น้ำป่าถล่ม 2 จว. ตาย 4 หายอีก 3

สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีฝนเทกระหน่ำบริเวณป่าสงวนแห่งชาติภูเปลือยและภูขี้เถ้า อ.ด่านซ้าย จ.เลย ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันที่ 9 ก.ย. ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 10 ก.ย. ปรากฏว่าตอนประมาณตี 3 วันเดียวกัน ได้มีน้ำป่าพัดถล่มพื้นที่บ้านน้ำพุง หมู่ 3 ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย  อย่างหนัก บ้านเรือน 4 หลังที่อยู่ปากแม่น้ำดงทิพย์ ถูกกระแสน้ำซัดพังพินาศในพริบตา ประกอบด้วยบ้านเลขที่ 1 เป็นบ้านของนายเล่ง วงอุปรี อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 125 บ้านของนายสมร แสงราช และบ้านเลขที่ 145 บ้านนางมิตร ศรีชามก เคราะห์ดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ เพราะพากันหนีทัน
  

ส่วนบ้านเลขที่ 130 นอกจากถูกน้ำซัดบ้านพังพินาศเหลือแต่ซากปรักหักพังแล้ว

ในส่วนของนายสามย้าย อินสา อายุ 38 ปี เจ้าของบ้าน และนางโสมยุพิน ศรีชามก อายุ 42 ปี กับ ด.ช.กิจวัตร ศรีชามก อายุ 10 ขวบ สมาชิกในครอบครัวหายไปกับสายน้ำ หลังน้ำลด พล.ท.สุจิตร สิทธิประภา แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งการให้ พล.ต. วีระพงศ์ คงเกษม ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกจังหวัดเลย นำกำลังทหาร ตำรวจ ตชด. อส. อาสาสมัครมูลนิธิสว่างคีรีบูชาธรรม ออกค้นหาผู้สูญหายไปตามลำน้ำพุง กระทั่งพบศพนางโสมยุพิน ศรีชามก ติดอยู่บนกิ่งต้นมะม่วง สูงประมาณ 3 เมตร มีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง และศพ ด.ช.กิจวัตร ศรีชามก หนูน้อยเคราะห์ร้าย ซึ่งพบศพห่างกันไม่มาก ส่วนนายสามย้าย ยังค้นหาไม่พบ ต่อมานายสำเริง เชื้อชวลิต ผวจ.เลย พร้อมด้วยนางวนิดา เชื้อชวลิต นายกเหล่ากาชาด จ.เลย และคณะ  ได้เดินทางไปตรวจพื้นที่เกิดเหตุ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ฝนเริ่มตกตั้งแต่หัวค่ำกระทั่งเที่ยงคืน ขณะนอนอยู่ในบ้าน ต้องสะดุ้งตกใจตื่นเนื่องจากมีน้ำท่วมที่นอน ตอนแรกพยายามควานหาเงิน 2,500 บาท ที่ซุกซ่อนไว้ใต้หมอน แต่ไม่ทันกาล น้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงรีบเผ่นหนีขึ้นฝั่ง ถูกกระแสน้ำซัดบ้านพังหายไปกับสายน้ำ เหลือเสื้อกับกางเกงติดตัวเท่านั้น ด้านนางมิตร ศรีชามก กล่าวว่า ครอบครัวตนมีอยู่ 4 คน ตอนรู้สึกตัวพบว่าน้ำได้ท่วมเต็มบ้านแล้ว เปิดประตูไม่ได้ จึงได้ปีนหนีทางหน้าต่าง ขึ้นไปอยู่บนหลังคาท่ามกลางสายฝน จนรุ่งเช้าคณะกรรมการหมู่บ้านช่วยเหลือลงมาจากหลังคา รอดตายมาได้หวุดหวิด

นายสันติภาพ เชื้อบุญมี นายกเทศมนตรีตำบลด่านซ้าย กล่าวว่า

ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลด่านซ้าย ได้มีน้ำล้นตลิ่งจากลำน้ำหมัน ท่วมบ้านเรือนราษฎรประมาณ 30 หลังคาเรือน ตนและสมาชิก พร้อมเจ้าหน้าที่ได้นำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ความช่วยเหลือแล้ว ส่วนนายอารยะ รัตนมงคล ผอ.ร.ร.ด่านซ้าย กล่าวว่า โรงเรียนด่านซ้าย ถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตร เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนได้สั่งปิดโรงเรียนไม่มีกำหนดจนกว่าน้ำจะลดเป็นปกติแล้ว สำหรับการค้นหาผู้สูญหาย ค่ำวันเดียวกันยังไม่พบเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตที่พบศพแล้ว 2 ศพ และยังสูญหายอีกคน 

