บรรหารขอโทษพลุตรุษจีนระเบิด สั่งช่วยเหลือเต็มที่

บรรหารขอโทษพลุตรุษจีนระเบิด สั่งช่วยเหลือเต็มที่

จากเหตุการณ์พลุระเบิดในงานตรุษจีนกลางเมืองสุพรรณบุรีเมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมานี้ ความคืบหน้าวันนี้ (25 ม.ค.)

 นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ ผวจ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบว่า แรงระเบิดของพลุมีรัศมีประมาณ 3 กิโลเมตร ทำให้บ้านเรือนชุมชนที่อยู่โดยรอบเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย คาดว่าหากรวมทั้งบ้านเรือนที่ถูกไฟไหม้และความเสียหายที่เกิดจากแรงดันของระเบิดแล้ว อาจมีมากถึง 100 หลังคาเรือน แต่มีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้มี 30 หลัง ส่วนสาเหตุการระเบิดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายวิทยาการอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เกิดจากความผิดพลาดจากอุปกรณ์ในส่วนใด หรือเกิดจากความประมาท

สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตมี 3 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุและที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จุดพลุ

ขณะที่ผู้บาดเจ็บสาหัสมี 2-3 ราย และผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ มีหลายคนที่กลับบ้านได้แล้ว โดยขอให้โรงพยาบาลดูแลรักษาอย่างดีที่สุด ส่วนงานฉลองตรุษจีนยังคงจัดต่อไปจนถึงวันที่ 29 ม.ค.นี้ แต่ได้สั่งห้ามจุดพลุโดยเด็ดขาด


ด้าน นพ.ชัชรินทร์ ปิ่นสุวรรณ ผอ.รพ.เจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บ 15 ราย ที่เข้ามารักษาตัว หากอาการดีขึ้นก็กลับบ้านได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งโรงพยาบาลจะดูแลรักษาเป็นอย่างดี

ขณะที่ พ.ต.ทรงพล เอี่ยมบุญฤทธิ์ อดีตนายทหารกรมสรรพาวุธทหารบก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเรื่องพลุ ให้ความเห็นว่า การจุดพลุด้วยระบบไพโรเทคนิคเป็นระบบที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว เป็นการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ หากไม่มีความผิดพลาดของอุปกรณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่า น่าจะมีการระเบิดจากลำกล้องที่ยิงพลุในระดับต่ำ จนเกิดชนวนไฟฟ้าทำให้เกิดระเบิด และสะเก็ดไฟไปโดนพลุที่อยู่ในท่อที่เตรียมไว้ จนเกิดระเบิดขึ้นพร้อมกัน จากกระบอกท่อจุดพลุมีการเอียง นอกจากนี้ อาจเกิดจากท่อจุดพลุที่ไม่แข็งแรงพอ อาจทำให้ท่อปริจนเกิดระเบิดได้ หรือเกิดจากลูกพลุอาจจะทะลุ จนเกิดระเบิดคาลำกล้อง

ทั้งนี้ โดยมาตรฐานแล้ว ท่อยิงพลุต้องตรวจสอบว่าแข็งแรงหรือไม่ และท่อต้องตั้งอยู่ในหลุมทรายลึก

พร้อมมีบังเกอร์ล้อมรอบเพื่อความปลอดภัย หากฐานตั้งท่อพลุเอียงจะทำให้ลูกพลุหลุดออกมาในระดับต่ำทำให้เกิดระเบิด ซึ่งโดยสรุปแล้วตำแหน่งในการยิงพลุต้องไกลพอสมควร ท่อต้องตั้งในหลุมทรายและท่อพลุต้องไม่เอียง ที่สำคัญเครื่องยิงพลุมีรอยร้าวหรือไม่

นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า

เบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 31 คน รักษาตัวอยู่ที่ รพ.เจ้าพระยายมราช และ รพ.ศุภมิตร อีก 9 คน โดยคณะผู้จัดงานพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือภายใน 24 ชั่วโมงนี้ ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ด้วย และเท่าที่ทราบจากตำรวจเบื้องต้นระบุว่า สาเหตุมาจากการตั้งพลุในจุดที่ผิดพลาด ซึ่งคงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหาหลักฐานที่ชัดเจนอีกครั้ง และขณะนี้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

"จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายฝ่ายหลายหน่วยงาน ทั้งคณะกรรมการจัดงานและทางจังหวัด หน่วยงานป้องกันภัย ส.ส.ในพื้นที่ และภาคเอกชน ได้ร่วมกันช่วยเหลือดูแลประชาชนตลอดทั้งคืนจนถึงเช้านี้ ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้รับบาดเจ็บ หรือบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหาย นายบรรหารได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างเต็มที่ และพร้อมจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด เพราะเข้าใจความรู้สึกของผู้สูญเสียเป็นอย่างดี โดยนายบรรหารย้ำว่ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องขอโทษชาวสุพรรณบุรีและประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน" นายวราวุธ กล่าว

ส่วน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา บุตรสาวนายบรรหาร กล่าวว่า ตนพร้อมด้วย คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา มารดา
 
จะเดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุพลุระเบิดที่โรงพยาบาลและศูนย์อพยพ ซึ่งเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ หากไม่มีตัวมังกรกั้นไว้ คนที่อยู่ด้านหน้าเวทีอาจบาดเจ็บไปด้วย ยืนยันว่าคณะกรรมการจัดงานพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ และในวันนี้จะหารือในรายละเอียดเรื่องการช่วยเหลือ ซึ่งนายบรรหาร บิดา เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสั่งการให้ช่วยเหลืออย่างเต็มที่.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์