บิ๊กบังสุดอั้น....บ้านเมืองซูบ

คตส.จ่อสอบเป็น"คดีที่13"3บริษัทมือถือเลี่ยงจ่ายภาษี




พล.อ.สนธิ เผยใจได้รู้รายละเอียดโกงกินบ้านเมืองจนแทบเหลือแต่กระดูกแล้วเศร้าใจ จนอยากร้องไห้ แต่ยังมั่นใจพลังสีเหลือง พลังแห่งความจงรักภักดี ถ้าใช้คำว่าธุระไม่ใช่ บ้านเมืองจะลำบาก ส่วน สพรั่ง ลั่นไม่เคยชี้ใครผิด-ถูกก่อนสอบสวน พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ด้าน คตส.เตรียมสอบเอไอเอส -ดีแทค-ทรู เลี่ยงจ่ายภาษีสรรพสามิต 4 ธ.ค.นี้ เป็นคดีที่ 13 เผยต้นเหตุรัฐบาล แม้ว ออก พ.ร.ก.พิกัดภาษีสรรพสามิตเอื้อ เอไอเอส. งดจ่ายภาษี 1.8 หมื่นล้าน แก้วสรร เป็นงง ทีโอที-กสท.เสียประโยชน์แต่ทำเฉย ด้าน นาม บี้สอบนักการเมืองหากินเงินหวย โกงวัด ขณะที่ซีทีเอ็กซ์จับไต๋ เสี่ยเช พร้อมสอบพยานปากสำคัญพรุ่งนี้ ส่วน หมอชนบทร้องนายกฯ สอบเจ้าหน้าที่ สตง.ไม่เป็นกลางสอบทุจริตรถพยาบาล ป.ป.ช.ตั้งอนุตรวจสอบทรัพย์สิน แม้ว ส่วนการพิจารณาขายหุ้นชินคอร์ปไม่เลื่อน แม้มีการยื่นเอกสารขอความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ห้องฉัตรทอง สโมสรทหารบก สี่เสาเทเวศร์ พล.อ.สนธิ บุญย รัตกลิน ผบ.ทบ.และผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ได้กล่าวเปิดใจในงานพบปะมวลชน กอ.รมน.และมวลชนของหน่วยบัญชาการกำลังสำรองทั่วประเทศ โดย พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มาพบกัน ซึ่ง กอ.รมน.ได้มีการปรับโครงสร้างใหม่เสร็จแล้ว เหลือแต่เรื่องของการจัดบุคลากรที่จะลงไปอยู่ในกิ่งแขนงต่าง ๆ เพื่อความเหมาะสม โดยใช้ผู้บัญชาการทหารบกเข้ามารับผิดชอบในการดำเนินกิจกรรมทั้งปวง ทั้งนี้เอกภาพในการบริหารจัดการถ้าเป็นหนึ่งเดียว และมีแผนงานที่ชัดเจนจะสามารถดำเนินการไปได้ในระดับหนึ่ง การทำงานในเรื่องของการรักษาความมั่นคงภายในที่สำคัญคือ การประสานกับหน่วยงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าเรื่องของพลเรือน ตำรวจ ทหาร ต้องเข้าใจตรงกันและทำงานร่วมกัน


>>>จัดอย่างไร ดีอย่างไร ....คนเก่งอย่างไรก็ตาม


พล.อ.สนธิ กล่าวต่อว่า ถึงแม้โครงสร้าง กอ.รมน.จัดอย่างไร ดีอย่างไร คนเก่งอย่างไรก็ตาม มันไม่มีทางสำเร็จ ถ้าประชาชนไม่ให้ความร่วมมือ ปัญหาสถานการณ์ของโลกขณะนี้คง จะเห็นว่าสงครามเปลี่ยนวิวัฒนาการมาตามลำดับ ตั้งแต่สมัยนโปเลียน สงครามสมัยที่สองคือ สงครามโลกครั้งที่ 1 มาสงครามเย็นจบไปแล้ว แต่สงครามใหม่คือสงครามการก่อการร้ายเป็น สงครามเกิดจากวัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา ขั้วอำนาจและผลประโยชน์ของชาติเข้ามาประกอบกัน รูปแบบของมันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตคือการก่อการร้าย ฉะนั้นแนวทางที่เราจะปรับให้สอดคล้องกับภัยคุกคามในอนาคตคือโครงสร้าง กอ. รมน. เราต้องนึกถึงสภาพของภัยคุกคาม สภาพของการก่อการร้ายต่าง ๆ มาประกอบ เราถึงพยายามที่จะพิจารณาในการปรับกอ.รมน.ภายใน