ส่วน จ.เพชรบูรณ์ น้ำป่าจาก อ.ด่านซ้าย จ.เลย เขตพื้นที่ติดต่อกัน พัดถล่มพื้นที่บ้านหนองใหญ่ หมู่ 1 และบ้านแก่งโตน หมู่ 2 ต.นาซำ อ.หล่มเก่า

บ้านเรือนพังพินาศรวม 8 หลัง เสียหายบางส่วนกว่า 70 หลังคาเรือน นางกูด แก้วเข้ม อายุ 68 ปี ถูกกระแสน้ำพัดเสียชีวิตอนาถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเพชรบูรณ์ ค้นศพพบแล้ว ขณะที่นางจำปี แก้วเข้ม อายุ 28 ปี ญาตินางกูด กำลังตั้งท้อง 4 เดือน กับลูกสาววัย 4 ขวบ ยังสูญหายค้นหาไม่พบ นายต่อพงษ์ อ่ำพันธุ์ ผวจ.เพชรบูรณ์ พร้อม อส. นำข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภคเข้าช่วยเหลือชาวบ้านเบื้องต้นแล้ว 

ประมาณตีสามขณะกำลังนอนหลับกับสามีและลูกสาวในบ้าน ต้องสะดุ้งตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงอึกทึกครึกโครมและไฟฟ้าดับวูบมองอะไรไม่เห็น ชั่วอึดใจเดียวบ้านพังทลายไหลไปกับสายน้ำ สามีรีบกระโดดออกจากบ้าน ส่วนตนได้กอดลูกสาวไว้หนีไม่ทัน ถูกกระแสน้ำพัดไปติดกับต้นมะพร้าวห่างจากบ้านราว 300 เมตร ได้เกาะต้นมะพร้าวจนถึงเช้าจึงมีคนมาช่วย ส่วนสามีนั้นลอยห่างออกไปจากที่ตนและลูกสาวเกาะต้นมะพร้าวอีกประมาณ 300 เมตร มีกองไม้ทับร่างอาการสาหัส ถูกนำส่ง รพ.หล่มเก่า ต่อมาเย็นวันเดียวกันหน่วยกู้ภัยฯค้นหาศพพบอีกรายคือ ด.ญ.พัชราภรณ์ พรมพวง อายุ 4 ขวบ ชาวบ้านแก่งโตน รวมผู้เสียชีวิตที่ค้นศพพบในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์แล้ว 2 ศพ ยังสูญหายอีก 2 คน 

นายชัยณรงค์ ดูดดื่ม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ป่าภูหลวง กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดมหันตภัยครั้งนี้เกิดจากพื้นที่ป่าสงวนถูกตัดไม้ไปเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำไม่มีแหล่งดูดซึม พอเกิดฝนตกหนักจึงไม่สามารถเก็บน้ำไว้ได้ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักท่วมบ้านเรือนสร้างความเสียหายให้แก่ราษฎร
 

ด้าน จ.พิษณุโลก น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ อ.นครไทย เรือกสวนไร่นาจมอยู่ใต้บาดาลหลายหมู่บ้าน

ถนนสายนครไทย-ร่องกล้า ถูกน้ำท่วมสูง 7 จุด รถสัญจรผ่านไปมาไม่ได้ หลังรับรายงานนายประพันธ์ ภู่งาม นายอำเภอนครไทย พร้อมด้วยนายธวัชชัย กันนะพันธ์ นายก อบจ.พิษณุโลก เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ ต.เนินเพิ่ม ถูกน้ำท่วมหนักสุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 40 ครัวเรือน ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ พืชผลทางการเกษตรรวมทั้งสัตว์เลี้ยงเสียหายยับเยิน โรงเรียนในพื้นที่สั่งปิดเรียนทันที 5 โรง ขณะที่นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปพักค้างแรมบนอุทยานแห่ง ชาติภูหินร่องกล้า 50 คน ได้เดินเท้าลงทางบ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า ด้วยความปลอดภัยทุกคน  

วันเดียวกันกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยว่า

เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขา หรือที่ใกล้ทางน้ำไหล อาทิ จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร เลย หนองคาย ชัยภูมิ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และนครราชสีมา ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามัน มีกำลังปานกลางความสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