น้ำผึ้งหยดเดียว-ตาย4ศพ ศึกคนใช้เอาใจเจ้านาย นวดแย่งทิป-กราดยิงดุ!

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

ว่าเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวจะบานปลายกลายเป็นเหตุฆ่ากันตายถึง 4 ศพ เมื่อนายพิชัย วันชาญเวท อายุ 65 ปี คนใช้รุ่นใหญ่ก่อเหตุสยองใช้ปืน .380 กราดยิงนางสำอาง พ้นภัย สาวใช้รุ่นใหญ่วัยใกล้เคียงกันสิ้นใจตาย มิหนำซ้ำยังกราดยิงนางชลอ พ้นภัย อายุ 62 ปี น้องสาวนางสำอาง ร่วงไปอีกราย แล้วบ้าคลั่งบุกยิงนายนรชัย สายสวัสดิ์ อายุ 30 ปี ลูกชายนางสำอางเข้าที่ลิ้นปี่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะกราดยิงนางสุพัตรา คำสอน อายุ 40 ปี ญาตินางสำอางอีก 7 นัดจนสิ้นใจตาย สุดท้ายตัวเองก็ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงตัวตายตามไปอีกราย

สังเวยคมกระสุน 4 ศพบาดเจ็บสาหัสอีก 1

แทบไม่น่าเชื่อว่าสาเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้จะเกิดจากเรื่องเล็กๆ อันสืบเนื่องมาจากนายพิชัยขัดแย้งกับนางสำอางในเรื่องการดูแลเอาใจนายจ้างและพูดจาถากถางเรื่อยมา วันเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง นายพิชัยมีเพียงตัวคนเดียวเลยตกเป็นเป้าถูกรุมด่า

สุดท้ายเลยระบายแค้นออกมาด้วยเสียงปืน

เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นตอนสายวันที่ 22 ก.ค. พ.ต.ท.ปรีชา เอี่ยมพ่อค้า สวส.สน.บางเขน รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตหลายศพ เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 38 ซ.พหลโยธิน 34 แยก 4 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศานุจารย์ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.ภัสพงษ์ บุตรไทย รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.วิศิษฐ์ หมื่นสุวรรณ์ สว.สส. แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น

ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณไร่เศษ เป็นบ้านของนายพิริยะ ณ ระนอง อายุ 67 ปี เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่และไส้กรอกยี่ห้อ "สวีท" ส่งจำหน่ายตามร้านอาหารหรูและโรงแรมหลายแห่ง

และที่สำคัญนายพิริยะยังเป็นพ่อตาของนายธนิตพล ไชยนันทน์

อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ตาก อีกด้วย แต่ในปัจจุบันนายพิริยะล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์มานานแล้ว จึงได้แต่นอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านโดยมีคนใช้และลูกๆ คอยปรนนิบัติพัดวีดูแลอาการ

และด้วยเหตุผลนี้เองที่กลายเป็นสาเหตุการสังหาร!?!

ที่บริเวณชั้นล่างซึ่งเป็นห้องพักคนรับใช้ พบศพนางสำอาง มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 103 ตรอกนาวา แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. นอนตายในสภาพศพตะแคงซ้าย สวมเสื้อคลุมลายดอกสีเหลือง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .380 เข้ากกหูขวา แก้มซ้าย และศีรษะด้านหลังเลือดนองเต็มพื้น

ถัดไปบริเวณหน้าห้องน้ำพบศพนางชลอ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่หางคิ้วซ้าย

กระสุนทะลุโหนกแก้มฝังหัวไหล่ขวา ภายในห้องพบปลอกกระสุน 5 ปลอก หัวกระสุน 2 หัว

ส่วนห้องพักอีกห้องซึ่งอยู่ติดกัน พบศพนายพิชัยมือปืน

ที่ก่อเหตุสิ้นใจตายในสภาพนั่งฟุบอยู่หน้าประตู มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย ข้างตัวพบอาวุธปืนยี่ห้อโคลท์ .380 ทะเบียน กท 3713782 มีกระสุนค้างอยู่ในแม็กกาซีน 4 นัด และพบแม็กกาซีนเปล่าตกอยู่ 1 อัน กระสุนตกอยู่กับพื้น 1 นัด และปลอกกระสุนอีก 1 ปลอก จึงเก็บเป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ยังมีคนถูกยิงอีก 2 คน

คือ นางสุพัตรา มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 74/75 ต.เสนา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกยิงเข้าที่ท้ายทอย ต้นแขนซ้าย สีข้างซ้ายทะลุขวา และหน้าอก รวม 7 แห่ง ไปสิ้นใจตายที่โรงพยาบาล ที่รอดมาได้คือนายนรชัย ลูกชายนางสำอาง ซึ่งถูกยิงเข้าที่ลิ้นปี่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ทัน

บ้านหลังนี้นองไปด้วยเลือด

ตำรวจสอบปากคำนายพีระเวท ณ ระนอง อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านได้ความว่า ปกติบ้านหลังนี้พักอาศัยด้วยกัน 8 คน ประกอบด้วย นายพิริยะ ภรรยา และลูกๆ รวม 6 คน มีนายพิชัยกับนางสำอางเป็นคนใช้ทำหน้าที่พ่อบ้านแม่บ้าน ส่วนคนถูกยิงรายอื่นเป็นญาติของนางสำอางซึ่งเดินทางมาเยี่ยมและขอพักอาศัยเพียง 2 วันเท่านั้นแต่ก็มาเกิดเรื่องจนได้

สำหรับนางสำอางเป็นคนรับใช้เก่าแก่ ทำงานที่บ้านหลังนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว

ขณะที่นายพิชัยเป็นลูกน้องเก่าแก่ของนายพิริยะ ซึ่งนายพิริยะส่งเสียให้เรียนหนังสือจนมีงานทำเป็นช่างซ่อมเรือเดินสมุทร แต่ตอนหลังถูกปลดเพราะอายุมาก จึงออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวแต่ขาดทุน นายพิริยะจึงรับเข้ามาทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ได้ประมาณ 2 ปี

หลังจากที่นายพิชัยเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็มีปัญหากระทบกระทั่งกับนางสำอางเรื่อยมา

ขัดแย้งกันแทบจะทุกเรื่อง เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง เรื่องใหญ่ที่ทั้งคู่ทะเลาะกันประจำคือการแย่งกันนวดนายพิริยะซึ่งจะได้ทิปงามจนแย่งกัน

ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง

คราวนี้นางสำอางซึ่งมีญาติที่มาเยี่ยมช่วยรุมด่านายพิชัยข้างเดียว แม่ของผมจึงเข้าไปห้าม และไล่ทั้งสองฝ่ายเข้าห้องพักของตัวเองไป แต่พอคล้อยหลังจากนั้นหลังจากแม่กลับเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เมื่อออกมาดูก็พบว่าฆ่ากันตายแล้ว นายพีระเวทเล่าอย่างระทึก

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุครั้งนี้ว่า

เกิดจากการที่นายพิชัยควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เพราะถูกรุมด่าอย่างสาดเสียเทเสีย สุดท้ายจึงเข้าไปหยิบอาวุธปืนส่วนตัวที่อยู่ภายในห้องออกมาไล่ยิงนางสำอางและญาติๆ จนหมดแม็กกาซีน หลังจากนั้นจึงย้อนกลับเข้าไปภายในห้อง เปลี่ยนแม็กกาซีนยิงตัวตายหนีความผิดที่ก่อไว้ เจ้าหน้าที่จึงส่งศพผ่าพิสูจน์เพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

สังเวยความตายเพราะเหตุน้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆ

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์