>>>ผู้บริหารต้องรักประเทศจริง ๆ
"จะเห็นว่าการเมืองในบ้านเราก็ไม่นิ่ง คลื่นใต้น้ำจะมีหรือไม่ เราตอบไม่ได้ กำลังใฝ่หา ให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อยเกิดขึ้น การบริหารประเทศโดยรัฐบาลจะเดินไปข้างหน้าด้วยดี และเราจะได้ไปสู่รัฐธรรมนูญที่เป็นที่พอใจของประชาชนกลับมาเพื่อใช้ในการบริหารประเทศในอนาคต เพราะมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ผมอยากเห็นปัญหาต่าง ๆ จบด้วยที่ใจของคนไทยเราเอง ปัญหาทุกวันนี้ไม่ว่าปัญหาการเมืองที่ไม่นิ่ง ที่ผ่านมาเกิดจากลักษณะคนไทย มีฝรั่งท่านหนึ่งมาทำวิจัยบอกว่า บ้านเราการที่จะนำไปสู่ประเทศที่มีความเจริญค่อนข้างยาก ด้วยนิสัยคนไทยเราเขาบอกว่า 1.ขี้เกียจ 2.ขี้โกง 3.ขี้โอ่ ขี้อวด 4.ขี้อิจฉา นี่คือผลวิจัย ผมว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญว่าคนไทยรักประเทศไทยมากน้อยแค่ไหน มีความเอื้ออาทร มีการให้อภัยมากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นการแก้ปัญหาการเมืองบ้านเรา ถ้าทุกคนเข้ามาบริหารประเทศรักประเทศอย่างแท้จริง รักอย่างจริงจัง ผมคิดว่าบ้านเมืองเราเดินไปข้างหน้าได้" พล.อ.สนธิ กล่าว


จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของอุดมการณ์..........


ผอ.กอ.รมน. กล่าวต่อว่า ตนพยายามปรารภกับนักการเมืองทุกคนต้องมีอุดมการณ์ สิ่งแรกที่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของอุดมการณ์คือ 1.ความรักชาติ ท่านรักชาติท่านหรือเปล่า 2.ท่านจงรักภักดีหรือไม่ ตนคิดว่าวันที่ 19 ก.ย. ทำให้ตนตัด สินใจทำอะไรบางอย่าง ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายในการตัด สินใจ แต่ผลการตัดสินใจก็คือชาติและราชบัลลังก์ในการที่เราเป็นทหาร เมื่อมาถึงตรงนี้เราพยายามทำทุกอย่างให้สงบ ถ้าตนไม่ทำวันที่ 19 วันที่ 20 จะนองเลือด ทุกท่านคงทราบดีกว่าตน ฉะนั้นถือว่าตนได้พยายามตัดสินใจในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อชาติ บ้านเมือง ณ เวลานี้ต่อไปคงจะไม่มีอะไรที่ไปกว่าการอยากให้รัฐบาลเดินไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ร่างรัฐธรรมนูญก็ร่างไป ออกมาเป็นอย่างไรถือว่าเป็นมติของประชาชน ในรัฐธรรม นูญที่กำลังร่างถือว่าเป็นความเห็นชอบของประชา ชน ทางคณะมนตรีความมั่นคง ตัวตนเองยืนยันว่าจะไม่เข้าไปยุ่งการร่างรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าไปก้าวก่ายการบริหารของรัฐบาล ถือว่าทุกคนมีหน้าที่ ทุกคนมีสิทธิในการทำอะไรก็ทำเพื่อให้เกิดภาพของความมั่นคง ความถูกต้องของการบริหารประเทศใน 1 ปี ความสำเร็จในอนาคตเป็นเรื่องที่คนใน 1 ปี ในปัจจุบันที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องทำให้ดีที่สุด เพื่อในปีที่ 2 3 4 5 6 นั่นหมายความว่าประเทศของเราอะไร ๆ มันจะดีขึ้น อยากเรียนทุกท่านว่าไม่มีอะไรดีไปกว่าประชาชนทุกคนเข้ามีส่วนร่วม

