วโหลดลงใต้เครื่องจึงไม่ถูกตรวจพบ แต่ระหว่างขากลับใส่กระเป๋าสะพายขึ้นมาบนเครื่องด้วยจึงถูกตรวจพบ อยู่ในระหว่างการประสานข้อมูลจากทางญี่ปุ่นก่อนจะนำมาพิจารณาความผิดว่ามีความผิดในฐานใด

ขณะที่ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า ในส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคมนั้น จะต้องมีการประชุมหารือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) และกรมการบินพลเรือน(บพ.) ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ทั้งนี้ จะต้องรอผลการตรวจสอบจากทางตำรวจก่อน โดยในส่วนของความผิดพลาดที่เกิดที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นอาจจะเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากระบบหรือจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเชิงลึกอีกครั้ง รวมถึงการตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่ใช้ในเครื่อง CTX 9400 ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ ประกอบด้วยบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ บพ. ทอท. และ การบินไทย

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ระบุว่า ในส่วนการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้พกปืนออกจากไทย และจะมีการฟ้องร้องเอาผิดตาม พ.ร.บ.เดินอากาศ พ.ศ. 2497 หรือไม่นั้น ต้องเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ เพราะ ทอท.จะมีหน้าที่หาข้อมูลสนับสนุน ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอมาเท่านั้น

ด้าน นายวันชัย สอนศิริ ทนายความ และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ระบุว่ากรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ของประเทศญี่ปุ่น มีหลักฐานและสามารถพิสูจน์ได้ว่า ปืนกระบอกดังกล่าวถูกนำขึ้นไปบนเครื่องบินขาออกจากประเทศไทย ดังนั้นไม่ว่าจะเล็ดลอดออกไปด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจะต้องดำเนินการสอบสวนและดำเนินคดีเอาผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ.2497 ต่อ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทุกคน

 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์