>>>ถ้าธุระไม่ใช่บ้านเมืองลำบาก
พล.อ.สนธิ กล่าวต่อว่า คิดว่าพลังประชาชนที่เป็นพลังสีเหลืองที่เกิดขึ้นในวันที่ 9 มิ.ย. จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าประเทศเราจะมีทิศทางเดินอย่างไร หวังว่าปี 2550 เป็นอีกปีหนึ่งที่พวกเราทุกคนแสดงออกถึงความจงรักภักดี และเป็นอีกปีหนึ่งที่คนไทยแสดงถึงความรักกัน มีความเอื้ออาทรกัน คนที่เป็นคนดีควรยกย่องเชิดชู แต่ถ้าเผื่อคนไทยด้วยกันนั้นใช้นิยามคำว่า ธุระไม่ใช่ บ้านเมืองจะลำบาก ฉะนั้นการที่เห็นคนที่เสียสละ เป็นความภูมิใจและดีใจเป็นที่สุด คนไทยทุกคนต้องเปลี่ยนลักษณะนิสัย ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาลักษณะนิสัยต่าง ๆ ของประเทศเรามากขึ้น ตอนนี้ตนกำลังเปลี่ยนกองทัพ โดยให้นิยามกำลังพลของกองทัพบกว่า ให้กองทัพเป็น กองทัพของประชาชน ให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของกองทัพ ตนได้บอกไปว่า การที่จะให้ประชา ชนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของกองทัพ เราต้องทำ ทหารต้องทำ หมายถึงว่าเราต้องทำตัวเราให้ดี ทำให้ประชาชนรัก ศรัทธา


ย้ำกองทัพคือญาติพี่น้องท่าน


"จะเห็นได้ว่าปัญหาการแบ่งแยก ระหว่างกองทัพกับประชาชนมีคนขีดให้ตลอด พยายามจะบอกว่าทั้งสองฝ่ายคือศัตรูกัน เป็นเรื่องที่หลายคนคงได้ยิน ซึ่งคนเหล่านั้นคือคนที่ไม่ปรารถนาดี ถ้าประชาชนมีความรู้สึกว่าทหารคือลูกหลานของตัวเอง เชื่อได้ว่าประเทศจะมั่นคง จุดใดที่จะก่อให้เกิดความมั่นคง จะมีคนพยายาม ทำให้เกิดความแตกร้าวและหักสลายลง ผมถึงพยายามเน้นย้ำกองทัพว่าเราคือคนของประชาชน ทุกคนเป็นเจ้าของกองทัพ ทุกคนที่อยู่ในกองทัพคือญาติพี่น้องของท่าน อย่าแยกเส้น อย่าแบ่งเขต เขตทหารทุกที่ยินดีต้อนรับไม่ใช่เขตทหารห้ามเข้า เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนทุกคน ทหาร ตำรวจ คือคนไทยด้วยกันจากนี้ไปเราควรต้องปรับทัศนคติกันพอสมควร เพราะถ้าไม่ปรับมือที่สามก็จะมาทำให้เรา จะเห็นว่าอะไร ๆ ก็ทหารไม่ดี เราก็คงพยายามรับสภาพตรงนั้นเพื่อมาแก้ไข แต่ถ้าทุกท่านเห็นว่ากองทัพคือของของท่าน แน่นอนว่าท่านต้องให้อภัยกองทัพ ทหารที่ดีก็มีไม่ดีก็ มี ผมพยายามพูดเสมอว่า ถ้ามีทหารไม่ดีขอให้บอกมา ผมจะได้เอาเขาออกไป คนที่เข้ามาอยู่ในกองทัพไม่ได้ดี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เราพยายามสอนให้ทุกคนเป็นคนดี" พล.อ.สนธิ กล่าว

>>>>"โกงอย่างเหลือแต่กระดูก"
พล.อ.สนธิ กล่าวอีกว่า ตนได้เชิญ คตส. มานั่งเล่าให้ฟัง 10-20 โครงการที่เกิดขึ้น ตนกลับไปนอนบ้าน นอนไม่หลับ นอนคิดทั้งคืน ตนทุ่มเทชีวิตให้กับประเทศชาติบ้านเมือง สมัยเด็กก็ไปรบมาตลอด ในร่างกายมีบาดแผลจากการโดน กระสุนบ้าง อะไรบ้าง เยอะแยะ ไม่เคยหวาดกลัว และไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่เมื่อได้ยิน คตส.เล่าตนมีความรู้สึกเสียใจ อยากจะพูดตรงนี้ แต่คิดว่าถ้าพูดไปแล้ว สื่ออยู่เยอะมันจะดูไม่ดี ตนได้อุทานให้ลูกน้องฟังในที่ประชุม แต่คงเรียนตรงนี้ไม่ได้ แต่คำอุทานในช่วงสุดท้ายว่า "ผมอยากจะร้องไห้ ที่เห็นบ้านเมืองผมเป็นอย่างนี้" ตนอุทาน 2 ประโยค แต่ประโยคแรกมันไม่เพราะ เพราะมีสร้อยต่อไม่สามารถบอกตรงนี้ได้ บ้านเมืองเราถ้าเป็นอย่างนี้จะเหลือแต่กระดูก เพราะฉะนั้นต้องอาศัยทุกท่าน ต้องกล้าหาญลุกกันขึ้นมา ต้องช่วยกันอย่านิ่งเฉย


ทุกคนต้องลุกขึ้นมาช่วย..... ต้องมาช่วยตนอย่างวีรบุรุษ


พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนลุกขึ้นมาทำให้ทุกท่านสบายใจแล้ว ต่อจากนี้ทุกท่านต้อง มาช่วย ตนคนเดียวหรือกองทัพอย่างเดียวคงไม่ไหวหรอก ยืนยันว่าทุกคนต้องมาช่วยตนอย่างวีรบุรุษ ตนไม่ต้องการเป็นวีรบุรุษในเวลานี้ และไม่ต้องการเป็นวีรบุรุษตลอดชีวิต แต่พวกเราทุกคนควรใช้พลังที่มีอยู่มาสร้างความเป็นวีรบุรุษร่วมกัน ตนเชื่อว่าชาติจะมั่นคง ชาติจะเข้มแข็ง อะไรที่ไม่ดี เราต้องลุกขึ้นมาชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้ไม่ดี ขอฝาก ไว้บ้านเมืองไม่ได้อยู่ที่ตนคนเดียว ไม่ได้อยู่ที่ กอ.รมน.แต่อยู่ที่ทุกคนมีส่วน ทุกคน ทุกภาคส่วนของประเทศ ที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง ตนบอกแล้วว่าเวลาตนเหลืออีก 10 เดือน ในการรับใช้ชาติแผ่นดิน จากนั้นน้อง ๆ ทุกคนประชาชนทุกคนที่มีโอกาสได้ช่วยต้องช่วย และเมื่อตนเกษียณแล้วตนจะเป็นอีกคนหนึ่งที่มาช่วย ประธานองคมนตรีได้กล่าวว่า old soldier never die ถึงแม้จะเกษียณแล้ว ความเป็นทหารก็ยังไม่จบ ความรักชาติบ้านเมืองคงจะตายไปพร้อมกับตัวเอง เพราะเราเป็นทหาร

"ผมคิดว่าทุกท่านที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็มีส่วนในการปกป้องรักษาประเทศชาติของตัวเอง ภาระหน้าที่ของการเป็นทหารผมก็ต้องเสี่ยงภัยด้วยการเอาชีวิตเข้าไปแลก นั่นเป็นเหตุการณ์ เป็นกรอบหนึ่ง แต่ทุกท่านก็มีส่วนที่จะทำอีกกรอบหนึ่ง หรือหน้าที่หนึ่งในการทำให้ชาติบ้านเมือง อยู่รอดและเข้มแข็ง ตนจะทำให้ดีที่สุด แต่จะดีที่สุดไปไม่ได้ถ้าทุกท่านไม่ช่วยตน" พล.อ.สนธิ กล่าวและว่า สิ่งที่พูดไปนั้นต้องการจะบอกว่า ทุกคนต้องรักชาติบ้านเมือง ทุกคนต้องมีอุดม การณ์เรื่องความรักชาติ อย่าลืมสิ่งเหล่านี้ เพราะถ้าลืมแล้วจะทำให้เกิดช่องว่างและมีหลายสิ่งหลายอย่างแทรกแซงเข้ามาได้ เพราะคนที่ไม่รักชาติ ส่วนมากจะเห็นแก่ตัว เราต้องถือว่าเห็นแก่ชาติก่อน เห็นแก่ตัวเป็นอันดับสอง


"สพรั่ง" ยันให้ความเป็นธรรม


ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ. สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผบ.ทบ.ในฐานะประธานบอร์ดการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ทอท. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะสั่งรื้อ 124 สัญญา ที่เกี่ยวข้องกับสนามบินสุวรรณภูมิขึ้นมาดูใหม่ทั้งหมดว่า คงไม่ได้เป็นการสั่งรื้อ เนื่องจากเรามีคณะกรรม การที่แบ่งหน้าที่กันตรวจสอบดูแลแต่ละเรื่องอยู่แล้ว ให้เขาว่ากันไป ทั้งนี้ตนจะไม่ไปบอกว่าคนนั้นผิด คนนี้ผิด เพราะไม่ใช่นิสัยของตน โดยตนจะใช้วิธีการไกล่เกลี่ยให้มาพูดกันต่อหน้าอย่าพูดกันลับหลัง ตนในฐานะบอร์ด ทอท.ดูแลทั่วประเทศ แต่บังเอิญว่า สนามบินสุวรรณภูมิเป็นจุดที่มีปัญหา ทั้งนี้ตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เวลานี้นิสัยของคนไทยอะไรที่คิดว่าผิดก็จะบอกว่าผิดเลย โดยที่ยังไม่ได้สอบสวนข้อเท็จจริง เราต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเวลานี้มีเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามามาก ซึ่งเราก็พยายามที่จะไกล่เกลี่ยให้ความเป็นธรรมมากที่สุด

>>>ปธ.สหภาพฯร้องคตส.
ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เมื่อเวลา 14.30 น. นายวัฒนะ เอี่ยมบำรุง ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เข้ายื่นเรื่องต่อนายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อขอให้ตรวจสอบหาผู้กระทำผิดกรณีไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม


..........จึงมีหน้าที่เสียภาษี และมีหน้าที่ยื่นแบบรายการภาษี

นายวัฒนะ กล่าวว่า ในความเห็นของกฤษฎีการะบุว่า เมื่อคู่สัญญาภาคเอกชนเป็นผู้ประกอบกิจการสถานบริการสำหรับกิจการโทรคมนาคมที่ได้รับอนุญาตหรือสัมปทานจากรัฐแล้ว จึงมีหน้าที่เสียภาษี และมีหน้าที่ยื่นแบบรายการภาษี และชำระภาษีสรรพสามิตตามกฎหมาย แม้ในสัญญาร่วมการงานจะกำหนดให้หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลใดเป็นผู้เรียกเก็บค่าบริการจากประชาชนผู้รับบริการก็ตาม ก็เป็นเรื่องข้อตกลงที่มีผลผูกพันกันระหว่างคู่สัญญาไม่มีผลเปลี่ยนแปลงหน้าที่ที่บุคคลนั้นพึงมีตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิตแต่อย่างใด

>>>จี้ให้ คตส.หาผู้กระทำผิด
"จากคำวินิจฉัยข้างต้น ตามข้อเท็จจริง ทาง ครม.ไม่ได้มีการแก้ไขให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งทำให้บริษัท กสท ซึ่งเป็นคู่สัญญาของบริษัทดีแทค และทรู ยังต้องแบกภาระเป็นผู้ยื่นแบบ และเป็นผู้เสียภาษีสรรพสามิตแทนคู่สัญญา ที่เป็นผู้รับสัมปทาน ทำให้ กสท ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจ ซึ่งกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่เกิดความเสียหาย ดังนั้นอยากให้ คตส.หาผู้กระทำผิดจากการที่ ครม., รมว.คลัง, รมว.ไอซีที และอธิบดีกรมสรรพสามิตที่รับผิดชอบในรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ไม่ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของกฤษฎีกาด้วย"

>>>"แก้วสรร"ข้องใจทีโอที-กสท
ด้านนายแก้วสรร กล่าวว่า ตนได้หารือกับนายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. แล้ว เห็น ตรงกันว่า จะนำเรื่องนี้เสนอเข้าที่ประชุม คตส. ชุดใหญ่ในวันจันทร์ที่ 4 ธ.ค. เพื่อให้รับเรื่องนี้เอาไว้พิจารณา เพราะก่อนหน้านี้ทางทีโอทีก็เคยมายื่นเรื่องเอาไว้แล้ว ปัญหาเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาข้อกฎหมาย เนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นมาแล้ว แต่กลับลอยหายไปเฉย ๆ โดยคนที่ต้องออกมาสู้เรื่องนี้ต้องเป็นทีโอที และ กสท แต่ทำไมกลับยังเฉยอยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ได้เข้ายื่นหนังสือกรณีรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออก พ.ร.ก.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต เมื่อปี 2546 ทำให้บริษัท เอไอเอส ไม่ต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต 3 ปี ๆ ละ 6 พันล้านบาท รวมเป็น 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ทีโอที


>>>สอบเงินหวยใช้ถูกหรือไม่


ด้าน นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการออกสลากพิเศษ 2-3 ตัวว่า คตส.ยังคงดำเนินการตรวจสอบต่อไป และหากรัฐบาลมีความชัดเจน คตส.จะพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ส่วนที่เกรงกันว่าหากกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจะลบล้างความผิดที่ผ่านมาในอดีตได้นั้น ตามมาตรา 2 กฎหมายอาญาระบุชัดเจน หากเรื่องการออกหวยไม่ผิด มันก็ลบล้างไป แต่ว่าเรื่องการใช้เงินที่ได้มามีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูก มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ คตส. ตรวจสอบอยู่ว่าเงินที่ได้จากการขายหวย เอาไปใช้ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ถือเป็นหลักใหญ่ อาทิ กรณีการให้ใครไปบริจาคถวายให้วัดเมื่อต้นปีก่อน แล้ววัดมาร้องว่าได้เงินแค่ครึ่งเดียวตามที่เป็นข่าวก็ต้องสอบ

>>>"อำนวย"ยันไม่หักหลัง "เสี่ยเช"
นายอำนวย ธันธรา ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 กล่าวถึงการเชิญ นายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือเสี่ยเช กรรมการผู้จัดการบริษัทแพทริออตบิสซิเนส คอนซัลแทนด์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ของบริษัทอินวิชั่น เทคโนโลยีจำกัด มาสอบปากคำว่า ได้ข้อมูลพอสมควรโดยต้องถือว่า เขาเป็นหนึ่งในพยาน เราคงไปหักหลังเขาไม่ได้ โดยทางคณะอนุกรรมการฯ มีเทคนิคในการสอบปากคำอยู่ แม้ว่า นายวรพจน์ จะพูดเยอะแต่เราก็พอจับทางได้ ส่วนที่จับไต๋แล้วได้อะไรนั้น ตนคงบอกไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของสำนวนคดี


....คตส.ข่มขู่นั้น ไม่เป็นความจริง

นายอำนวย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายวรพจน์ ระบุถูกอนุ คตส.ข่มขู่นั้น ไม่เป็นความจริง จะไปข่มขู่เขาได้อย่างไร เพราะเขามากับทนายความสองคนที่นั่งขนาบข้างเขาอยู่ ซึ่งคณะอนุกรรมการก็ไม่ได้วิตกอะไรในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 ธ.ค. คณะอนุกรรมการฯจะเรียกพยานปากสำคัญมาให้ข้อมูล แต่ไม่สามารถบอกชื่อได้ สำหรับภาพรวมหากได้รับความร่วมมือจากพยาน คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนได้ไม่เกินสิ้นปีนี้

>>>หมอชนบทร้องสอบ สตง.
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. ชมรมแพทย์ชนบท นำโดย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท พร้อมสมาชิก 5 คนเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ผ่านกองรับเรื่องราวร้องเรียน เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ สตง. กรณีการจัดซื้อรถพยาบาลระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ชมรมแพทย์ชนบท มีส่วนในการเข้ามาตรวจสอบความไม่สุจริตในกระบวนการจัดซื้อรถพยาบาลระดับสูงของ สธ. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทำใน 2 เรื่อง คือขอให้ตรวจสอบการจัดซื้อรถพยาบาลตามโครงการดังกล่าวครอบคลุมไปถึงสมัยที่ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็น รมว. สาธารณสุข หรือเรียกว่าเป็นการจัดซื้อในภาคที่ 1 และให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ สตง.บางคน ที่มีพฤติกรรมไม่เป็นกลาง ชวนให้สงสัยว่าอาจมีส่วนร่วมที่จะช่วยปกป้องการกระทำที่ไม่สุจริตของการจัดซื้อในภาคที่ 1 เพราะเมื่อมีการดำเนินการมาถึงยุคที่ นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล และนายพินิจ จารุสมบัติ เป็น รมว.สาธารณสุข หรือเรียกว่าเป็นการจัดซื้อในภาคที่ 2 นั้น สามารถซื้อรถพร้อมอุปกรณ์ครบได้ในราคาที่ถูกลงกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ถึงคันละ 2.33- 3.58 แสนบาทต่อคัน หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 56-85 ล้านบาท โดยคุณภาพยังเป็นไปตามสเปกที่กำหนดไว้เดิม เพียงแต่ปลดเงื่อนไขที่เอื้อให้กับบริษัทที่สมคบกับนักการเมืองใหญ่ที่มีผลประโยชน์ในภาคที่ 1 แต่ ได้มีการเบี่ยงเบนประเด็นว่าการจัดซื้อในภาค 2 สามารถจัดซื้อได้ถูกลง เพราะมีการลดสเปกอุปกรณ์ต่าง ๆ ลง ซึ่งทำเป็นขบวนการตั้งแต่เริ่ม การจัดซื้อในภาค 2


ตั้งกมธ.ตรวจสอบสุวรรณภูมิ


ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ ได้พิจารณาญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและติดตามการแก้ไขปัญหาสนาม บินสุวรรณภูมิ ของ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน นายประพันธ์ คูณมี สนช.และสมาชิก เป็นผู้เสนอ โดยนายประพันธ์ อภิปรายเหตุผลว่า จากการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาทั้ง ๆ ที่ได้มีการทักท้วงจากหลายฝ่าย เพื่อให้มีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาหลายจุดที่ยังไม่พร้อมก่อนซึ่งในที่สุดก็ได้เปิดใช้สนามบินและปัญหาด้านต่าง ๆ ตั้งแต่การเปิดใช้วันแรกและจนถึงขณะนี้ปรากฏว่าการให้บริการของบริษัทท่าอากาศยาน (ทอท.) ในหลายด้านก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทำให้การใช้บริการของประชาชนมีปัญหาอย่างมาก รวมถึงปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในด้านต่าง ๆ อย่างไรก็ตามหลังจากที่สมาชิกหลายคนได้อภิปรายสนับสนุนการตั้งคณะกรรมาธิการฯแล้ว ในที่สุดที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบตั้งคณะกรรมาธิการฯ 33 คน โดยมีกำหนดระยะเวลาในการศึกษาปัญหาภายใน 90 วัน

>>>ตั้งอนุสอบเช่าเวลาวิทยุ ทบ.
เมื่อเวลา 17.00 น. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. แถลงว่า ในการประชุมวันนี้ ที่ประชุมมีมติให้แต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนในคดีที่สำคัญ ได้แก่ 1.กรณีกล่าวหา เจ้าหน้าที่กรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก ปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ อนุญาตให้บริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง ซึ่งมิได้เข้าประกวดราคา ได้ทำสัญญาเป็นผู้เช่าเวลาของสถานีวิทยุกระจายเสียงจเรทหารสื่อสาร โดยมีนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ 2. เรื่องกล่าวหา เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ทุจริตในการทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินของโรงงานสุราบางยี่ขัน และการคืนภาษีสุราค้างเก่า โดยมีนายเมธี ครองแก้ว กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการ 3.เรื่อง กล่าวหาพนักงานองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ทุจริตต่อหน้าที่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ปี 2544/2545 และปี 2546/2547 ในเขตท้องที่รวม 4 จังหวัด โดยมีนายเมธี ครองแก้ว เป็นประธานอนุกรรมการ


ตั้งอนุสอบทรัพย์สิน "แม้ว"


นายปานเทพกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สิน และหนี้สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องมาจากที่นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีหนังสือขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ในกรณีขายหุ้นให้กับบริษัทแอมเพิลริช อินเวส เม้นท์ ลิมิเตด ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น ว่าเป็นการขายจริงหรือไม่ อย่างไร ป.ป.ช.ได้มีมติแต่งตั้งอนุกรรมการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการ

>>>ไม่เลื่อนคดีโอนหุ้นชินคอร์ป
เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการ พิจารณาคดีการโอนหุ้นชินคอร์ป มูลค่า 738 ล้านบาท ระหว่าง น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี กับนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ภายหลังที่มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องยื่นเอกสารขอความเป็นธรรมเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้การพิจารณาคดีเลื่อนจากวันที่ 7 ธ.ค. ไปอีก นายปานเทพ กล่าวว่า ได้มีการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุม และสรุปว่า การพิจารณาคดีดังกล่าวจะยังเป็นวันที่ 7 ธ.ค. เพราะได้มีการกำหนดวาระการประชุมแล้ว เมื่อหนังสือขอความเป็นธรรมมาทีหลัง ก็ต้องนำเข้าพิจารณาทั้งสำนวน และหนังสือขอความเป็นธรรมที่ถูกยื่นมา และก็วินิจฉัยว่า มีความผิดจริงหรือไม่ ถ้าพบว่ามีความผิด ก็ดูว่าใครมีความเกี่ยวข้องบ้าง

น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์กรณีเดียวกันนี้ว่า คณะอนุกรรมการฯชุดที่มีตนเป็นประธาน จะต้องนำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และหลักฐานที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรยื่นข้อมูลเพิ่มเติมล่าสุด มาพิจารณาดูอีกครั้งเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งคณะอนุกรรมการฯจะต้องนำหลักฐานดังกล่าวมาพิจารณาว่า เป็นข้อมูลหลักฐานใหม่หรือไม่ อาจจะต้องเรียกประชุมคณะอนุกรรมการฯเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบว่าหลักฐานที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรยื่นมาใหม่นั้น เป็นเรื่องใด เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด.








ขอขอบคุณ







เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์